สังคมข่าวหุ้น
**สงครามดอกเบี้ยกดหุ้นแบงก์
เกียรติก้อง ว่องไวยากร
**สงครามดอกเบี้ยกดหุ้นแบงก์
**หลังจากเปิดศักราชการใหม่ปีหมูไม่กี่วัน สงครามดอกเบี้ยก็เริ่มปะทุขึ้นบรรดานายแบงก์ เสี่ยปั้น แห่งกสิกรไทย (KBANK) เสี่ยอาทิตย์ ไทยพาณิชย์ (SCB) เรียงหน้ากันขึ้นดอกเบี้ย แม้ว่าจะเป็นเงินฝากขาเดียว แต่ก็สะเทือนไปทั่ววงการ เพราะนายแบงก์รายอื่นคงหนีไม่พ้นต้องขึ้นตาม ราคาหุ้นแบงก์ก็ร่วงลงตอบสนองข่าวนี้ทันที แม้ว่าเสี่ยปั้นจะเคยบอกว่าจะไม่เป็นผู้นำขึ้นดอกเบี้ย แต่เมื่อคู่แข่งแบงก์ใบโพธิ์ชิงลงมือก่อน แบงก์รวงข้าวก็ต้องขึ้นตาม ส่วนที่เหลือเสี่ยโทนี่ (BBL) และ KTB รวมทั้งแบงก์ขนาดกลางและเล็กคงจะตามมาเร็ว ๆ นี้ ขณะที่ผลกระทบงานนี้น่าจะเป็นวงกว้างมากกว่าที่คิด ไม่น้อยไปกว่าสงครามการค้า แต่นักวิเคราะห์มองว่าจะกระทบเพียงระยะสั้นเท่านั้น แต่ระยะยาวถือว่าดีสำหรับกลุ่มแบงก์ ส่วนงบไตรมาสที่ 4 ของกลุ่มนี้จะประกาศกลางเดือนนี้ ส่วนใหญ่ดีขึ้น ภาพรวมยังไม่กระทบ งานนี้น้องแมงเม่าขายหมูกันยกใหญ่ แต่ปีนี้ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ดอกเบี้ยเฟด ที่จะมีการเจรจากันวันที่ 7-8 มกราคมนี้ แนวรับ 1,560 จุด แนวต้าน 1,600 จุด
**กลุ่มลีสซิ่ง เร่งตุนเสบียง ทั้ง MTC ของชูชาติ เพ็ชรอำไพ ซีอีโอ เมืองไทย แคปปิตอล และ SAWAD ของธิดา แก้วบุตตา ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น ด้วยการทยอยออกหุ้นกู้ล็อตใหญ่ ต้นปีนี้ก็คาดว่าจะมีหลายบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พาเหรดกันออกหุ้นกู้ เพื่อล็อกต้นทุนดอกเบี้ยไม่ให้แพง ใครออกช้าก็จะต้องจ่ายแพงกว่าเจ้าอื่น จะไปขูดจากลูกค้าเพิ่มก็ยาก เพราะการแข่งขันในตลาดกลุ่มนี้ค่อนข้างสูง ผลกระทบที่จะตามมาก็คงจะเป็นส่วนกำไรที่จะลดลง เนื่องจากลุ่มนี้ไม่มีเงินฝากเหมือนแบงก์พาณิชย์ แต่สำหรับศรีสวัสดิ์ยังมี BFIT ที่สามารถรับเงินฝากได้บ้าง ดังนั้นปีนี้จึงเป็นปีที่กลุ่มนี้แข่งกันเดือดแน่นอน
**กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ที่จะหนักสำหรับกลุ่มนื้ก็คงเป็นเรื่องของกำลังซื้อที่หดหายไปด้วย หากดอกเบี้ยเงินกู้บ้านขึ้น กดดันยอดขายปีนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เจ้าใหญ่อย่างพฤกษา (PSH) ของเสี่ยทองมา ก็ยังเดินหน้าเปิดโครงการใหม่ ล่าสุดประกาศซื้อที่ดินจำนวนมาก 1.5 ไร่ขึ้นไปในกรุงเทพฯ ใกล้รถไฟฟ้า และ 8 ไร่ขึ้นไป ในเมือง และ 15 ไร่ขึ้นไปในปริมณฑล และต่างจังหวัด สวนทางตลาดอสังหาฯขาลง งานนี้เสี่ยทองมาน่าจะมองเห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ ส่วนบรรดานักพัฒนาที่ดินรายอื่นคงต้องเก็บไปคิดเป็นการบ้าน
**เริ่มมีแรงซื้อกลับ หลังแพนิก COM7 ของ ศิริพงษ์ สมบัติศิริ ประธานกรรมการคอมเซเว่น มากเกินไปแล้ว แม้ว่าสินค้าหลักของบริษัทจะเป็นแบรนด์แอปเปิล แต่นักวิเคราะห์กลับมองว่า รายได้ผลิตภัณฑ์มือถือของบมจ.คอมเซเว่น ไม่น่าจะกระทบมาก นักลงทุนตกใจมากเกินไป ราคาเลยดิ่งจนมาน่าซื้อ แต่ที่แน่ ๆ ไตรมาสที่ 4 ผลงานยังดี และเป็นนิวไฮของปีนี้ด้วย ราคาเป้าหมาย 26 บาท อัพไซด์ยังเหลืออีกเพียง
**ใกล้ปิดดีลทหารไทย (TMB) ของเฮียปิติ กับธนชาต (TCAP) ของเฮีย สมเจตน์ เต็มที เวลากระชับเข้ามาแล้ว ทุกปาร์ตี้พร้อมสนับสนุน และช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตของแต่ละแบงก์ได้ ในส่วนของธนชาต หุ้นใหญ่โนวาสโกเทียก็อยากจะลดสัดส่วนของตัวเองลง ในขณะที่กระทรวงการคลังเองก็อยากอัพราคาหุ้นทหารไทยให้ได้เกิน 3.86 บาท ที่เป็นราคาต้นทุนของตัวเอง ที่ถือว่าเป็นเวลานานนับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ วงในคาดว่าภายในเดือนมกราคมนี้น่าจะปิดดีลได้ เพราะถ้าช้ากว่านี้เดี๋ยวเฮียอภิศักดิ์ ขุนคลังไม่อยู่ดีลนี้อาจเป็นหมัน
**หุ้นกลุ่ม PTT ของเฮียชาญศิลป์ ตรีนุชกร ซีอีโอปตท. เริ่มเด้ง จากราคาน้ำมันดิบโลกขยับขึ้น หลังจากกลุ่มโอเปก นำโดยซาอุดีอาระเบีย ปรับลดกำลังการผลิตตามสัญญา แนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มปีนี้ ก็ไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก มีเพียงไตรมาสที่ 4 ปีนี้เท่านั้นที่ยังต้องลุ้น เพราะราคาน้ำมันร่วง อย่างไรก็ดี ปตท.จ่ายปันผลสูงเหมือนเดิม เพราะต้องส่งรายได้เข้าคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ พวกน้องแมงเม่าเลยรับอานิสงส์กันไปถ้วนหน้า