ประชานิยมไร้สติ
รัฐบาลคสช. กลายเป็นรัฐบาลที่ใช้จ่าย “มือเติบ” เข้าไปทุกทีแล้ว ทั้งแจกทั้งแถมไม่อั้น บางเรื่องที่คิดว่า ไม่สมควรจะแจกก็แจก เพราะมันล่อแหลมจะเป็นความผิดทั้งทางกฎหมาย และมอมเมาประชาชนให้ติดนิสัยแบมือขอ
ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์
รัฐบาลคสช. กลายเป็นรัฐบาลที่ใช้จ่าย “มือเติบ” เข้าไปทุกทีแล้ว ทั้งแจกทั้งแถมไม่อั้น บางเรื่องที่คิดว่า ไม่สมควรจะแจกก็แจก เพราะมันล่อแหลมจะเป็นความผิดทั้งทางกฎหมาย และมอมเมาประชาชนให้ติดนิสัยแบมือขอ
อย่างเช่นโครงการช็อปช่วยชาติ เอาค่าใช้จ่ายมาหักภาษีได้ หรือจะลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)จาก 7% เป็น 5% ในช่วงตรุษจีนอย่างเนี้ย นี่มันเข้าข่ายละเมิดกฎหมายชัด ๆ และรัฐเองก็จะต้องสูญเสียรายได้มหาศาลไปด้วย
บางเรื่อง ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ขอ แต่รัฐบาลนี้ก็จัดให้ และท่าทางจะจัดเต็มให้เสียด้วย นั่นก็คือ โครงการพักชำระหนี้กองทุนหมู่บ้านเป็นระยะเวลา 3 ปี
ดำรินี้เกิดขึ้นมาจากนักการเมืองพรรคประชารัฐ ที่จะเอาไปหาเสียงกับสมาชิกกองทุนหมู่บ้านส่วนที่มีปัญหาในการชำระหนี้กองทุนหมู่บ้าน ซึ่งมีอยู่ไม่ถึง 2% และรัฐบาลก็เตรียมตั้งท่ารับลูก
เรียกว่าอะไรจะตักตวงเป็นคะแนนเสียงทางการเมืองได้ รัฐบาลเอาหมด
กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง มีด้วยกันทั้งสิ้น 79,595 กองทุน มีทุนประเดิมหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท รัฐบาลจ่ายขาดเงินจำนวนนี้ กิจการให้กู้ยืมสมาชิกก็ดำเนินมาด้วยดี จนบัดนี้มีเงินสดหมุนเวียนมากถึง 3 แสนล้านบาทแล้ว
ฐานะกองทุนก็มั่นคง เพราะมีหนี้เสียจำนวนน้อยมาก ไม่ถึงร้อยละ 2 ด้วยซ้ำ การที่มีหนี้เสียต่ำ ก็ต้องถือว่ามีระบบติดตามชำระหนี้ที่มีประสิทธิภาพมาก เพราะให้สมาชิกในหมู่บ้าน 2 คนเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ยืม
คนในหมู่บ้านก็รู้จักหน้าค่าตากันหมด รู้ถึงโคตรเหง้าเหล่ากอกันดี ฉะนั้นใครเบี้ยวหนี้ ก็จะอยู่ในชุมชนนั้นลำบาก จึงต้องขวนขวายใช้หนี้กันอย่างเต็มกำลัง
รัฐบาลก็กำลังจะเอาปัญหาของคนส่วนน้อย ที่ผมว่ามีหนี้เสียไม่ถึงร้อยละ 2 นั่นแหละครับมาหาเสียงทางการเมือง แต่ต้องทำลายอนาคตของกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งมีอัตราเจริญเติบโตมากขึ้นทุกปี และทำให้คนชนบทได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการสร้างงานสร้างฐานะที่มากขึ้น
เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างหนึ่งว่า ประชาชนในต่างจังหวัดเดี๋ยวนี้ ก็ไม่ได้ตกเป็นเหยื่อการมอมเมาเช่นนี้สักเท่าไหร่แล้ว เพราะทันทีที่มีข่าวนักการเมืองพรรคพลังประชารัฐ เอาเรื่องนี้ไปหาเสียง ก็มีกลุ่มเครือข่ายคนรักกองทุนหมู่บ้านฯ โดยประธานกองทุนหลายหมู่บ้าน เดินทางมาร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีให้ระงับโครงการพักหนี้กองทุนหมู่บ้านนั้นเสีย
แต่ก็อย่างว่าแหละ รัฐบาลชุดนี้ดูจะเสพติดนโยบายประชานิยมอย่างงอมแงมเสียแล้ว และดูจะสำคัญผิดไปเสียด้วยว่า นโยบายประชานิยม ที่ตัวเองเรียกชื่อให้แตกต่างออกไปเป็น “ประชารัฐ” นั้น เป็นแนวทางที่จะแก้ไขเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นมาได้ ซึ่งผิดถนัดเลย
เพราะนโยบายประชานิยม เช่นการแจกเงินใส่มือประชาชนเอาดื้อ ๆ หรือการลดแลกแจกแถม เป็นเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น ในทางเศรษฐศาสตร์อาจจะหามูลค่าได้น้อยมาก
ผิดกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจแบบเชิงโครงสร้าง เช่นการยกระดับสินค้าเกษตร การเพิ่มมูลค่าการค้าขายระหว่างประเทศ การปรับปรุงขีดความสามารถแข่งขันทางการค้า และการปรับโครงสร้างทางอุตสาหกรรมให้มีทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพและการควบคุมต้นทุนต่ำ
มันก็เป็นกระทงหลงทางมาร่วม 5 ปีแล้ว
โครงการกองทุนหมู่บ้านฯ มีความเจริญงอกงามมาเป็นลำดับอยู่แล้ว หนี้เสียก็ไม่เยอะมากเหมือนกับหนี้สถาบันการเงินทั่วไป ประชาชนก็มีความสุขดีอยู่แล้วจากการที่เข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการสร้างงานสร้างฐานะในจำนวนที่สูงขึ้น
รัฐบาลจะหาเรื่องสอดเข้ามาทำไม ชักจะเป็นประชานิยมที่ไร้สติขึ้นทุกวันแล้ว หรือเป็นเจตนาดีประสงค์ร้าย หวังทุบทำลายกองทุนหมู่บ้าน อันเป็น “ภาพจำ” ของทักษิณ ชินวัตร