รับตรงไหนดี ?
* ในเมื่อตลาดหุ้นไทยถูกอิทธิพลดัชนีดาวโจนส์ครอบงำจนโงหัวไม่ขึ้น นักเล่นกลุ่มต่าง ๆ จึงต้องเทขายหุ้นทิ้งเพื่อต้องการลดความเสี่ยงออกมาเป็นระยะ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยตกหนักอีกหนึ่งรอบ และเมื่อดูจากอาการแหยงของนักลงทุน ย่อมตีความได้ในทันทีว่า การเทรดหุ้นส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อาจไม่ครื้นเครงเหมือนกับปีก่อน ๆ ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้นะจ๊ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
* ในเมื่อตลาดหุ้นไทยถูกอิทธิพลดัชนีดาวโจนส์ครอบงำจนโงหัวไม่ขึ้น นักเล่นกลุ่มต่าง ๆ จึงต้องเทขายหุ้นทิ้งเพื่อต้องการลดความเสี่ยงออกมาเป็นระยะ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยตกหนักอีกหนึ่งรอบ และเมื่อดูจากอาการแหยงของนักลงทุน ย่อมตีความได้ในทันทีว่า การเทรดหุ้นส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อาจไม่ครื้นเครงเหมือนกับปีก่อน ๆ ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้นะจ๊ะ
* ประกอบกับวานนี้มีแรงเทขายถล่มออกมาไม่ยั้ง จนดัชนีลงมากองอยู่ที่ระดับ 1,556.65 จุด ลบไป 34.64 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.30 หมื่นล้านบาท กลายเป็นประเด็นที่ทำให้นักเล่นเกิดอาการลังเลใจในการช้อนหุ้นขึ้นมาในทันที ดัชนีถึงไหลเป็นท่อประปาแตกจนหลุดแนวรับย่อยลงมาเรื่อย ๆ พร้อมกับเกิดคำถามขึ้นมาในทันทีว่า รับตรงไหนดี ? เพราะเริ่มไม่แน่ใจว่า แนวรับแต่ละแนวจะเอาอยู่น่ะซี
* สถานการณ์ตรงนี้เป็นช็อตต่อเนื่องที่ “โมนิก้า” ได้เกริ่นนำไว้ตั้งแต่วันก่อน และวันนี้ต้องมาย้ำหัวหมุดอีกเที่ยวหนึ่งว่า นักเล่นต้องเริ่มวางแผนลงทุนแบบจริง ๆ จัง ๆ เพราะหุ้นพื้นฐานหลายตัวถูกถล่มแบบไม่มีปรานี และตรงจุดนี้น่าจะเป็นโอกาสสำหรับนักเล่นที่มีเงินเย็น ซึ่งเป็นเรื่องที่เดี๊ยนพยายามชี้ช่องให้ทุนคนได้เห็น เพื่อจะได้หาจังหวะเก็บหุ้นปันผลงามเข้าพอร์ตไงละคะ
* ไล่เรียงตั้งแต่ GULF โดนสาดออกมาไม่ยั้งจนราคาหุ้นลงมากองอยู่ที่ 77.50 บาท ลบไป 2.25 บาท หรือลงไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 412 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยืนอยู่ที่บริเวณ 80 บาท “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องของ “โอกาส” มากกว่า “อุปสรรค” เพราะของมันแบเบอร์มาตั้งแต่ไก่โห่แล้วว่า ราคาเป้าหมายปีหน้าจะขึ้นไปถึงระดับ 100 บาท เดี๊ยนเลยไม่รู้สึกกังวลอะไรทั้งสิ้นเจ้าค่ะ
* นอกจากนี้ยังย้ำเสมอมาเป็นเวลานานว่า AOT คืออีกหนึ่งทีเด็ดที่นักเล่นต้องหัดเล่นรอบให้เป็น เพราะหุ้นจะต้องเด้งกลับขึ้นไปหาราคาเหมาะสมวันยังค่ำ “โมนิก้า” ถึงมองการอ่อนตัวลงมายืนปิดที่ 62.75 บาท ลบไป 2.25 บาท หรือลงไป 3.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.30 พันล้านบาท มันเป็นช็อตของการซื้อสวนเพื่อหาค่าขนมเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนไปเที่ยวปีใหม่ จึงอยากเรียนให้ทราบอีกครั้งนะคะ
* ส่วนรายที่น่ากังวลจริง ๆ “โมนิก้า” กลับมองไปที่หุ้น BANPU เพื่อเตือนให้พวกอ่อนหัดระวังการซื้อสวนมากเป็นพิเศษ เพราะการเด้งกลับแต่ละครั้งดันปรากฏยอดสูงสุดต่ำลงเรื่อย ๆ แถมจุดต่ำสุดของการลงในแต่ละเที่ยวก็มีให้เห็นตลอดเวลา เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นประเมินกันเองว่า ราคาปิดที่ 15.50 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 457 ล้านบาท ใช่จุดต้องเข้าไปเสี่ยงหรือเปล่า ?
