ลุ้นรีบาวด์

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* วันนี้ “โมนิก้า” กล้าพูดอย่างเต็มปากเต็มคำว่า บรรดาแมงเม่าเกิดอาการเข็ดขยาดกับการแกว่งตัวลงของดัชนีแบบไม่มีลิมิตชีวิตเกินร้อยกันเป็นจำนวนมาก จึงเริ่มมีการส่งเสียงร้องโอดโอยดังระงมไปทั่วทุกห้องค้า พร้อมกับได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างชัดเจน เหมือนเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นหนทางในการลงทุนเต็มไปด้วยขวากหนามตลอดเส้นทางนะจะบอกให้

* ประกอบกับตัวแปรที่นำมาบอกเล่าเรื่องราวมีแต่เรื่องร้าย ๆ “โมนิก้า” เลยมีอาการห่อเหี่ยวมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เพราะมันปรากฏให้เห็นแล้วว่า ดัชนีรูดทะลุแนวรับสำคัญ 1,600 จุดลงมาอย่างง่ายดาย และตอนนี้กำลังยืนอยู่ที่บริเวณจุดเด้งกลับแถว 1,580 จุดอีกครั้ง แต่เผอิญตลาดหุ้นทั่วโลกได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบลดลง ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก หรือแม้กระทั่งสงครามการค้าระหว่าง “อเมริกา” กับ “จีน” สถานการณ์หลายอย่างเลยดูหนักหนาสาหัสกว่าที่เป็นอยู่นะคะ

* ปัจจัยดังกล่าวทำให้กองทุนในประเทศต้องสาดหุ้นทิ้ง เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดัชนีถึงโรยตัวลงมาปิดที่ 1,583.19 จุด ลบไป 18.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.25 หมื่นล้านบาท มันทำให้เห็นว่า แรงเทขายในเที่ยวนี้เยอะจริง ๆ จนไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้าไปรับของร้อน “โมนิก้า” ถึงมองไม่เห็นหนทางที่ดัชนีจะดีขึ้นอย่างบูรณาการ และต้องนั่งทำตาปริบ ๆ ต่อไปอย่างไม่มีกำหนดเจ้าค่ะ

* เหมือนกับการทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่องของหุ้น SCC ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มันไม่มีเหตุผลอื่นใดมาอธิบายได้ดีเท่ากับกองทุนลดพอร์ต สภาพของหุ้นถึงยับเยินอย่างที่เห็นนี่แหละ! เดี๊ยนเลยไม่มีคำถามค้างคาใจว่า เหตุใดหุ้นถึงทิ้งดิ่งลงมายืนอยู่ที่ 422 บาท ลบไป 6 บาท หรือลงไปอีก 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.15 พันล้านบาท เพราะมันเป็นเรื่องที่หุ้นขนาดใหญ่โดนกันทุกรายน่ะซี

* ไม่เว้นแม้แต่หุ้นปันผลงาม INTUCH ตกอยู่ในสภาพทำราคาต่ำสุดในรอบ 2 ปี 11 เดือน ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 46.50 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 1.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 326 ล้านบาท น่าจะมาจากกำไรในปี 2561 ไม่โตอย่างที่หลายคนคาดหวัง และเรื่องดังกล่าวน่าจะมีผลต่อเนื่องมาถึงปี 2562 หุ้นถึงอยู่ในทิศทางขาลงอย่างชัดเจน และมองไม่เห็นจุดเด้งกลับอยู่ตรงบริเวณไหน จึงไม่ควรเข้าไปตะลุมบอนในจังหวะนี้นะจ๊ะ

* ส่วนคนที่อยากวัดดวงเหลือเกิน “โมนิก้า” ขอให้หันมาดูหุ้น IVL เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบเล่นเสียว เพราะเป็นหุ้นบลูชิพเพียงไม่กี่ตัวที่ยังเคลื่อนไหวในกรอบเดิมบริเวณราคา 50-60 บาท แถมวานนี้โดนกดจนลงไปกองอยู่ที่ 52 บาท ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ระดับ 53.75 บาท ลบไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.07 พันล้านบาท เดี๊ยนมองเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความไวมาเป็นตัวนำในการเล่นหุ้นเจ้าค่ะ

* เช่นเดียวกับในรายของ CPN อาจมีอาการตื้อ ๆ ตัน ๆ ให้เห็นบ้างในบางจังหวะ แต่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะหุ้นยังเคลื่อนตัวในในรูปแบบ W-Shape “โมนิก้า” ถึงมองเป็นช็อตของการเล่นรอบสั้น ๆ สำหรับพวกเสือปืนไว บวกกับสตอรี่ของหุ้นยังไปได้สวย วานนี้ถึงเห็นหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 75.25 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 503 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทรุดตัวน้อยกว่าบลูชิพตัวอื่นอย่างชัดเจนพะยะค่ะ

* ส่วนคนที่ “ถนัดของเล็ก ราคาย่อมเยา” ต้องหันมามองหุ้น GUNKUL หลังราคาหุ้นอ่อนตัวลงมายืนใกล้เส้นแนวรับเดิมบริเวณ 2.80-2.70 บาท จึงมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะเด้งกลับขึ้นไปหาแนวต้านแรกที่บริเวณ 3.20 บาท หากทะลุระดับดังกล่าวขึ้นไปได้แบบชิว ๆ ก็มีลุ้นถึงยอดเดิมบริเวณราคา 3.40 บาท น้องโมถึงอยากให้น้องหนูทั้งหลายมองราคาปิดที่ 2.88 บาท ลบไป 0.16 บาท หรือลงไป 5.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 104 ล้านบาท น่าสนไหม ?

* อีกหนึ่งรายที่ไม่น่าสนเลยจริง ๆ “โมนิก้า” ขอมอบตำแหน่งดังกล่าวให้กับ PRM เพราะแพตเทิร์นของหุ้นเป็นลักษณะ ลงหนักแล้วพัก..ต่อจากนั้น..ลงหนักแล้วก็พัก หุ้นถึงอ่อนตัวลงจากระดับ 9 บาทลงเรื่อย ๆ จนวานนี้ลงมายืนอยู่ที่ 5.35 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไปอีก 7% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 60 ล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้บางคนขาดทุน 40% แถมหุ้นหลุดทุกแนวรับแบบนี้..ดีสุดสำหรับรอบนี้คงรีบาวด์แล้วลงต่อนะจ๊ะ

* เช่นเดียวกับในรายของ FSMART รูดไถลลงแรงอย่างไม่น่าเชื่อ จนหุ้นหลุดกรอบเดิมแบบง่าย ๆ เลยกลายเป็นอีกหนึ่งหุ้นอันตรายที่แมงเม่าควรหลีกเลี่ยง เพราะโมเมนตัมของหุ้นดูไม่สวยงามเอาเสียเลย บวกกับแรงเทขายที่ยังไม่สะเด็ดน้ำเสียทีเดียว วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมายืนที่ระดับ 5.30 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 11.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 19 พันล้านบาท มันคุ้มที่จะเสี่ยงไหม ? หลังหุ้นลงมาทำ new low ในรอบ 4 ปี 2 เดือน หรือพูดให้เข้าใจง่ายก็คือ นี่เป็นการลงต่ำสุดนับจากซื้อขายครั้งแรกได้ 6 วันนะจะบอกให้