สแกนหุ้นรายตัว!
* วานนี้เป็นอีกครั้งที่บรรยากาศการลงทุนมีลักษณะแห้งเหี่ยวลงไปเรื่อย ๆ จนผู้เล่นเริ่มผละหน้าหนีจากกระดานหุ้นไปทีละรายสองราย จนในที่สุดดัชนีก็ทำได้แค่เพียงประคองตัวปิดที่ 1,556.93 จุด บวกไป 0.28 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 3.05 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนคงเริ่มชินตากันบ้างแล้ว และในสัปดาห์หน้าก็คงเห็นบรรยากาศที่ซบเซาเช่นนี้อีกครั้งนะจ๊ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
* วานนี้เป็นอีกครั้งที่บรรยากาศการลงทุนมีลักษณะแห้งเหี่ยวลงไปเรื่อย ๆ จนผู้เล่นเริ่มผละหน้าหนีจากกระดานหุ้นไปทีละรายสองราย จนในที่สุดดัชนีก็ทำได้แค่เพียงประคองตัวปิดที่ 1,556.93 จุด บวกไป 0.28 จุด ท่ามกลางมูลค่าการซื้อขาย 3.05 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่นักลงทุนคงเริ่มชินตากันบ้างแล้ว และในสัปดาห์หน้าก็คงเห็นบรรยากาศที่ซบเซาเช่นนี้อีกครั้งนะจ๊ะ
* ด้วยเหตุนี้ถึงต้องคัดหุ้นที่จะเล่นเป็นรายตัว หลังเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า ช่วงนี้มีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่อง จนดัชนีอาจต้านทานไว้ไม่ไหว และมีสิทธิ์ที่จะรูดหลุดแนวรับ 1,550 จุดทุกเมื่อ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ต้องทำใจยอมรับโดยไม่มีข้อแม้อีกครั้ง เพราะองค์ประกอบหลายอย่างไม่เอื้อต่อการลงทุน การเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุดในเวลานี้ไงละคะ
* ที่สำคัญเมื่อดูจากอาการร้อนรนของเหล่านักเล่นจะเห็นว่า ทุกคนพร้อมจะถอยฉากเพื่อไปทำอย่างอื่นเป็นการฆ่าเวลาชั่วคราว ผู้เล่นก็ไม่จำเป็นต้องฝืนอะไรอีกต่อไป เพราะจังหวะนี้เป็นช็อตของการขายไปเที่ยวแบบไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง เพราะการลงทุนทุกอย่างถูกเซ็ตไว้เป็นปี 2562 และรายละเอียดดังกล่าวจะแจ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากผ่านช่วงกลางเดือน ม.ค. นะจะบอกให้
* ประเภทมาแรงแซงทางโค้ง แถมทุกคนให้ความสนใจเป็นพิเศษ คงต้องยกให้ AOT ไต่ระดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายขึ้นมายืนอยู่ที่ 64 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 763 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการแหวกกระแสขึ้นมาโชว์เพาเวอร์ที่น่าสนใจ และถ้ามองตามสัญญาณเทคนิคก็บอกได้ทันทีว่า แนวต้านถัดไปอยู่ที่ 66 บาท จึงเป็นช็อตที่ตามน้ำสั้น ๆ ได้อีกนิดหนึ่งค่ะ
* ส่วนในรายของ STEC ถือเป็นทีเด็ดที่แบบ ชุดใหญ่..ไฟกะพริบ หุ้นถึงพุ่งพรวดพราดอย่างรวดเร็ว จนสุดท้ายมาปิดที่ 20.50 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 211 ล้านบาท มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็ยังอยู่ในโหมดของการรีบาวด์สั้น ๆ หลังจากโดนถล่มลงมาเยอะ “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า หุ้นจะไต่ระดับขึ้นไปอีกนิดหน่อยอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ
* หุ้นอีกหนึ่งตัวที่มีแบ็กกราวด์เรื่องกลุ่มทุนใหม่เข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่ง “โมนิก้า” คงต้องหันไปมองหุ้นทีเด็ดอย่าง SMM หลังทะยานขึ้นแรง 4 วันติด จนวานนี้ขึ้นมายืนอยู่ที่ 2.60 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 113 ล้านบาท มันเป็นเรื่องของความเชื่อมั่นที่มีแก่กลุ่มทุนใหม่จะช่วยต่อยอดธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ หุ้นถึงร้อนจนปรอทแตกไงละคะ
* ส่วนในรายของหุ้นสุดเลิฟอย่าง IRPC ยังคงเป็นช็อตที่น่าตามไปดูเหมือนเดิม หลังหุ้นเคลื่อนไหวบริเวณฐานแนวรับ 5.50 บาทแบบไม่สนใจใจภาวะตลาดหุ้นจะโหดร้ายเพียงใด จนล่าสุดแสดงกำลังภายในด้วยการยืนปิดที่ 5.70 บาท บวกไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 214 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย เพราะของมันเห็นกันอย่างทนโท่อยู่แล้วว่า คงไม่มีเหตุที่ทำให้หุ้นลงหนักไปกว่านี้น่ะซี
* สำหรับในรายของ SUPER ถือเป็นด่านทดสอบสำหรับพวกมือไวใจกล้า ที่สำคัญยังพร้อมลุยแม้วันมามาก หลังหุ้นยืนปิดที่ระดับ 0.52 บาท บวกไป 0.01 บาท หรือขึ้นไป 1.95% ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำมาก ๆ สำหรับหุ้นที่กำลังจะมีข่าวดีออกมาในปีหน้า แต่ถึงกระนั้นต้องยอมรับความจริงที่ว่า ทุกคนก็รอข่าวดีดังกล่าวมานานเหมือนกัน จึงเป็นช็อตที่ต้องเคาะขวาเบา ๆ ไปก่อนไงละจ๊ะ
* เหมือนกับในรายของ KCE วานนี้กระชากขึ้นแรงแบบไม่บอกกล่าว แถมยังไม่เฉลยให้ชาวหุ้นได้รู้ว่า มีอะไรในกอไผ่หรือเปล่า ? “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองคิดตามอีกสักครั้งว่า จู่ ๆ หุ้นโดนสาดทิ้งเป็นแรมเดือน วานนี้หุ้นกลับแหวกกระแสขึ้นมาปิดที่ 26.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 125 ล้านบาท มันมีอะไรผิดปกติจากที่เคยเป็นมาไหมละคะ
* เช่นเดียวกับในรายของ NINE วิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.24 บาท บวกไป 0.42 บาท หรือขึ้นไป 23% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 42 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยืนอยู่แค่ 1.82 บาท พร้อมกับให้รีเทิร์นคนที่เข้ามาตะลุมบอนในทันทีแบบนี้ น้องโมคิดว่า น่าจะถึงเวลาเทขายหุ้นทำกำไรออกไปบางส่วนเช่นกัน เพราะคติของการลงทุนในช่วงนี้ต้องยึดหลักกำไรน้อย ๆ แต่กำไรนาน ๆ นะคะ