ไม่เก็บหุ้นข้ามสัปดาห์

* การร่วงหล่นของดัชนีจนลงมาปิดที่ระดับ 1,653.73 จุด ลบไป 18.59 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.86 หมื่นล้านบาท ทำให้ทุกคนตระหนักถึงอิทธิพลจากปัจจัยภายนอกรุนแรงกว่าที่คิดหลายเท่า จึงต้องปรับกระบวนยุทธ์ในการลงทุนให้กระชับขึ้นกว่าเดิม และหนึ่งในรูปแบบของยุทธวิธีเที่ยวนี้คงพุ่งเป้าไปยังเรื่อง “ไม่เก็บหุ้นข้ามสัปดาห์” เพื่อนักเล่นจะได้ไม่มีอาการกระวนกระวายใจนะจะบอกให้


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* การร่วงหล่นของดัชนีจนลงมาปิดที่ระดับ 1,653.73 จุด ลบไป 18.59 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.86 หมื่นล้านบาท ทำให้ทุกคนตระหนักถึงอิทธิพลจากปัจจัยภายนอกรุนแรงกว่าที่คิดหลายเท่า จึงต้องปรับกระบวนยุทธ์ในการลงทุนให้กระชับขึ้นกว่าเดิม และหนึ่งในรูปแบบของยุทธวิธีเที่ยวนี้คงพุ่งเป้าไปยังเรื่อง “ไม่เก็บหุ้นข้ามสัปดาห์” เพื่อนักเล่นจะได้ไม่มีอาการกระวนกระวายใจนะจะบอกให้

* ประกอบกับท่าทีของนักลงทุนสถาบันหันมาเล่นสั้นมากขึ้น ดัชนีถึงออกอาการสวิงไปสวิงมาตลอดเวลา พร้อมกับทำให้แนวต้านซอยถี่ขึ้นอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยทุกครั้งที่ดัชนีทรุดตัวลงหนักเมื่อเกิดข่าวลบจากแดนไกล และเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์น่าจะเกิดถี่ขึ้นกว่าปกติ เพราะประเทศมหาอำนาจกำลังทำตัวเป็นพวกเด็กเล่นขายของนั่นไงละคะ

* สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” มองบรรยากาศในช่วงที่มีวันหยุดยาวจะทำให้การเล่นวันนี้ยากขึ้นไปอีก หลังเห็นตัวเลขฝรั่งตาน้ำข้าวสาดหุ้นออกมาแค่ 814 ล้านบาท กลับทำให้ดัชนีทรุดฮวบฮาบอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่การสาดหุ้นเพียงแค่นี้ไม่น่าจะทำให้ตลาดหุ้นมีปัญหา เดี๊ยนถึงต้องหันกลับมามองแนวรับเก่าที่ดัชนีเคยพักในระหว่างทางขาลงเป็นระยะเจ้าค่ะ

* เหมือนกับในรายของ PTT ทำท่าจะไปได้สวยกว่าใครเพื่อนในเที่ยวนี้ พอเอาเข้าจริงกลับเป็นเพียงแค่การเล่นวนลูป เพราะหุ้นลงมาพักตัวบริเวณ 50 บาท และทำท่าจะลงมาหาแนวรับเก่าที่บริเวณ 48 บาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 50.25 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.91 พันล้านบาท มันถึงเวลาต้องเข้าไปรับของหรือยังจ๊ะ

* เช่นเดียวกับในรายของ KBANK มีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 190 บาทคอยประคองค้ำยันให้เห็นกันทนโท่แบบนี้ น่าจะเป็นจุดที่นักเล่นกระโจนเข้าไปทยอยเก็บได้อีกรอบแบบไม่มีข้อแม้ หลังหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 193.50 บาท ลบไป 4.50 บาท หรือลงไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.50 พันล้านบาท แถมมองในมุมของค่า P/E 12 เท่า ย่อมเป็นจุดที่เย้ายวนใจมากเหลือเกินพะยะค่ะ

* คล้ายคลึงกับในรายของ IRPC ทรุดตัวลงมาปิดที่ระดับ 6.05 บาท ลบไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 573 ล้านบาท ซึ่งเป็นการยืนปิดเหนือเส้นแนวรับ 10 วัน กับ 25 วัน “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะที่ต้องเข้าเล่นอีกเหมือนกัน เพราะสัญญาณเทคนิคบอกไว้อย่างชัดเจนว่า หลายครั้งที่หุ้นลงมาแตะเส้นแนวรับดังกล่าว ราคาหุ้นมักเด้งขึ้นเป็นประจำนะจะบอกให้

* ส่วนรายที่ขึ้นแล้วขึ้นเลยอย่างเช่นหุ้น BEM ก็เป็นอีกหนึ่งช็อตที่ทุกคนลงความเห็นในเบื้องต้นกันว่า หุ้นน่าจะวิ่งไปได้อีกไกล เพราะมองในมุมของ growth บวกกับข่าวดีที่มีเข้ามาไม่ขาดสาย มันทำให้แวลูของหุ้นตัวนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ วานนี้ถึงสวนกระแสตลาดหุ้นแดงแป๊ดแป๋ขึ้นมาปิดที่ 9.35 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 852 ล้านบาทไงละคะ

* สำหรับในรายของ PTG ทะยานขึ้นมาปิดที่ 9.95 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 3.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 380 ล้านบาท แถมเป็นการเด้งสวนตลาดหุ้นแดงเถือกแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของความเชื่อที่ว่า ธุรกิจตกถึงจุดต่ำสุด ต่อจากนี้จะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ถึงมีแรงซื้อเข้ามาไม่ขาดสายกันเลยทีเดียว จึงกลายเป็นจังหวะของการ follow buy เพื่อเอามันพะยะค่ะ

* เม้าท์ถึงเรื่องมัน ๆ “โมนิก้า” ต้องมองไปที่หุ้น TCAP หลังมีแรงซื้อเข้ามาพยุงหุ้นตลอดทั้งวัน จนสุดท้ายหุ้นลงมาปิดที่ 53.50 บาท ลบไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 225 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้รู้ว่า หุ้นมีโอกาสทะยานขึ้นไปอีกรอบในไม่ช้า เพราะหุ้นกำลังพยายามวิ่งฝ่าแนวต้านบริเวณ 70 บาท หากผ่านระดับดังกล่าวขึ้นไปได้ รับรองเที่ยวนี้น่าจะมีทีเด็ดให้ดูแน่นอนจ้า!

* เหมือนกับหุ้นโรงเรียนของหนู SISB ประคองตัวตลอดทั้งวัน จนสุดท้ายปิดเสมอตัวที่บริเวณ 4.44 บาท “โมนิก้า” มองเป็นเหตุการณ์ที่หุ้นกำลังรอข่าวดีอะไรบางอย่าง เพื่อสร้างความมั่นใจให้พวกกองทุนเข้ามาเก็บหุ้นอีกรอบ ผนวกกับกูรูหลายรายแสดงความเชื่อมั่นให้เห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ เดี๊ยนถึงไม่วอร์รี่กับการที่หุ้นยังขยับไปไหนไม่ได้สักที เพราะหุ้นตัวนี้ต้องดูยาว ๆ แล้วจะเห็นความเริ่ดสะแมนแตนเจ้าค่ะ

 

Back to top button