DDD หอยทากเมือกแห้ง..!?

หุ้นบริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เป็นหุ้นเครื่องสำอางที่เกิดและเติบโตมากับยุคครีมหอยทากเฟื่องฟู โดยมีแบรนด์ SNAIL WHITE เป็นตัวชูโรง..!! จัดเป็นหุ้นที่สร้างสีสันให้ตลาดหุ้นไม่น้อย เพราะเข้ามาเทรด ( 26 ธ.ค.60) ได้ไม่นาน ราคาวิ่งทะลุ 121 บาท (ราคาไอพีโอ 53 บาท) พร้อมความคาดหวังที่ว่าหอยทากตัวนี้ มีโอกาสเติบโตอีกมหาศาล


สำนักข่าวรัชดา

หุ้นบริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD เป็นหุ้นเครื่องสำอางที่เกิดและเติบโตมากับยุคครีมหอยทากเฟื่องฟู โดยมีแบรนด์ SNAIL WHITE เป็นตัวชูโรง..!! จัดเป็นหุ้นที่สร้างสีสันให้ตลาดหุ้นไม่น้อย เพราะเข้ามาเทรด ( 26 ธ.ค.60) ได้ไม่นาน ราคาวิ่งทะลุ 121 บาท (ราคาไอพีโอ 53 บาท) พร้อมความคาดหวังที่ว่าหอยทากตัวนี้ มีโอกาสเติบโตอีกมหาศาล

แต่โลกความเป็นจริงบางทีความคาดหวังและความจริงมักจะสวนทางกัน เมื่อตัวเลขผลประกอบการของ DDD ในรอบปีที่ผ่านมา ทำเอาผิดหวังไปตาม ๆ กัน

ตัวการหลักที่ทำให้มนต์เสน่ห์ของครีมหอยทากตัวนี้เริ่มเจือจางลง ส่วนหนึ่งมาจากกระแสความนิยมตัวครีมหอยทากที่เริ่มลดน้อยลง ส่งผลให้ยอดขายผลิตภัณฑ์ลดลง

มิหนำซ้ำยังมีกรณีองค์การอาหารและยา (อย.) บุกจับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐานและการสั่งปิดตลาดใหม่ดอนเมือง เป็นตลาดค้าส่งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใหญ่ในประเทศ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำให้ตลาด DDD ชะงักไปพักใหญ่

ไม่เพียงแค่นี้ DDD ยังถูกกระแสข่าวออเดอร์ปลอมกระหน่ำซ้ำเติม ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของ DDD เข้าไปอีก..!!?

ปัจจุบันแม้สถานการณ์เริ่มกลับมาดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากลูกค้ากลับมาได้ทั้งหมด ทำให้ถูกตั้งคำถามว่า DDD จะกลับมาสู่จุดเดิมได้หรือไม่ ??

ขณะที่ตลาดจีน เป็นที่หมายมั่นปั้นมือของ DDD ว่าจะเป็นตลาดส่งออกหลัก ยังทำได้ไม่เต็มที่ เนื่องจากจีนมีมาตรการตรวจเข้มสินค้าเครื่องสำอางเพิ่มมากขึ้น ทำให้ไม่สามารถส่งสินค้าเข้าไปขายในตลาดจีนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

กลายเป็นผีซ้ำด้ำพลอย DDD ไปซะอย่างงั้น..!!

ยิ่งตอกย้ำความชัดเจนเข้าไปอีก จากงบไตรมาส 3/61 ที่พลิกมาขาดทุน 674,000 บาท จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่เคยมีกำไร 44 ล้านบาท

โดยมีรายได้จากการขาย 249.78 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ระดับ 384.04 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขายภายในประเทศ 207.85 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เคยทำได้ 237.60 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการขายต่างประเทศ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมไตรมาส 3/60 ทำได้ระดับ 146.44 ล้านบาท แต่มาไตรมาส 3/61 ลดลงมาอยู่ที่ 41.94 ล้านบาท

ทว่าต้นทุนขาย ไตรมาส 3/61 แม้ลดลงมาอยู่ที่ 97.70 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ระดับ 139.05 ล้านบาท แต่ไม่เพียงพอที่จะชดเชยกับรายได้ที่หายไป

ส่งผลให้งวด 9 เดือน มีกำไร 175 ล้านบาท ลดลง 30.83% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 253 ล้านบาท

ในเชิงการตลาดโจทย์สำคัญที่ DDD ต้องแก้ให้ได้ น่าจะมีแค่ 2 เรื่องหลัก ๆ

เรื่องแรกต้องสลัดภาพแบรนด์ออกจากครีมหอยทากให้ได้ เพราะตราบใดที่แบรนด์ของ DDD ถูกผูกติดอยู่กับคำว่า SNAIL ทำให้คนจะนึกถึงแต่ครีมหอยทาก ทำให้มีข้อจำกัดในการทำตลาด

เรื่องที่สอง ต้องสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างโอกาสในการขยายตลาดให้กว้างขึ้น

แม้ก่อนหน้านี้ DDD จะทุ่มเงินกว่า 100 ล้านเข้าซื้อแบรนด์ อ๊อกซี่เคียว เพื่อหวังขยายตลาดไปสู่เวชสำอาง แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นผลเท่าไร และไม่เพียงพอทำให้ DDD เติบโตอย่างแข็งแกร่งได้

งานนี้หาก DDD ยังไม่ขยับอะไรเพิ่มเติม มีหวังครีมหอยทากตัวนี้คงหมดเสน่ห์ไปไม่วันใดก็วันหนึ่ง

เมื่อถึงวันนั้น…ฟังเพลงน้ำตาหอยทาก คงแสลงหูนักลงทุนน่าดูทีเดียว..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button