อย่ามองข้ามของดี!

* สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยมีประเด็นที่ทำให้นักลงทุนต้องตื่นตัวตลอดเวลาหลายเรื่องด้วยกัน แต่หนึ่งในเรื่องที่ทำให้นักเล่นรู้สึกก้นร้อนมากสุดในเที่ยวนี้กลายเป็นการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และของ กนง. ในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกัน มันกลายเป็นโมเมนต์ที่ทำลายความมั่นใจในการลงทุนลงอย่างราบคาบ พร้อมกับทำให้ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในสภาพ sideway down ต่อไปอีกนานเลยทีเดียวนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

* สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยมีประเด็นที่ทำให้นักลงทุนต้องตื่นตัวตลอดเวลาหลายเรื่องด้วยกัน แต่หนึ่งในเรื่องที่ทำให้นักเล่นรู้สึกก้นร้อนมากสุดในเที่ยวนี้กลายเป็นการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และของ กนง. ในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกัน มันกลายเป็นโมเมนต์ที่ทำลายความมั่นใจในการลงทุนลงอย่างราบคาบ พร้อมกับทำให้ตลาดหุ้นไทยตกอยู่ในสภาพ sideway down ต่อไปอีกนานเลยทีเดียวนะคะ

* เนื่องจากจารีตในการลงทุนเขียนไว้อย่างชัดเจนว่า “เมื่อใดที่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย เมื่อนั้นหุ้นจะตกหนักอีกรอบ เพราะทุกคนจะย้ายเงินออกจากตลาดหุ้นไปพักไว้ที่ตลาดเงินแทน” ผนวกกับภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงง่อนแง่นต่อไปแบบไม่มีกำหนด ย่อมเป็นแรงบีบคั้นให้นักลงทุนสถาบันทิ้งหุ้นออกมาไม่หยุดหย่อน ส่งผลให้สภาพของตลาดหุ้นไทยเละเป็นโจ๊กไงละคะ

* ด้วยเหตุนี้เลยไม่ต้องถามการทิ้งตัวลงมาปิดที่ 1,596.10 จุด ลบไป 5.02 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.49 หมื่นล้านบาทให้เปลืองน้ำลาย เพราะสิ่งที่ควรตระหนักให้มากในเที่ยวนี้เป็นเรื่องของจุดเด้งกลับยังทำงานได้ดีเหมือนเดิมไหม ? และหุ้นที่จะเป็นตัวนำตลาดหุ้นกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1,600 จุดเป็นกลุ่มไหน ? ล้วนเป็นประเด็นหลักที่ “โมนิก้า” อยากนำกลับไปคิดเป็นการบ้านก่อนจะเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของการซื้อขายก่อนสิ้นปี 2561 นะจะบอกให้

* เหมือนกับในรายของ AOT เคลื่อนไหวไปมาในกรอบ 60-66 บาทเป็นเวลา 5 เดือนครึ่ง คือประเด็นหลักที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับหันมาโฟกัสที่เรื่องนี้มากกว่าเรื่องอื่น เพราะมองในมุมของการลงทุนแบบสุดซอย นี่เป็นหุ้นที่มีวงรอบการเล่นที่ชัดเจนสุด และน่าเล่นทุกครั้งที่ราคาหุ้นเริ่มผงกหัวขึ้น เดี๊ยนถึงมองการปิดที่ระดับ 64.50 บาท บวกไป 0.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 980 ล้านบาทเป็นโอกาสทองพะยะค่ะ

* เม้าท์ถึงตรงนี้ทำให้ “โมนิก้า” คิดถึงหุ้นไฟฟ้ายอดนิยมอย่าง GULF ขึ้นมาในทันที เพราะเดี๊ยนเคยบอกไปแล้วว่า เป้า 80 บาทไม่ไกลเกินเอื้อม แถมมองจากผลงานในอนาคตแบบเต็มสตีม ราคาปีหน้าก็ควรอยู่สูงกว่าสัก 20% เป็นอย่างต่ำ เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นมองราคาปิดที่ 80.50 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.05 พันล้านบาท มันใช่จังหวะของการ follow buy หรือเปล่าตัวเอง!

