พาราสาวะถี

อรชุน

ไม่รู้ว่าจะเป็นการการันตีได้หรือไม่กับการออกมาระบุของ ชาติชาย ณ เชียงใหม่ อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือกรธ. ต่อประเด็นโต้เถียงของสังคมที่ว่าระยะเวลา 150 วันเพื่อจัดการเลือกตั้งหลังกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มีผลบังคับใช้ รวมระยะเวลาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งให้ได้ร้อยละ 95 ที่กกต.จะต้องดำเนินการด้วยหรือไม่

โดยอดีตกรธ.ยืนยันว่า 150 วันก็คือต้องจัดให้มีการเลือกตั้งให้คนไปเข้าคูหาเลือกตั้งหรือหย่อนบัตรแต่ไม่รวมถึงการนับคะแนนหรือประกาศผลแต่อย่างใด หมายความว่า กกต.จะจัดเลือกตั้งวันใดก็ได้แต่ต้องไม่เกิน 9 พฤษภาคมนี้ แต่ปัญหายังไม่จบ เพราะแม้อดีตกรธ.จะออกมาการันตีแต่ผู้ที่ตีความคือศาลรัฐธรรมนูญ หากย้อนกลับไปฟังบทสัมภาษณ์ของ มีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรธ.ก่อนหน้านี้คือ “มีหน้าที่เขียนกฎหมายไม่มีหน้าที่ตีความกฎหมาย”

ด้วยเหตุนี้กระมัง ทำให้อดีตคนเดือนตุลา 2 ราย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวด้วยเนื้อหาที่ไม่ต่างกันโดยมิได้นัดหมาย รายหนึ่งคือ “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทยถึงกับโพสต์ว่า “สิ้นหวังประเทศไทย” ซึ่งเนื้อหาน่าสนใจไม่น้อย สิ่งที่ควรทำให้เกิดความชัดเจนเพื่อจะได้เกิดบรรทัดฐานให้ทุกคนได้ปฏิบัติถูกต้อง กลับหาผู้มีอำนาจมาสร้างความชัดเจนให้เกิดขึ้นไม่ได้ คำตอบอยู่ในสายลม มีแต่โยนความรับผิดชอบในการทำให้เกิดความชัดเจนกันไปมา

ขณะที่อีกรายคือ “หมอเลี้ยบ” นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ถึงขั้นโพสต์หัวข้อว่า “เลื่อนเลือกตั้งเท่ากับ(อาจ)ไม่มีเลือกตั้ง” ใจความจากคำอธิบายของหมอเลี้ยบน่าสนใจหลายประการ กล่าวคือ รัฐธรรมนูญกำหนดให้การเลือกตั้งแล้วเสร็จภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 การเลือกตั้งแล้วเสร็จในรัฐธรรมนูญไม่เหมือนกับการกำหนดวันเลือกตั้งในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ทั้งตัวข้อความและสาระสำคัญ

เพราะการเลือกตั้งแล้วเสร็จ หมายถึงภารกิจของการดำเนินการเลือกตั้งทั้งหมดของคณะกรรมการเลือกตั้งแล้วเสร็จ ซึ่งกินความตั้งแต่ การกำหนดวันเลือกตั้ง การจัดการเลือกตั้งให้เสรีและเป็นธรรม จนถึงการประกาศผลการเลือกตั้งแล้วเสร็จภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2562 ด้วย เมื่อมีความแตกต่างกันในภารกิจเช่นนี้ ต้องยึดบทบัญัติของรัฐธรรมนูญเท่านั้น

เนื่องจากรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ บทบัญญัติใดของกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ หรือการกระทำใด ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ บทบัญญัติหรือการกระทำนั้นเป็นอันใช้บังคับมิได้ การเสนอให้กำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม จึงสุ่มเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญ เพราะคณะกรรมการเลือกตั้งอาจไม่สามารถประกาศผลการเลือกตั้งได้ภายในวันที่ 9 พฤษภาคม และอาจมีผู้ไปร้องให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ คณะกรรมการเลือกตั้งถูกฟ้องร้องทั้งแพ่งและอาญา

แน่นอนว่า การไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญนี่แหละที่หมอเลี้ยบเชื่อว่าจะทำให้การเลือกตั้งไม่เกิดขึ้น ด้วยเหตุว่า หากศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องร้องเรียนให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ สภานิติบัญัติแห่งชาติหรือสนช.และคณะรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีกำหนด ตามบทบัญญัติในมาตรา 263 และ 264 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560

หากศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาในการพิจารณายาวนาน อาจไม่มีการเลือกตั้งใหม่ในปีนี้ หรือหากศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่า การเลือกตั้งเป็นโมฆะจะมีการเลือกตั้งใหม่อีกเมื่อไหร่ไม่มีใครทราบได้ เพราะบทเฉพาะกาลไม่มีกำหนดเงื่อนเวลาในสถานการณ์จำลองนี้  ดังนั้น การเลื่อนเลือกตั้งอาจนำไปสู่การไม่มีเลือกตั้งไปอีกนาน

ประเด็นเช่นนี้ถือเป็นเรื่องที่ชวนขบคิดไม่น้อย มีแนวโน้มเรื่องนี้จะไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ หลังจากได้เห็น ไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ โพสต์เฟซบุ๊กด้วยข้อความงวดนี้หวย 150 กำลังมาแรง ทั้งมฤตยู พฤหัสฯและพระอาทิตย์รวมกันอยู่ที่เดียว ถ้าตีความผิดก็มีโอกาสถูกหวยติดคุก เพราะนั่นคือการถูกของที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ การปล่อยของเที่ยวนี้อันตรายมาก ถึงขั้นที่เรียกว่าวางยาก็ได้

ก่อนจะอวยพรให้กกต.ตีความหมายถูกต้อง หากไม่แน่ใจก็พึงทำตามที่ลุงตู่ท่านแนะนำคือ ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งจะเป็นชนักปักนักร่างรัฐธรรมนูญอีกเรื่องหนึ่งว่า ร่างแบบไหนกันจึงเป็นปัญหาให้กับบ้านเมืองแทบทุกเรื่อง บทสรุปปิดท้ายนี่แหละที่น่าปรบมือให้ดัง ๆ เพราะอย่างที่เห็นด้วยความที่เป็นการเขียนกฎหมายสูงสุดของประเทศเพื่อวางกับดักคนบางพวก เลยพาลทำให้ปลายทางกลายเป็นวางกับดักกับทุกฝ่าย ไม่เว้นแม้กระทั่งพวกเดียวกันเอง

การชักเข้าชักออกของการจัดเลือกตั้งหนนี้ ไม่เพียงแต่มีฝ่ายการเมืองเท่านั้นที่กังขา กลุ่มนักเรียนชั้นม.ปลายที่จะต้องสอบ GAT-PAT ที่ถูกผู้ใหญ่หยิบยกมาเป็นประเด็นว่าห้วงเวลาสอบจะตรงกับการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ทำให้เด็กอายุ 18 ปีที่จะใช้สิทธิครั้งแรกเสียสิทธิไป ครั้งนั้น จำได้ วิษณุ เครืองาม อีกนั่นแหละที่เป็นตัวตั้งตัวตี จนสุดท้ายต้องขยับการสอบของเด็กให้เร็วขึ้น แล้วพอจะมาเลื่อนเช่นนี้เด็กเหล่านั้นย่อมตั้งคำถาม ด้วยเหตุนี้ไงผู้นำเผด็จการจึงต้องรีบเบรกอารมณ์ผ่านโซเชียลมีเดียขอให้เด็กใจเย็น ๆ

ความหมายของท่านผู้นำคืออะไร รอให้กกต.เลื่อนเลือกตั้งแล้วจะเลื่อนการสอบของเด็กให้ไปตรงกับวันที่ 24 กุมภาพันธ์เหมือนเดิมอย่างนั้นหรือ หากสมองไม่ได้คิดอะไรมากก็ระวังจะโดนเด็กมันถอนหงอกเอา พอเด็กแสดงอย่างหนึ่งอย่างใดจะไปว่าเขาเหล่านั้นก้าวร้าวอีกไม่ได้ เพราะผู้ใหญ่มันไม่ชัดเจนกันเอง ที่เห็นขีดเงื่อนเวลาหย่อนบัตรไว้ด้วยเหตุผลของตัวเองก็มีแต่วิษณุคนเดียว ขณะที่กกต.ต้องรอดูว่าจะรับลูกตามนั้นหรือเปล่า แต่เห็นกระแสที่เกิดขึ้นคงต้องตั้งคำถามกับตัวเองเสียใหม่ จะเป็นเด็กดีเชื่อฟังเผด็จการทุกอย่างหรือทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ติดคุก