U หัวคว่ำ
*ในเมื่อนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ กระโจนเข้าใส่ตลาดหุ้นด้วยยุทธวิธีเคาะสั้น ๆ ตามปัจจัยที่เข้ามากระทบในแต่ละวัน “โมนิก้า” เลยใช้จังหวะดังกล่าวพูดถึงการเคลื่อนตัวของดัชนีในอดีต พร้อมกับขอทำนายการเคลื่อนตัวในอนาคตก็คงไม่ต่างจากเดิมสักเท่าไหร่ ? ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดหุ้นยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่เข้ามาสร้างความเชื่อมั่นแบบบูรณาการ ทำให้ทุกอย่างยังมีลักษณะเก้ ๆ กัง ๆ ต่อไปอย่างไม่มีกำหนดนะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ในเมื่อนักลงทุนกลุ่มต่าง ๆ กระโจนเข้าใส่ตลาดหุ้นด้วยยุทธวิธีเคาะสั้น ๆ ตามปัจจัยที่เข้ามากระทบในแต่ละวัน “โมนิก้า” เลยใช้จังหวะดังกล่าวพูดถึงการเคลื่อนตัวของดัชนีในอดีต พร้อมกับขอทำนายการเคลื่อนตัวในอนาคตก็คงไม่ต่างจากเดิมสักเท่าไหร่ ? ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดหุ้นยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่เข้ามาสร้างความเชื่อมั่นแบบบูรณาการ ทำให้ทุกอย่างยังมีลักษณะเก้ ๆ กัง ๆ ต่อไปอย่างไม่มีกำหนดนะคะ
*ประเด็นดังกล่าวเป็นสถานการณ์ที่บีบหัวใจนักเล่นตลอดเวลาก็จริง แต่อย่าลืมว่า ไซเคิลของดัชนียังวนลูปในลักษณะ U หัวคว่ำมาตั้งแต่ไตรมาส 3 และในไตรมาส 4 น่าจะได้เห็นภาพนี้อีกครั้ง โดยมีกรอบการเล่นใหญ่ ๆ อยู่ในระนาบ 1,600-1,700 จุด “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจรูปแบบการเคลื่อนตัวของดัชนีคงไม่มีเซอร์ไพรส์อะไรอีกต่อไปนะจะบอกให้
*ด้วยเหตุนี้ถึงต้องทำใจเมื่อดัชนีหลุดกรอบแนวรับ 1,650 จุดลงมาอย่างง่ายดาย เพราะทันทีที่ดัชนีหลุดกรอบดังกล่าวลงมา เกจิอาจารย์ดังหลายสำนักก็มองเหมือนกันว่า ดัชนีต้องลงไปทำ double bottom ที่บริเวณแนวรับ 1,600 จุดอีกหนนั้น “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่นักลงทุนจะต้องคิดตั้งแต่เนิ่น ๆ ควรเข้าไป “ซื้อลุ้นเด้ง” หรือ “รอดูก่อน” ลองถามใจเธอดูนะตัวเอง
*ส่วนประเด็นที่หลายคนถาม “โมนิก้า” ว่า “เฮียกวง” แม่ทัพใหญ่ทางด้านเศรษฐกิจออกมาพ่นน้ำลายจนแตกฟอง(หาสาระไม่ได้) มันทำให้อิฉันเกิดความรู้สึกอย่างไรบ้าง ? เดี๊ยนขอตอบตามตรงว่า ฟังเสียงจิ้งหรีดกัดกันยังได้อารมณ์มากกว่า ! ส่วนข่าวเลื่อนเลือกตั้งออกไปจากไทม์ไลน์เดิม มันเป็นเรื่องที่นักลงทุนสถาบันเห็นจนชิน จึงไม่ใช่องค์ประกอบหลักที่ทำให้ชะลอขายหุ้น(ไม่มีข่าวดีแล้วจะถือหุ้นไปเพื่ออะไร) ดัชนีถึงทำได้ดีสุดแค่ยืนปิดที่ 1,635 จุด ลบไป 3.83 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.71 หมื่นล้านบาทไงละค่ะ
*หากต้องการมองภาพดังกล่าวให้ชัดขึ้นมาหน่อย “โมนิก้า” ขอแนะนำให้มองที่หุ้น ADVANC เคยไต่จากบริเวณฐาน 170 บาท จนขึ้นไปถึงระดับ 210 บาท ก่อนจะอ่อนตัวลงมายืนแถว 180 บาท ต่อจากนั้นเด้งกลับขึ้นไปยังบริเวณ 200 บาทอีกครั้ง ถัดจากนั้นก็อ่อนตัวลงมาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายยืนปิดที่ 176.50 บาท ลบไป 1 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.02 พันล้านบาท มันคือรูปตัว U