50 กองทุนรวมผลตอบแทนสูงช่วงไตรมาส 3
ปัญหานักลงทุนมักมี... 1. อยากลงทุน แต่ไม่มีเวลาติดตาม 2. มีเวลาแต่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องหุ้นและตราสารหนี้ 3. มีเงินไม่มาก แต่อยากลงทุน และ 4. ไม่มีประสบการณ์ลงทุน ไม่มั่นใจจะลงทุนด้วยตัวเอง
เส้นทางนักลงทุน
ปัญหานักลงทุนมักมี… 1. อยากลงทุน แต่ไม่มีเวลาติดตาม 2. มีเวลาแต่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องหุ้นและตราสารหนี้ 3. มีเงินไม่มาก แต่อยากลงทุน และ 4. ไม่มีประสบการณ์ลงทุน ไม่มั่นใจจะลงทุนด้วยตัวเอง
ดังนั้น “กองทุนรวม” ถือเป็นทางเลือกการลงทุนอันดับต้น ๆ ที่ช่วยให้นักลงทุนต่อยอดความมั่งคั่งได้ เนื่องจากกองทุนรวมมีมืออาชีพคอยดูแลการลงทุนให้ใช้เงินลงทุนไม่มาก เริ่มต้นได้ตั้งแต่หลักพันบาทขึ้นไป แถมยังมีกองทุนให้เลือกมากมายหลายประเภท จากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กว่า 20 บริษัท ซึ่งน่าจะมีสักกองทุนที่ให้ผลตอบแทนในระดับที่นักลงทุนพอใจ
ดังตัวอย่าง 50 อันดับกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนสูงในช่วงไตรมาส 3 ปี 2561!!!
สำหรับกองทุนรวมให้ผลตอบแทนสูงสุดในช่วงไตรมาส 3 ปี 2561 เป็น กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นไดนามิค ให้ผลตอบแทน 17.85% รองลงมา กองทุนเปิดภัทร SMALL AND MID CAP EQUITY ให้ผลตอบแทน 17.76%, กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นไดนามิคปันผล ให้ผลตอบแทน 17.62%, กองทุนเปิดกรุงศรีไทยสมอล-มิดแคปอิควิตี้ ให้ผลตอบแทน 17.60%, กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวไทยสมอล-มิดแคปปันผล ให้ผลตอบแทน 16.76%,
กองทุนเปิดกรุงศรีไฟแนนเชี่ยลโฟกัสปันผล ให้ผลตอบแทน 16.65%, กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวแอ็คทีฟ SET50 ปันผล ให้ผลตอบแทน 16.23%, กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นธรรมาภิบาลไทย ให้ผลตอบแทน 150.05%, กองทุนเปิดทาลิส MID-SMALL CAP หุ้นทุน ให้ผลตอบแทน 14.98% และกองทุนเปิดไทยเด็กซ์ SET High Dividend ETF ให้ผลตอบแทน 14.67%
นอกจากนี้ มีอีกหลายกองทุนรวมให้ผลตอบแทนสูง (รายละเอียดผลตอบแทนดูจากตารางประกอบ)
มาถึงตรงนี้…กองทุนรวมถือเป็นหน่วยลงทุนอีกทางเลือกหนึ่ง…เพราะหากเลือกกองทุนรวมดีจากการบริหารจัดการจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่ดี นักลงทุนก็จะได้ผลตอบแทนดีตามต้องการ
ปัญหาที่นักลงทุนกังวลต่อการลงทุนก็จะหายไป!!!
…