ประยุทธ์ไม่ใช่ความสงบ

ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง 

ท่ามกลางความกังวลสงครามการค้า เศรษฐกิจโลกผันผวน นักวิเคราะห์มักชี้ชวนให้ซื้อความฝัน “มีเลือกตั้ง” แล้วเศรษฐกิจดีแหง ๆ

ไม่รู้มองแง่ไหน ถ้ามองในแง่เงินสะพัด ก็อาจใช่ อุตส่าห์แจกบัตรคนจน 14.5 ล้านคนคนละ 500 บาท แจกค่าน้ำค่าไฟค่าเช่าบ้านผู้สูงอายุ ช็อปช่วยชาติ หรือ 4 รัฐมนตรีพรรคพลังประชารัฐ จะจัดโต๊ะจีนขายบัตรพ่อค้านักธุรกิจ ระดมทุน 600 ล้าน ก็ชี้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เงินสะพัดแหง ๆ

แต่ถ้ามองอย่าง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ขายฝันว่าปีหน้าเป็นปีทองการลงทุน ถ้าผ่านการเลือกตั้งไปอย่างราบรื่น มีรัฐบาลมั่นคง การเมืองสงบ แล้วเศรษฐกิจไทยจะก้าวกระโดด

ก็ขอบอกว่าไม่มีทาง เพราะทั้งระหว่างเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้ง การเมืองจะไม่สงบ จะปั่นป่วนไปอีกยาว โดยไม่รู้อนาคต ต่อให้สืบทอดอำนาจได้ นายกฯ หน้าเดิมชื่อประยุทธ์

เอาแค่ตอนนี้ ยังไม่เริ่มเลือกตั้ง แค่เริ่มแบ่งเขตเลือกตั้ง แค่ออกแบบบัตรเลือกตั้ง รัฐบาล คสช.ก็ถูกรุมกระหน่ำ ต่อเนื่องจากการดูด ส.ส. และนโยบายแจกไม่อั้น

เดี๋ยวพอประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ถ้าสี่รัฐมนตรียังไม่ลาออก พอสมัครรับเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐส่งชื่อท่านผู้นำเป็นแคนดิเดทเบอร์ 1 โดยยังไม่ลาออก ก็ยิ่งโดนรุมถล่มหนัก

ถึงจะเอาข้างเข้าถู รัฐบาลอื่น นายกฯ หรือรัฐมนตรี ไม่เห็นต้องลาออกระหว่างหาเสียง ก็ย้อนแย้งทั้งหลักการและการปฏิบัติ ท่านไม่ใช่รัฐบาลปกติ ท่านเป็นรัฐบาลอำนาจพิเศษ มีอำนาจเหนือ กกต. ปลด กกต.ได้ด้วยซ้ำ ออกคำสั่ง คสช.ขยายเวลาแบ่งเขตเลือกตั้ง แล้วก็ถูกโวย แบ่งเขตอัปลักษณ์ ประชุมร่วมกับ กกต. และพรรคการเมือง แล้วพูดเองว่าบัตรเลือกตั้งไม่ต้องมีชื่อพรรค

ไม่รู้ทำไมต้องอวดฉลาด ลำพัง กกต. ที่มาจากมติ สนช. ก็ถูกจับตาอยู่แล้วว่าจะไม่เป็นกลาง นี่ยังมาก้าวก่ายอำนาจหน้าที่ของ กกต. ทำอย่างนี้มีแต่พังกับพัง

ไม่ต่างอะไรกับสมศักดิ์ เทพสุทิน “รัฐธรรมนูญนี้ดีไซน์มาเพื่อพวกเรา” ไปเดินบอกชาวบ้าน 250 ส.ว. คสช.ตั้ง เลือกลุงตู่เป็นนายกฯ แน่ ๆ

ยังไม่เริ่มเลือกตั้ง ก็เห็นแล้วว่า การสืบทอดอำนาจผ่าน พล.อ.ประยุทธ์และพรรคพลังประชารัฐ จะถูกต่อต้านอย่างหนัก ไม่เพียงจากพรรคเพื่อไทย จากพลังประชาธิปไตย หากรวมถึงพรรคประชาธิปัตย์ และเครือข่ายคนชั้นกลางในเมือง ที่บางส่วนก็ฉวยโอกาสซักเสื้อกั๊ก

การถูกต่อต้าน ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ระหว่างเลือกตั้ง มีผลต่อการจัดตั้งรัฐบาล ต่อเสถียรภาพรัฐบาล อย่างเลี่ยงไม่พ้น

การเลือกตั้งที่หวังให้เป็นพิธีกรรมสืบทอดอำนาจ ได้ปลุกการเมืองให้คึกคัก พรรคการเมืองที่มีมากมายหลากหลาย แย่งชิงกันแสวงความนิยมจากประชาชน ซึ่งหนีไม่พ้นเสียงบ่นความทุกข์ยากเดือดร้อน 4 ปีที่ผ่านมา

ทุกพรรคก็ต้องวิจารณ์รัฐบาล มีแต่พลังประชารัฐโฆษณาผลงาน ทุกพรรควิจารณ์กติกาไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะประชาธิปัตย์ ตัวแปรสำคัญ ทั้งถูกดูด ทั้งโวยแบ่งเขตอัปลักษณ์ หาเสียงกับชาวสวนยางที่ถูกไล่ไปขายดาวอังคาร วันหน้าจะร่วมรัฐบาลอย่างไร ไม่ให้เสียสุนัข

ประยุทธ์สืบทอดอำนาจได้ ก็ใช่ว่าจะสงบ มั่นคง พลังต่อต้านยังเข้มแข็ง กองหนุนเสื่อมโทรม เสียความรู้สึก ปัญหาต่าง ๆ จะปะทุ ประชาชนกลุ่มต่าง ๆ จะออกมาเรียกร้อง

แต่ถามว่าเปลี่ยนประยุทธ์เป็นคนอื่นได้ไหม ก็ไม่มี เพราะไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล เป็นปัญหาของรัฐธรรมนูญ 2560 ของรัฐประหาร 2557 ซึ่งสถาปนารัฐรวมศูนย์อำนาจ ข่มฝืนใจประชาชน และจำเป็นต้องรักษาอำนาจต่อไป ไม่มีทางลง