หาทางหนี!

*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ได้นั่งเม้าท์แตกกับพวกขาลุย ขาใหญ่ และ ขาจร เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีประเด็นไหนที่ทำให้รู้สึกมั่นใจไหม ? ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมากลายเป็นว่า ทุกฝ่ายยังมีลักษณะกล้า ๆ กลัว ๆ ตลอดเวลา หลังข่าวสารรอบด้านไม่เป็นใจเลยสักอย่าง แถมในแต่ละวันต้องมานั่งลุ้นอิทธิพลต่างประเทศจะออกมาเป็นแบบไหน ? การเคาะขวาเลยไม่สุดซอยเหมือนที่ตั้งใจไว้พะยะค่ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ได้นั่งเม้าท์แตกกับพวกขาลุย ขาใหญ่ และ ขาจร เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีประเด็นไหนที่ทำให้รู้สึกมั่นใจไหม ? ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมากลายเป็นว่า ทุกฝ่ายยังมีลักษณะกล้า ๆ กลัว ๆ ตลอดเวลา หลังข่าวสารรอบด้านไม่เป็นใจเลยสักอย่าง แถมในแต่ละวันต้องมานั่งลุ้นอิทธิพลต่างประเทศจะออกมาเป็นแบบไหน ? การเคาะขวาเลยไม่สุดซอยเหมือนที่ตั้งใจไว้พะยะค่ะ

*ผลดังกล่าวทำให้การวิ่งขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,600 จุดไม่ง่ายเหมือนที่คิดไว้ และทำให้วันนี้ต้องลุ้นกันอีกยกหนึ่ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเริ่มมองทางหนีทีไล่ของการเล่นวันนี้ไว้ด้วย เพราะอาการกวัดแกว่งไปมาทั้งแดนบวกและแดนลบของดัชนีตลอดทั้งวัน ก่อนจะลงเอยที่บริเวณ 1,594 จุด บวกไป 1.28 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.56 หมื่นล้านบาท มันหมายความว่า ไม่พร้อมลุยนะจะบอกให้

*เมื่อรูปการณ์ออกมาในโทนนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องฝืนธรรมชาติอีกต่อไป และอย่าไปเพ้อฝันดัชนีจะวิ่งขึ้นไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ ผนวกกับกูรูตลาดหุ้นไทยฟันธงกำไรต่อหุ้นทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ อยู่ราว ๆ 112 บาท เมื่อคิดบนฐานค่า P/E 15 เท่า ก็จะเห็นเป้าของดัชนีในปี 2562 อยู่ที่บริเวณ 1,680 จุดแค่นั้น ! เดี๊ยนถึงมองการเล่นเที่ยวนี้เริ่มลำบากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเหลือแก๊ปให้เล่นจริง ๆ ไม่เยอะนะซี

*เหมือนกับในรายของ KBANK มีข่าวเม้าท์ตามห้องค้าเกี่ยวกับ NPL เพิ่มขึ้นออกมาตลอดเวลาแบบนี้ เลยไม่มีใครกล้าเข้าไปไล่ราคาแบบสุดติ่งกระดิ่งแมว ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือ ทุกคนทิ้งหุ้นเพื่อหนีตายกันอลหม่าน ราคาหุ้นถึงยืนซึมกะทือใต้ระดับ 190 บาทมาเป็นเดือน ผนวกกับวานนี้หุ้นยืนปิดที่ 186.50 บาท ลบไป 1.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 755 ล้านบาท จึงเป็นภาพที่ทำให้หุ้นตัวนี้น่ากลัวมากขึ้นไปอีกนะจ๊ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ย่อมเล็งเป้าไปยังหุ้นโรงหมอ CHG ถูกเทขายครั้งแล้วครั้งเล่า จนไม่หลงเหลือสภาพหุ้นที่น่าลงทุนอีกต่อไป มันเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้นักเล่นหลายรายต้องรีบดึงมือกลับก่อนจะเผลอตัวเคาะขวา เดี๊ยนถึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นลงมายืนปิดที่ 1.91 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 2.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 39 ล้านบาท เพราะไม่มีใครอยากเสี่ยงกับหุ้นตัวนี้อีกต่อไปพะยะค่ะ