* ประเด็นนี้เชื่อมโยงโดยตรงกับหุ้น AMATA พยายามประคองตัวเหนือเส้นแนวรับ 200 วันบริเวณ 22 บาท และเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นให้เห็นถึง 2 ครั้งในรอบ 3 เดือน “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ 22.20 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 513 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่น่าลองเสี่ยงดูสักตั้งเหมือนกัน เพราะความเสี่ยงในการเล่นไม่เยอะน่ะซี

* เช่นเดียวกับในรายของ EA เมื่อยู่ในสถานการณ์ขาลงสั้น ๆ มักพยายามเกาะเส้นแนวรับ 75 วันตลอดเวลา มันตีความได้ทันว่า นี่เป็นอีกช็อตที่นักเล่นควรเอาสัญญาณเทคนิคไปประกอบการลงทุนควบคู่กับปัจจัยพื้นฐาน เพราะมองในมุมความสามารถทำกำไรไม่มีปัญหา “โมนิก้า” ถึงมองการปิดเสมอตัวที่ราคา 45.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 490 ล้านบาทเป็นจังหวะต้องเล่น อีกทั้งมีแนวรับเส้น 200 วันรองรับอยู่ที่ 43.75 บาท แล้วจะกลัวอะไรอีกละคะ

* เหมือนกับในรายของน้องเบม BEM หากมองภาพยาว ๆ เพื่อประเมินโอกาสทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิม “โมนิก้า” ถือว่า หุ้นตัวนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันเห็นตัวเลขกำไรในอนาคตน่าจะ growth อย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนถึงไม่วอร์รี่เมื่อเห็นหุ้นยืนปิดที่ระดับ 9.25 บาท ลบไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 360 ล้านบาทไงละคะ

* คล้ายกับในรายของ BCPG ทรุดตัวลงมาเรื่อย ๆ จนวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 16.90 บาท ลบไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 95 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยยืนที่ระดับ 21 บาท “โมนิก้า” กลับมองเป็นโอกาสของคนที่มีเงินเย็นแช่ไว้ในพอร์ตเป็นจำนวนมาก เพราะแค่มองในมุมของค่า P/E 13.60 เท่า ก็ทำให้รู้ว่า ราคาหุ้นในกระดานมันต่ำเกินไปจริง ๆ บวกกับหุ้นลงมาถึงจุดเด้งกลับสำคัญเสียด้วยแบบนี้..ลุยเดี่ยวไปเลยดีกว่านะคะ

* ไหน ๆ ชอบลุยหุ้นพื้นฐานแกร่งขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องชำเลืองตามองน้องดูดี DOD เป็นกรณีพิเศษเช่นกัน เพราะมองในมุมของสตอรี่ที่ปรากฏออกมาให้เห็นต่อเนื่อง รวมทั้งโอกาสในการเติบโตยังเปิดกว้างสุด ๆ เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 14.10 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 51 ล้านบาท ยังเป็นช็อตที่ลงทุนได้สบาย ๆ เช่นกัน เพราะราคาเป้าหมายเที่ยวนี้เขาให้กันไว้แถว 16 บาทนะจะบอกให้

* เม้าท์ถึงเรื่องดี ๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ย่อมเล็งเป้าไปที่หุ้นโรงเรียนของหนู SISB เพื่อทำให้ทุกคนรู้ถึงทิศทางการ growth ยังเป็นไปตามแผนที่ป่าวประกาศไว้ บวกกับปัญหาที่คาราคาซังใกล้จะได้ข้อยุติเต็มที เดี๊ยนถึงมองการอ่อนตัวลงมายืนปิดที่ 4.16 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 6.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38 ล้านบาท เป็นโอกาสของการเล่นแบบสุดซอย บวกกับมีคนพูดถึงข้อมูลบางอย่างในสารบบเปลี่ยนจาก “ดำ” เป็น “แดง” วันนี้ถึงต้องเกาะติดหุ้นตัวนี้ให้ดีนะคะ

 

Back to top button