หัวคว่ำ 2 ตัวเรียงติดกันเจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ KBANK ก็อยู่ในโมเมนตัมดังกล่าวเหมือนกัน ซึ่งกรอบหลักอยู่แถว 190-220 บาท ขณะที่กรอบย่อยขยับไปมาบน 200-220 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดยืนอยู่ที่ระดับ 198.50 บาท ลบไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.14 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองในมุมไหน ด้านไหน ก็อยู่ในรูปของ U หัวคว่ำ จึงกลายเป็นช็อตที่เหมาะต่อการช้อนซื้อเมื่ออ่อนตัวลงมาถึงฐานเก่าไงละค่ะ
*ประเด็นดังกล่าวคล้ายกับการเคลื่อนตัวของหุ้น BGRIM โค้งตัวลงมาเรื่อย ๆ จนลงมาป้วนเปี้ยนที่ฐานเก่าก่อนขึ้นบริเวณ 25 บาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ต้องช้อนแบบไม่ต้องมีอาการลังเลใจ เพราะหุ้นตัวนี้มาด้วยสตอรี่ growth เลยทำให้การลงมาปิดที่ 26.25 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 161 ล้านบาท น่าจะเป็นโอกาสทองของคนที่มีเงินเย็น เพราะเป้าขั้นต่ำของหุ้นอยู่ที่ 30 บาทนะจะบอกให้
*ส่วนคนที่ชอบเสี่ยงเป็นชีวิตจิตใจ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันมามอง SUPER ไว้เป็นทางเลือกสำหรับการเก็งกำไรสั้น ๆ เพราะแพตเทิร์นของหุ้นมาแบบ U หัวคว่ำชัดเจนสุดตัวหนึ่ง ผนวกกับหุ้นลงมาแตะขอบเก่าบริเวณ 0.60 บาท เดี๊ยนถึงเชื่อว่า หุ้นจะตีกลับขึ้นไปหายอดแรกที่บริเวณ 0.70 บาทอีกครั้ง จึงทำให้การลงมาปิดที่บริเวณ 0.61 บาท ลบไป 0.03 บาท หรือลงไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 192 ล้านบาท กลายเป็นไฟต์ที่ต้องซื้อนะนายจ๋า !
*ตรงกันข้ามกับในรายของ ASAP โดนทิ้งแบบไม่มีเยื่อใยไมตรี พร้อมกับลืมความหลังเมื่อครั้งเคยหวานชื่น ย่อมเป็นหุ้นอันตรายที่ไม่ควรให้เข้าไปยุ่งเกี่ยว “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นดูอาการทรุดตัวลงมาปิดที่ 3.86 บาท ลบไป 0.46 บาท หรือลงไป 10.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 107 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ยืนทรงตัวแถวราคา 8 บาทมาพักใหญ่ ๆ มันหมายความว่า เลิกวงแล้วใช่ไหม ?
*คล้ายกับกรณีของ BGC โดนกระหน่ำเทขายอย่างหนัก 2 วันซ้อน ทั้งที่ไม่มีสัญญาณบอกเหตุร้ายอะไรสักอย่าง “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องที่น่ากลัวเหนือคำบรรยาย แถมหุ้นรูดทะลุราคาไอพีโอ 10.20 บาทลงมาอย่างง่ายดาย เลยทำให้ราคาปิดที่ 9.95 บาท ลบไป 1.05 บาท หรือลงไป 9.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 410 ล้านบาท อาจไม่ใช่ราคาต่ำสุดของการเล่นเที่ยวนี้นะจะบอกให้
*เหมือนกับในรายของ STA พอถึงบทจะขึ้น ก็ขึ้นแบบไม่สนใจใคร..พอถึงบทจะลง ก็คงแบบไม่ทันตั้งตัว จึงกลายเป็นหุ้นที่ “โมนิก้า” ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ ? เพราะรูปแบบออกไปในโทนพวกมากลากไปมากกว่า เดี๊ยนถึงสงสัยว่า การทรุดตัวลงมาปิดที่ 15.90 บาท ลบไป 1.70 บาท หรือลงไป 9.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 451 ล้านบาท น่าจะเป็นการสวมรองเท้า converse เสียแล้วกระมัง..อิอิอิ