ต้องพลิก 1,600 จุดเป็นแนวรับ
*ทฤษฎีการลงทุนเที่ยวนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน และไม่มีอะไรต้องตีความให้ยุ่งยากใจ เพราะการขึ้นลงของหุ้นเป็นผลมาจากอิทธิพลต่างประเทศ “โมนิก้า” เลยไม่มีความจำเป็นต้องสรรหาอะไรมาอธิบายให้มากความอีกต่อไป เพราะเมื่อเริ่มอ้าปากเม้าท์ถึงทีไร มันก็เป็นเรื่องเก่าที่เคยพร่ำบอกไปเมื่อวันก่อน วันนี้เลยขอเจาะประเด็นเนื้อ ๆ เน้น ๆ เพื่ออ่านทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ง่ายขึ้นพะยะค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ทฤษฎีการลงทุนเที่ยวนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน และไม่มีอะไรต้องตีความให้ยุ่งยากใจ เพราะการขึ้นลงของหุ้นเป็นผลมาจากอิทธิพลต่างประเทศ “โมนิก้า” เลยไม่มีความจำเป็นต้องสรรหาอะไรมาอธิบายให้มากความอีกต่อไป เพราะเมื่อเริ่มอ้าปากเม้าท์ถึงทีไร มันก็เป็นเรื่องเก่าที่เคยพร่ำบอกไปเมื่อวันก่อน วันนี้เลยขอเจาะประเด็นเนื้อ ๆ เน้น ๆ เพื่ออ่านทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ง่ายขึ้นพะยะค่ะ
*สาเหตุที่ต้องเม้าท์ถึงเรื่องนี้เป็นหลัก ล้วนเป็นผลมาจากไซเคิลการเคลื่อนตัวของดัชนียังเป็นรูปแบบเดิม ๆ “โมนิก้า” ถึงบอกให้แฟนคลับเข้าใจการทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,592.72 จุด บวกไป 17.59 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.49 หมื่นล้านบาท มันเป็นการปลุกเร้าความมั่นใจในการลงทุนขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง แต่หากต้องการให้ดียิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอย่างโดดเด่น ดัชนีควรพลิกแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยา 1,600 จุดให้กลายเป็นแนวรับนะจะบอกให้
*เนื่องจากผู้เล่นส่วนใหญ่ยังมีความคิดที่จะขายทำกำไรเมื่อดัชนีขยับขึ้นมาใกล้บริเวณดังกล่าว ผนวกกับเส้นแนวรับ 25 วันพาดผ่านบริเวณ 1,597 จุดพอดี จึงทำให้การเคาะขวาหุ้นแบบสุดซอยวันนี้มีความหมายกว่าทุกครั้ง “โมนิก้า” ถึงภาวนาให้ตัวแปรรอบด้านเป็นใจให้สุด ๆ เพื่อทำให้โมเมนตัมของตลาดหุ้นไทยกลับมาดีดังเดิม และทำให้นักเล่นมีความเชื่อมั่นต่อตลาดหุ้นไทยมากขึ้นไงล่ะคะ
*เหมือนกับในรายของ PTT ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงเป็นวันที่ 2 ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 48 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.14 พันล้านบาท ล้วนเป็นผลมาจากบรรยากาศการลงทุนมันพาไป เลยทำให้นักเล่นเคาะขวากันแบบไม่ยั้ง ภาพของการเล่นหุ้นเลยดูดีขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนเที่ยวนี้จะฝ่าขึ้นไปถึงฐานเดิมบริเวณ 50 บาท แล้วไปต่อยาว ๆ ได้หรือไม่ ? อันนี้ต้องดูกันวันต่อวันเจ้าค่ะ
*หุ้นอีกหนึ่งตัวที่ “ลุ้นสนุก ลุ้นมัน” อย่าบอกใครเชียว ! เดี๊ยนคงให้ความสำคัญกับหุ้น BEM เพื่อจะได้ชี้ชัดลงไปอีกขั้นหนึ่งว่า ของเขาดีจริง ๆ ราคาหุ้นถึงประคองตัวยืนเหนือเส้น 10 วันอย่างแข็งแกร่งเป็นเวลาร่วม 2 เดือน แถมวานนี้พยายามขึ้นไปยืนเหนือ 10 บาท แต่สุดท้ายยืนปิดได้แค่ระดับ 9.85 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.39 พันล้านบาท ก็ยังเป็นช็อตน่าเล่นอยู่ดีนะจะบอกให้