* เหมือนกับในรายของ SCC ทำท่ายึกยักเหมือนจะต้านแรงเทขายได้ แต่เอาเข้าจริงก็คงไม่รอดสันดอนอีกตามเคย เพราะสองสามหนล่าสุดมันเป็นเช่นนี้มาตลอด “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 428 บาท บวกไป 2 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 503 ล้านบาท น่าจะเป็นการประวิงเวลาไม่ให้อะไรเลวร้ายลงไปกว่าที่เป็นอยู่ จึงกลายเป็นหุ้นที่ต้องเฝ้าระวังมากกว่าเข้าตะลุยนะจะบอกให้
* คล้ายกับกรณีของหุ้นโรงหมอ CHG อุตส่าห์พยายามประคองตัวแถวบริเวณแนวรับ 2 บาทเป็นเวลาแรมเดือน หลังจากโดนถล่มจมดินแบบไม่สนใจใยดีตั้งแต่ต้นไตรมาส 4 แต่วานนี้กลับโดนสาดทิ้งแบบไม่ต้องมองหน้ากันอีกเลย “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่ผิดปกติเป็นอย่างมากสำหรับหุ้นตัวนี้ และทำให้ราคาปิดที่ 1.96 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 4.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 305 ล้านบาท ไม่ใช่ก้นเหวของการลงเที่ยวนี้แล้วนะคะ
* ประเด็นดังกล่าวเทียบเคียงได้กับหุ้น LPN ซึ่งอยู่ในทิศทางขาลงเป็นเวลาร่วม 4 ปี และเมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงที่หุ้นยืนอยู่แถว 24 บาท ยิ่งทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกปวดร้าวหัวใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะวันนี้เห็นหุ้นยืนอยู่แค่ระดับ 5.90 บาท ลบไป 0.55 บาท หรือลงไป 8.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 143 ล้านบาท มันสื่อภาพให้ทุกคนเห็นว่า ไม่มีใครอยากเก็บหุ้นตัวนี้ไว้ในพอร์ต ถึงปรากฏภาพ new low ตลอดเวลาเจ้าค่ะ
* อีกหนึ่งรายที่มีอาการหนักไม่แพ้กัน “โมนิก้า” ขอจี้จุดไปยังหุ้นเคยฮอตอย่าง COM7 เพื่อทำให้เห็นความเสี่ยงของหุ้นตัวนี้มีเยอะพอสมควร ถึงทำให้บรรดาพ่อยกแม่ยกสาดหุ้นออกมาไม้หนัก ๆ จนวานนี้ลงมายืนปิดที่ 16.40 บาท ลบไป 1.40 บาท หรือลงไป 7.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 126 ล้านบาท น่าจะเป็นอีกหนึ่งช็อตที่นักเล่นต้องถอยออกไปอยู่ห่าง ๆ เพราะยังไม่เห็นความคุ้มค่าในการเล่นพะยะค่ะ
* สุดท้าย และท้ายสุดของเรื่องนี้ทั้งหมด “โมนิก้า” อยากให้นักเล่นมองดูหุ้น AU เพื่อเป็นบทเรียนสอนใจสำหรับการเล่นแบบไม่ยั้งคิด เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า โอเวอร์แวลูมาเป็นเวลานาน พอกำไรวิ่งขึ้นไม่ทันราคาหุ้นในกระดาน ผลสุดท้ายถึงลงเอยด้วยการสาดทิ้ง จนหุ้นลงมาทำ all time low ที่ระดับ 5.50 บาท ลบไป 0.20 บาท และเมื่อเทียบกับราคาหุ้นในช่วงต้นปีอยู่ที่บริเวณ 15 บาท ก็ไม่ควรเข้าไปเฉียดใกล้ด้วยประการทั้งปวงนะคะ