ชี้ขาดที่งบ!

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*เดี๊ยนขอเรียนให้ทราบตามตรงว่า ไม่ได้รู้สึกแปลกใจที่เห็นตลาดหุ้นไทยรูดหนักอีกเที่ยว เพราะไม่มีตัวแปรที่ทำให้มั่นใจว่า หุ้นจะแรลลี่กันยาว ๆ บวกกับทุกคนกำลังลุ้นงบไตรมาส 3 จะออกมาดีกว่าที่คาดขนาดไหน ? เลยทำให้สถานการณ์ของตลาดหุ้นชุลมุนชุลเกกันยกใหญ่ หลังงบของหุ้นขนาดใหญ่ต่ำกว่าคาดหลายราย ผนวกกับงบของหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กไม่ปังอย่างที่ควรจะเป็น เลยทำให้หลายอย่างดูติดขัดไปหมดไงละค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ได้ศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมขึ้นมาอีกนิดหนึ่งว่า “ผลงานดี” หรือ “ผลงานไม่ดี” พวกนักลงทุนสถาบันก็ขายทิ้งแบบไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ส่งผลให้สถานภาพของตลาดหุ้นไทยยังคงง่อนแง่นต่อไปอย่างไม่มีกำหนด จึงไม่ต้องตกใจกับการอ่อนตัวของดัชนีลงมาปิดที่ 1,668.52 จุด ลบไป 13.21 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.47 หมื่นล้านบาท เพราะมันฟ้องว่า ยังคงเป็นการเล่นรอบเหมือนเดิมนะคะ

*ถึงกระนั้นก็อยากให้นักเล่นมองให้ลึกลงไปนิดหนึ่งว่า การขึ้นลงของหุ้นยังตั้งอยู่บนพื้นฐานวันยังค่ำ ! หากบริษัทยังทำผลงานดีแบบเสมอต้นเสมอปลาย ราคาหุ้นจะถีบตัวขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมอยู่ดี “โมนิก้า” ถึงชอบให้แฟนคลับโฟกัสไปยังหุ้นที่เดินหน้าทำกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง เพราะหุ้นเหล่านั้นจะเป็นทีเด็ดสำหรับการลงทุนในรอบนี้เจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของน้องเหน่อ NER ทะยานขึ้นมาปิดที่ 2.32 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 10.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.17 พันล้านบาท ล้วนเป็นผลพวงจากกำไรไตรมาส 3 โตระเบิด ผสานกับกำไรงวด 9 เดือน ปี 61 ก็โตอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หุ้นถึงวิ่งกลับขึ้นมาอย่างร้อนแรง และมีลุ้นวิ่งขึ้นไปยืนเหนือ IPO 2.58 บาทในไม่ช้า จึงเป็นหุ้นที่น่าเคาะขวาเบา ๆ พะยะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ BEC ทำผลงานได้ดีขึ้นกว่าที่หลายคนวิตกกังวล บรรดาขาลุยก็กระโจนเข้าใส่ไม่ยั้ง จนหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 6.25 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 6.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 330 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของฝีมือการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพของเฮีย “ชาคริต” ซึ่งว่ากันว่า เขาเป็นหนึ่งในคนที่อยู่เบื้องหลังการจัดการที่ยอดเยี่ยม วันนี้ถึงเป็นช็อตที่ต้องตามไปดูนะคะ

*ส่วนในรายของนู๋ซ่า NUSA ถูกสังคมหุ้นคาดหมายกำไรในปี 61 จะออกมาสวยงาม หลังมีการตัดขายหุ้นเพื่อบันทึกกำไรพิเศษเข้ามาในปีนี้ หุ้นถึงทะยานขึ้นแรง 2 วันซ้อน ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 0.42 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 13.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 65 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของพวกเสือปืนไวมากกว่าช็อตเล่นยาว ๆ จึงต้องระวังตัวกันไว้บ้างนะจะบอกให้

*สำหรับในรายของ BLA กลายเป็นหุ้นที่น่าจับตามากสุดอีกครั้ง หลังงานในไตรมาส 3 ออกมาดีสุด ๆ บวกกับหุ้นเพิ่งขยับขึ้นจากฐานอย่างจริงจัง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับดูการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 33 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 3.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 178 ล้านบาท เทียบกับยอดแรกที่บริเวณ 36 บาท มันมีโอกาสที่หุ้นจะวิ่งขึ้นไปมากน้อยแค่ไหน ? ลองตามดูให้ดี เพราะพลาดแล้วอาจเสียใจนะซี

*คล้ายกับกรณีของน้องดูดี DOD ถูกเก็งกันว่ากำไรจะโตระเบิดระเบ้อเหมือนกัน จนนักลงทุนทยอยช้อนหุ้นเก็บไว้ในพอร์ตเมื่อย่อตัวลงมาตลอดเวลานั้น “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่ต้องลุยสุดซอยกันไปเลย ไม่มีเวลาต้องรีรออะไรทั้งสิ้น เพราะการที่หุ้นยืนปิดเสมอตัวที่บริเวณ 14.40 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 64 ล้านบาท เซียนหุ้นเขาเม้าท์อาการลักษณะนี้ว่า เตรียมวิ่งแรงนะคะ

*เม้าท์ถึงเรื่องหุ้นที่มีทิศทางเติบโตสวยหรูขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องหันไปมองหุ้นทีเด็ดอย่างเช่น BGRIM เพื่อทำให้แฟนคลับรู้ว่า อนาคตของบริษัทจะไปไกลกว่านี้อีกเยอะ ! และราคาหุ้นไม่ควรหยุดเพียงแค่นี้ถูกไหม ? แถมงานสัมมนาของหนังสือพิมพ์ “ข่าวหุ้น” เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีการแบไต๋ให้รู้ว่า ธุรกิจไฟฟ้าเติบโตทั้งภายในประเทศและต่างประเทศด้วยแล้ว เดี๊ยนบอกได้คำเดียวว่า ราคาปิดที่ 27.25 บาท ถูกเกินไปเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่ทำเอานักเล่นช็อกตาตั้ง “โมนิก้า” คงเบนเข็มไปยังหุ้นโรงหมอ CHG ถูกถล่มอย่างหนักตั้งแต่เปิดเทรด จนราคาหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 2.14 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 12.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 752 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่า นักเล่นผิดหวังกับตัวเลขผลประกอบการ และถ้ามองย้อนกลับไปจะเห็นว่า เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นให้เห็นมาแล้วแบบนี้..คงต้องจำไว้เป็นบทเรียน (ดูกราฟจะเห็นชัด) นะจะบอกให้

*ป.ล.อาการทรุดตัวลงหนักเที่ยวนี้ไม่มีอะไรมาก แค่กลุ่มนักเล่นพวก “กองทุน” กับ “ฝรั่ง” ไม่อยากห่อหุ้นข้ามสัปดาห์ จึงขายหุ้นออกมาบางส่วนเพื่อความปลอดภัย ก็คือลักษณะมันนี่เกมธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรต้องคิดมาก..เดี๋ยวสัปดาห์นี้ก็มาลุยใหม่อยู่ดีนะจ๊ะ