*เม้าท์ถึงช็อตฟื้นตัวแรง ๆ ย่อมมีชื่อของหุ้นโรงกลั่น TOP รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน เพียงแต่การขึ้นเที่ยวนี้จะยืนระยะได้ยาวนานขนาดไหน ? เดี๊ยนมองเป็นเรื่องที่ผู้เล่นต้องติดตามดูสถานการณ์กันเอาเอง เพราะการทะยานขึ้นมาปิดที่ 69.75 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.09 พันล้านบาท ถือเป็นการจั๊มพ์ตัวที่แรงไม่ใช่ย่อย แถมยังเปิดแก๊ปไว้กว้างเสียด้วยแบบนี้ ลุ้นน้ำลายเหนียวคอแน่ ๆ นะจ๊ะ
*ส่วนรายที่มาสวย ๆ ในช็อตพระเอกมาแล้ว “โมนิก้า” ขอยกตำแหน่งดังกล่าวให้กับ EA เพราะไซเคิลของหุ้นเคลื่อนตัวไปมาในแบบ W-Shape เป็นเวลาร่วม 4 เดือน โดยมีกรอบด้านบนอยู่แถว 50 บาท และมีกรอบด้านล่างแถว 41 บาท เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 45 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 716 ล้านบาทไงล่ะคะ
*สำหรับรายของหุ้นร้อน BANPU เดี๊ยนไม่แน่ใจว่า เป็นการกลับทิศอย่างบูรณาการหรือเปล่า ? เพราะสิ่งที่เห็นในหลายรอบที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นการเด้งเพื่อลงไปทำจุดต่ำสุดใหม่ตลอดเวลา “โมนิก้า” จึงจำเป็นต้องย้อนถามนักเล่นถึงการขึ้นมาปิดที่ 16.40 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 4.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 985 ล้านบาท เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลหรือไม่ ? รู้แล้วช่วยกระซิบให้ฟังกันบ้างนะจ๊ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ ESSO เด้งขึ้นจากการทำ Double bottom บริเวณราคา 10 บาท จนวานนี้ขึ้นมาปิดที่ 11.20 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 7.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 263 ล้านบาท ยังคงเป็นช็อตที่นักเล่นสามารถมองยอดเก่าบริเวณ 16 บาทได้สบาย ๆ ก่อนจะไปถึงตรงนั้นมันต้องมองแนวต้านแรกบริเวณ 11.30 บาทก่อนดีไหม ? ถัดจากนั้นเป็นบริเวณ 12.80 บาท ก่อนจะเจอด่านหินแถว 14 บาทนะจะบอกให้
*เนื่องจากเคยมีตัวอย่างโศกนาฏกรรมแมงเม่าตายหมู่ หลังพากันกระโจนเข้าไปรับของร้อน ORI กันหนุบหนับ แต่สุดท้ายก็รับไม่ไหวสักที จนหุ้นอ่อนตัวลงมาทำโลว์แล้วโลว์เล่า จู่ ๆ วานนี้ หุ้นเด้งขึ้นมายืนที่ 6.90 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 6.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 165 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมของพวก “คิดเร็ว ทำเร็ว” ไม่ต้องเสียเวลาไปหาเหตุผลมาซัพพอร์ตก็เท่านั้นเอง !
*เหมือนกับสมาคมช่วยดันที่เข้ามาตะลุมบอน AMANAH จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.69 บาท บวกไป 0.33 บาท หรือขึ้นไป 24.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 105 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้หุ้นเอาแต่มุดหัวลงลูกเดียว “โมนิก้า” ย่อมมีความคิดแวบขึ้นมาในหัวทันทีว่า ลากไปเชือดอีกแล้วมั้ง ! จึงอยากให้นักเล่นเจียมเนื้อเจียมตัวไว้สักนิด จะได้ไม่หลงกลเข้าไปเล่นเกมของคนอื่นเจ้าค่ะ