ดัชนียังแกว่ง

ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปิดบวกได้นิดหน่อย หรือ 2.06 จุด มาที่ 1,565.94 จุด


ลูบคมตลาดทุน  : ธนะชัย ณ นคร

ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ปิดบวกได้นิดหน่อย หรือ 2.06 จุด มาที่ 1,565.94 จุด

มูลค่าการซื้อขายยังถือว่าเบาบางครับ 31,644 ล้านบาท

จะว่าไปแล้ว การที่ดัชนีปิดบวกได้ ถือว่าค่อนข้างเซอร์ไพรส์เล็กน้อย เพราะตลาดหุ้นภูมิภาคร่วงลงกันเกือบหมด

หุ้นหลาย ๆ ตัว นักลงทุนยังเล่นแบบเก็งกำไรระยะสั้น

หรือพอราคาปรับลงมา จะเข้าซื้อ และพอมีแรงดันขึ้นไป หากได้สัก 1-2 ช่อง ก็ออกของกันแล้ว สะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นยังคงมีอยู่สูง

จะว่าไปแล้ว สถานการณ์แบบนี้ ถือว่าต่อเนื่องมาจากปี 2561 นั่นแหละ

ดัชนีวิ่งขึ้นในช่วงเช้า

และมาร่วงลงตอนใกล้ปิดตลาด กระทั่งบางวันลงไปปิดในแดนลบ

“แก๊งสี่โมงเย็น” ยังคงไว้ใจไม่ได้

อย่างเมื่อวานนี้ ช่วงสี่โมงเย็น ดัชนีถูกทุบเกือบลงไปในแดนลบ แต่มีการลากกระโดดขึ้นมา ก่อนจะทุบ (หรือเปล่า) แบบเบา ๆ จนดัชนีอ่อนตัวลงไปอีก

ปัจจัยหลักเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยที่ต้องจับตาในตอนนี้ตามมุมมองของนักวิเคราะห์

เช่น สงครามการค้าสหรัฐฯ และจีน ที่จะมีการเจรจาหารือกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกตอนไหน

ทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังผันผวนอย่างหนัก

และที่สำคัญคือ ปัจจัยภายใน จากยังไม่มีความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้งที่นักลงทุนเฝ้ารอ เพราะเดิมนั้นมีข่าวว่า จะมีพระราชกฤษฎีกา กำหนดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ม.ค. 2562 ที่จะระบุว่า เลือกตั้งแน่ ๆ ในวันที่ 24 ก.พ. 2562

แต่ปรากฏว่าไม่มี

ทำให้นักลงทุนบางส่วนเกิดความไม่มั่นใจ

ประเด็นเรื่อง January effect ก็ยังต้องลุ้นกันอยู่ว่า จะเกิดขึ้นไหม

เพราะดูทิศทางลมตอนนี้ จากปัจจัยต่าง ๆ ที่ว่ามา ล้วนยังไม่มีความชัดเจน

นี่ถ้าหากสมมุติว่า เลื่อนเลือกตั้งขึ้นมาจริง ๆ

ใครที่คาดว่า January effect จะมาแน่นอนนั้น อาจจะกลายเป็นเดือนแห่งความมืดมิด หรือ Black January ไปเลยก็ได้

นักวิเคราะห์ต่างมองว่า ดัชนีในเดือนนี้จะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 1,550-1,580 จุด (โดยประมาณ)

ส่วนใหญ่ยังแนะนำหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จะเริ่มรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/2561 เช่น TISCO น่าจะรายงานอย่างเร็วสุดวันที่ 11 ม.ค. และช้าสุดไม่น่าเกิน 15 ม.ค.นี้

ล่าสุด บล.เคทีบีฯ คาดการณ์งบไตรมาส 4 กลุ่มแบงก์จะมีกำไร 4.4 หมื่นล้านบาท เติบโตกว่า 23%

ส่วนโบรกฯ อื่น ๆ ต่างแนะนำให้ลงทุนหุ้นในกลุ่มธนาคารเช่นกัน

โดยเฉพาะจากปัจจัยบวกเรื่อง “ดอกเบี้ยขาขึ้น”

กลุ่มโรงไฟฟ้า ถูกยกว่าเป็น Defensive play หรือปลอดภัยในช่วงที่หุ้นผันผวน

และก็น่าจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ สังเกตได้จากกราฟหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้าหลาย ๆ ตัว ราคาไม่ได้ดิ่งลงตามภาวะอะไรเลย

ในทางกลับกัน ราคากลับวิ่งสวนภาวะตลาดด้วย เช่น RATCH, EGCO, GULF ส่วน BGRIM ราคาค่อนข้างทรงตัว และที่ปรับลงมาบ้าง คือ EA

มีประเด็นที่น่าจับตาคือ นักลงทุนสถาบัน (กองทุน) เมื่อวานนี้ ซื้อสุทธิ 1,944 ล้านบาท

และถือเป็นการซื้อต่อเนื่องมาจากช่วงปลายเดือน ธ.ค. 2561

ขณะที่ในปี 2562 บรรดาผู้จัดการกองทุนต่างมีมุมมองเชิงบวกกับตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก

ต้องมาลุ้นกันว่า จะเป็นไปตามคาดการณ์ของกองทุนหรือไม่

 

Back to top button