*ส่วนคนที่รักสนุกและชอบเสี่ยงเป็นชีวิตจิตใจ วานนี้คงไม่มีหุ้นตัวไหนโดดเด่นเกินกว่า GL ซึ่งชาวหุ้นขนานนามให้เป็นลีสซิ่งสีเทาที่ทำให้นักเล่นกระเป๋าฉีกมาแล้วหลายราย จู่ ๆ ดันแผลงฤทธิ์ด้วยการดันตัวเองขึ้นมาปิดที่ 7.20 บาท บวกไป 1.65 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 275 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นความชอบของพวกป๋าดันมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน จึงกลายเป็นหุ้นที่ต้องเพ่งเล็งมากเป็นพิเศษในวันนี้เจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ KOOL ทะยานขึ้นมาปิดที่ 1.45 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 23.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 70 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมโหดที่นักเล่นต้องอ่านเกมให้ดี เพราะสตอรี่ที่เคยทำให้หุ้นวิ่งระเบิดระเบ้อในอดีตมาจากเรื่องเทิร์นอะราวด์ พร้อมกับปล่อยหมัดเด็ดชุดใหญ่ด้วยการบอกชาวหุ้นให้รู้ว่า พัดลมเริ่มขายดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึงคงทำให้ยอดขายโตระเบิด..ใช่ไหมตัวเอง !

*ส่วนที่แปลกของแท้แน่นอน “โมนิก้า” คงให้น้ำหนักไปที่หุ้นซอมบี้ DCORP เพื่อเตือนสติเหล่านักเล่นให้รอบคอบขึ้นกว่าเดิมนิดหนึ่ง เพราะไม่มีใครให้คำตอบการขึ้นมาปิดที่ 0.85 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 11.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 67 ล้านบาท ได้สักคน ! แถมข้อมูลการเงินย้อนหลัง 4 ปีมีตัวเลขขาดทุนเรื้อรัง จนมองไม่เห็นหนทางที่จะกลับมาทำกำไรสักทีแบบนี้ เดี๊ยนคงแนะนำได้แค่ เคาะขวาแล้วรีบออกนะจ๊ะ

*สำหรับรายที่พยายามกู้ศรัทธาอย่างน้องซั่ม SAAM กลายเป็นช็อตที่ “โมนิก้า” เริ่มมีความสนใจมากขึ้นเป็นพิเศษ หลังมีแรงซื้อเข้ามาตลอดทั้งวัน จนหุ้นพุ่งขึ้นมายืนปิดที่ 1.70 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 11.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 150 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้เดี๊ยนเชื่อว่า หุ้นจะกลับขึ้นไปยืนเหนือราคา IPO ที่ราคา 1.80 บาทได้ในไม่ช้า เพราะองค์ประกอบหลายอย่างมาดีเจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงหุ้นที่เริ่มฟื้นตัวขึ้นเป็นลำดับ “โมนิก้า”  คงต้องทำการบรรจุหุ้น NER เข้าไปอยู่ในสารบบดังกล่าวด้วยเช่นกัน หลังราคาหุ้นทำ double bottom ที่บริเวณราคา 1.70 บาทเสร็จปุ๊บ หุ้นก็ไต่ระดับขึ้นอย่างช้า ๆ ก่อนจะมาลงเอยที่ระดับ 1.83 บาท บวกไป 0.02 บาท หรือขึ้นไป 1.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 60 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่จัดมาให้เฉพาะคนที่นิยมเล่นหุ้นต่ำสิบอย่างแท้จริงนะจะบอกให้

 

Back to top button