บลูชิพโดนกด
*ก่อนอื่นต้องพูดกันตามตรงว่า สถานการณ์ของหุ้นบลูชิพวันนี้ไม่ค่อยดีเอาเสียเลย เพราะมีแรงเทขายสาดออกมาตลอดทั้งวัน จนมองไม่เห็นหนทางที่จะตีกลับขึ้นไปหากรอบด้านบนอย่างแข็งแกร่ง แถมแต่ละตัวที่โดนจัดหนักก็มีแต่เรื่องชวนปวดเศียรเวียนเกล้าเข้ามาซ้ำเติมเป็นระยะ บรรดาผู้เล่นทั้งน้อยใหญ่เลยเกิดอาการงงเป็นไก่ตาแตกกันทั้งกระบินะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ก่อนอื่นต้องพูดกันตามตรงว่า สถานการณ์ของหุ้นบลูชิพวันนี้ไม่ค่อยดีเอาเสียเลย เพราะมีแรงเทขายสาดออกมาตลอดทั้งวัน จนมองไม่เห็นหนทางที่จะตีกลับขึ้นไปหากรอบด้านบนอย่างแข็งแกร่ง แถมแต่ละตัวที่โดนจัดหนักก็มีแต่เรื่องชวนปวดเศียรเวียนเกล้าเข้ามาซ้ำเติมเป็นระยะ บรรดาผู้เล่นทั้งน้อยใหญ่เลยเกิดอาการงงเป็นไก่ตาแตกกันทั้งกระบินะจะบอกให้
*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงไม่มีเวลาไปอธิบายการร่วงหล่นของหุ้นบลูชิพบางตัวมากนัก เพราะเอาเข้าจริงเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาการลงทุนล้วน ๆ เดี๊ยนถึงพยายามบอกให้เหล่านักเล่นได้รู้ว่า อย่าไปฝืนธรรมชาติอะไรอีกเลย ก็ในเมื่อมีการโยกย้ายเงินลงทุนตลอดเวลา ตลาดหุ้นย่อมโอนอ่อนตามไปด้วย และทำให้ช่วงนี้คาดหวังอะไรได้ไม่มากเหมือนเมื่อก่อนไงล่ะคะ
*ประเด็นดังกล่าวเห็นได้จากดัชนีแกว่งตัวผันผวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้แนวรับแรกบริเวณ 1,580 จุดสั่นคลอนอีกครั้ง และสุดท้ายได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ต้านไม่ไหว ! ดัชนีถึงไหลรูดลงมาปิดที่ 1,577 จุด ลบไป 5.57 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.79 หมื่นล้านบาท มันทำให้โมเมนตัมของการลงทุนเสียไปอย่างสิ้นเชิง “โมนิก้า” ถึงมองการเล่นต่อจากนี้จะยากขึ้นเรื่อย ๆ และกรอบการวิ่งขึ้นจะแคบลงพะยะค่ะ
*สถานการณ์ดังกล่าวทำให้หุ้นเสือนอนกินอย่าง AOT กลายเป็นเสือลำบากแบบไม่ได้ตั้งใจ ทั้งที่เห็นกันอย่างทนโท่ว่า ราคาหุ้นกำลังไปได้สวย แรงซื้ออัดแน่เข้ามาเป็นระยะ แต่ทันทีที่บรรยากาศการลงทุนไม่เป็นใจ ผู้เล่นหลักก็พากันเทขายหุ้นออกมาตลอดเวลา จนราคาหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 66.50 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 2.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.48 พันล้านบาท เหมือนเป็นการบังคับให้หุ้นต้องยืนเหนือ 66 บาท เพื่อรักษาโมเมนตัมไว้นะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ GULF โดนเทขายเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุนอาจเป็นเรื่องธรรมดา แต่ครั้งนี้หุ้นต้องยืนเหนือเส้นแนวรับ 25 วันบริเวณราคา 81 บาทให้ได้อย่างมั่นคง เพราะที่ผ่านมาหุ้นไม่เคยหลุดระดับดังกล่าวลงมาเลยสักครั้ง “โมนิก้า” เลยเกิดอาการหวั่นใจเมื่อเห็นราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ 81.75 บาท ลบไป 3.25 บาท หรือลงไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.26 พันล้านบาทไงล่ะจ๊ะ
*คล้ายกับสถานการณ์ของ MTC อุตส่าห์ประคองตัวยืนเหนือแนวรับ 48 บาทได้ไม่ต่ำกว่า 2 เดือน จู่ ๆ กลับโดนกดตูมเดียวจนหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 46 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 4.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 510 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นจุดพลิกผันที่ทำให้ทิศทางของหุ้นดูแย่ลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงขอแนะนำแฟนคลับให้ยืนรอดูสถานการณ์ให้ชัวร์ก่อนลุยดีไหมเอ่ย ?
*ขนาดหุ้นแบงก์ TISCO มีแบ็กอัพเรื่องผลประกอบการเป็นแรงหนุน พอเอาเข้าจริงกลับไม่มีใครมองถึงประเด็นดังกล่าวอีกต่อไป หุ้นถึงโดนกระหน่ำขายสองวันติด ๆ พร้อมกับทำให้ทิศทางของหุ้นที่กำลังก่อตัวเป็นขาขึ้นกลายเป็นขาลง “โมนิก้า” ถึงต้องมองจุดรับของอยู่ที่บริเวณ 76 บาทอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง หุ้นเด้งจากบริเวณดังกล่าวอย่างมีนัย เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 78.75 บาท ลบไป 2.25 บาท หรือลงไป 2.80% ด้วยมูลค่า 434 ล้านบาท น่ามองจริง ๆ นะคะ
*ส่วนรายที่น่ากังวลใจมากสุดกลายเป็น IVL ยังมีแรงเทขายออกมาประปรายให้เห็น เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเลขกำไรไตรมาส 4 มีสิทธิ์ออกมาไม่สวย หุ้นถึงอ่อนตัวลงมาปิดที่ 47.50 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.71 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นความเสี่ยงที่นักเล่นต้องประเมินด้วยตนเอง เพราะเดี๊ยนก็ไม่รู้ว่า ตัวเลขกำไรมันจะออกมาเป็นเช่นไรนะซี
*ผิดกับในรายของ BCPG อย่างสิ้นเชิง เพราะรายนี้ออกมา “นั่งยัน นอนยัน ตะแคงยัน” ไม่ได้รับผลกระทบจากญี่ปุ่นหั่นค่าไฟโซลาร์ เพราะสามารถทำตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ทันเดดไลน์ แต่ราคาหุ้นในกระดานกลับไหลลงมาปิดที่ 15.10 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 3.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 223 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องโอเวอร์แอ็กติ้งมากเกินไปหน่อย จึงเป็นจังหวะของการสวมวิญญาณชาวสวนเจ้าค่ะ
*สำหรับรายที่ไปได้สวย และยังไปได้ไกลกว่าคนอื่นในเที่ยวนี้ “โมนิก้า” ขอหันไปมองหุ้นปลากระป๋อง TU เพื่อให้นักเล่นเก็บไว้พิจารณาสักนิดหนึ่ง เพราะตั้งแต่ฝั่งยุโรปทำการปลดล็อกธุรกิจประมงของไทย ราคาหุ้นก็ไต่ระดับขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน จนวานนี้เห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 17.60 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 268 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้ต้องลุ้นว่า เที่ยวนี้จะฝ่ายอดเดิมบริเวณ 18.50 บาทขึ้นไปได้ไหม ?