แบงก์(ยัง)ไม่ขึ้นดบ.
คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ตามคาด
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ตามคาด
ทำให้ดอกเบี้ยขึ้นสู่ระดับ 1.75%
มติที่ออกมา 5 : 2 ถือว่าค่อนข้างขาดพอสมควร ต่างจากการประชุมก่อนหน้านี้ที่ออกมา 4 : 3 เสียง
ประเด็นที่หลายคนสงสัยคือ ดอกเบี้ยกำลังเข้าสู่ช่วงขาขึ้นแล้วหรือไม่
มีคำตอบจาก กนง.ออกมาแบบไม่ค่อยสะเด็ดน้ำซักเท่าไหร่ เพราะเขาบอกว่า การประชุม กนง.ครั้งต่อไป อาจจะมีการ “คงดอกเบี้ย” หรือ “ปรับลง” ก็ได้
จะเห็นว่าคำตอบไม่ได้พูดถึงการปรับขึ้นแล้ว
ในทางกลับกัน กนง.มาพูดถึงว่า อาจจะปรับลงก็ได้ หรือส่งซิกว่า ไม่ได้หมายความว่าครั้งต่อไป กนง.จะต้องขึ้นอีก
กนง.ให้เหตุผลของการขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ว่า เพื่อลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงิน รวมทั้งเพื่อสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายการเงินสำหรับอนาคต
เป้าหมายจริง ๆ จึงไม่ได้ให้แบงก์ขึ้นตาม
หากจำกันได้ ก่อนหน้านี้ ผู้ว่าการ ธปท. ได้เคยออกมากล่าวเรื่องนี้
เป็นการส่งสัญญาณว่า การกระชุมของ กนง.ครั้งต่อไป (19 ธ.ค.) หาก กนง.ต้องขึ้นดอกเบี้ย ทางกลุ่มธนาคารไม่จำเป็นต้องขึ้นตามก็ได้
ทั้ง ธปท. และนายแบงก์น่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว
เกี่ยวกับดอกเบี้ยขึ้นรอบล่าสุดเป็นการส่งสัญญาณที่แตกต่างจากหลาย ๆ ครั้งก่อนหน้านี้
นัยสำคัญเป็นการปรับขึ้นตามธนาคารกลางของหลายประเทศในแถบนี้ที่ปรับขึ้น และอาจด้วยเหตุผล สกัดเงินทุนไหลออก
ขณะที่เศรษฐกิจในประเทศ แท้จริงแล้ว ยังไม่ได้พร้อมให้ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น
นายแบงก์จากทุกธนาคารต่างทราบกันดี
“เสี่ยปั้น” บัณฑูร ล่ำซำ เป็นบุคคลแรกที่ออกมาบอกไว้ล่วงหน้า 1 วันเลยว่า ธนาคารกสิกรไทย จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยแน่นอน
ทั้งดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินฝาก
เหตุผลก็เพราะไม่อยากให้กลุ่มลูกค้าที่จ่ายเงินกู้อยู่เดือดร้อน
ส่วนเงินฝากนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องขึ้น เพราะสภาพคล่องยังมีอยู่สูงมาก
ล่าสุด แบงก์กรุงไทย ได้ออกแถลงการณ์เช่นกันว่า จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยทั้ง 2 ขา คือเงินกู้และฝาก
กรุงไทย บอกว่า ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งทำกำไรระยะสั้น
และการปรับดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นอาจส่งผลกระทบด้านลบกับลูกค้า และสวนทางกับความตั้งใจของกรุงไทยที่อยากเห็นธุรกิจของลูกค้าฟื้นตัวได้อย่างเข้มแข็งก่อน
การออกตัวของธนาคารขนาดใหญ่แบบนี้
แน่นอนว่า น่าจะยังไม่มีแบงก์แห่งไหนขยับดอกเบี้ยในช่วงเวลานี้แน่นอน
เพราะหากเกิดผิดพลาดขึ้นมา ลูกค้ามีภาระจ่ายมากขึ้น อาจจะทำให้เป็น หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลตามมาภายหลังได้
อาจต้องมาตั้งสำรองกันเพิ่มวุ่นวายอีก
ทว่า ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารกลับตอบรับกับข่าวดังกล่าว
นั่นเพราะถูกมองว่า เป็นการเปิด “รูม” ให้กับหุ้นกลุ่มธนาคาร
มีคำถามว่า ตอนนี้ยังไม่ขยับดอกเบี้ย แล้วจะปรับกันตอนไหน
เรื่องนี้ไม่มีใครตอบได้ เพราะขึ้นอยู่กับว่าปี 2562 ตัวเลขจีดีพี หรือเศรษฐกิจแกร่งขึ้นเพียงพอกับดอกเบี้ยที่จะปรับขึ้นหรือไม่ ซึ่งหากพร้อม ก็เชื่อแน่ว่า แบงก์จะปรับดอกเบี้ย (ขึ้น) ในทันที
ก็ถือว่าเป็นปัจจัยบวกของหุ้นแบงก์
ที่รออยู่ในอนาคต (อันใกล้)