หมดแรง..แต่ไม่หมดใจ

*ตลาดหุ้นไทยวานนี้ถือเป็นการตอกย้ำว่าการเคลื่อนไหวของดัชนีจะยังไม่ไปไหนไกลจากการเคลื่อนไหวในรูปแบบเดิม ๆ ที่ทำให้ “โมนิก้า” เสียอารมณ์คอยเฝ้าหน้าจอลุ้นให้ดัชนีวิ่งกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,580 จุด เพราะยิ่งลุ้นยิ่งดูเหมือนจะยากมากขึ้นทุกที ถือเป็นความท้าทายระยะสั้นที่จะต้องเปลี่ยนรูปแบบให้ได้ เพราะถ้าหากดัชนียังไม่สามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญได้อย่างมั่นคงจะเป็นการเคลื่อนไหวที่วนอยู่กับที่ยังไงล่ะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ตลาดหุ้นไทยวานนี้ถือเป็นการตอกย้ำว่าการเคลื่อนไหวของดัชนีจะยังไม่ไปไหนไกลจากการเคลื่อนไหวในรูปแบบเดิม ๆ ที่ทำให้ “โมนิก้า” เสียอารมณ์คอยเฝ้าหน้าจอลุ้นให้ดัชนีวิ่งกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,580 จุด เพราะยิ่งลุ้นยิ่งดูเหมือนจะยากมากขึ้นทุกที ถือเป็นความท้าทายระยะสั้นที่จะต้องเปลี่ยนรูปแบบให้ได้ เพราะถ้าหากดัชนียังไม่สามารถยืนเหนือแนวรับสำคัญได้อย่างมั่นคงจะเป็นการเคลื่อนไหวที่วนอยู่กับที่ยังไงล่ะคะ

*ที่สำคัญคือหากมองการขึ้นลงของดัชนีในเที่ยวนี้จะเห็นว่า ดัชนีลงหนักมาแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,565.48 จุด คิดเป็นการปรับตัวลดลงถึง 11 จุด ก่อนจะมีการดีดขึ้นแบบงง ๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนมองสาเหตุที่ทำให้ดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,577.41 จุด บวกไป 0.41 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.02 หมื่นล้านบาท เพราะถ้าตอนจบจะแฮปปี้เอ็นดิ้งต้องลุ้นให้มีปัจจัยบวกขึ้นมาดันการดีดกลับให้สูงกว่ายอดเดิมเพื่อเปลี่ยนรูปแบบการเคลื่อนตัวให้ได้เท่านั้น !

*หากเนื้อเรื่องดำเนินมาแบบนี้ก็ต้องมองว่าจะไต่ขึ้นไปได้ถึง 1,580 จุดไหวหรือเปล่า ? หากยังไม่สามารถไปได้ถึงจุดหมาย ดัชนีมีโอกาสที่จะเซถลาลงมาทุกเมื่อ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่แฟนคลับต้องอ่านจังหวะดังกล่าวให้เป็น และควรเข้าเก็บหุ้นให้ถูกจังหวะ พร้อมกันนั้นควรตั้งอยู่บนความเป็นจริงว่า ทุกคนพร้อมสาดหุ้นเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาสะกิดนะจะบอกให้

*อย่างในรายของ BEC ดีดตัวคึกคักรับข่าว กสทช.เห็นชอบหลักการจัดประมูลคลื่น 700 MHz ครั้งใหม่ พร้อมเยียวยาผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ผู้รับประโยชน์สูงสุดจึงเป็น BEC ที่ถือครองใบอนุญาตไว้ถึง 3 ใบ วานนี้จึงได้เห็นภาพของการเข้าเก็งกำไรจนราคาวิ่งเป็นม้าคึกมาปิดที่ 5.30 บาท บวก 0.34 บาท หรือบวกไป 6.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 192.11 ล้านบาทยังไงล่ะจ๊ะ

*กลับกันกับรายของ DIGI ถึงแม้มีสตอรี่หลัง โค้วยู่ฮะดีลเลอร์รถยี่ห้อดังเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่หล่อเลี้ยงจนทำให้ราคาหุ้นเคยขึ้นไปแตะซิลลิ่งด้วยความหวังว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ก็ยังกลับมาโดนถล่มจนร่วงลงมานอนนิ่งอยู่ที่พื้นแบบง่าย ๆ ปิดได้แค่ระดับ 0.30 บาท ลบไป 0.03 บาท หรือ 9.09% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.26 ล้านบาท ปัจจัยหลักที่หุ้นโดนสาดทิ้งมันมาจากการที่แผนธุรกิจยังไม่ชัดเจน แถมยังไม่รู้ว่าจะไปได้สวยหรือเปล่านะสิ !

*ส่วนกรณีของ FANCY ที่วิ่งสวนกระแสขึ้นมาปิดที่ 0.92 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือลงไป 9.52% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 30.84 ล้านบาท แต่ “โมนิก้า” มองเป็นโมเมนต์การเล่นรอบแบบสั้น ๆ ของพวกนักปั่นน่องเหล็กที่แมงเม่าต้องคอยระวังเอาไว้ให้ดี ๆ เพราะรูปแบบการเคลื่อนไหวมันเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่มีผิดเพี้ยนเมื่อราคาหุ้นขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยบทสรุปสุดท้ายมักจะลงเอยอีหรอบเดิมทุกทีเจ้าค่ะ

*มาที่รายของ CPF ราคาหุ้นยังวนเวียนอยู่ที่เดิมถึงแม้จะมีปัจจัยบวกเข้ามาถึง 2 เด้ง จากราคาหมูในประเทศปรับตัวขึ้นแรงทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี พ่วงด้วย EU ปลดใบเหลืองสินค้าประมงไทย ถึงแม้วานนี้ระหว่างวันหุ้นจะวิ่งขึ้นไปถึงจุดสูงสุดที่ 26.50 จุด แต่สุดท้ายก็ย่อตัวลงมาปิดที่ 26.25 บาท หรือบวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.96% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 862.73 ล้านบาท ทำให้ภาพลงทุนต่อจากนี้ยังไม่น่าสนใจนักเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของหุ้นดีมีสตอรี่อย่าง PLANB ถึงแม้พื้นฐานจะแกร่งแค่ไหน แผนธุรกิจจะน่าสนใจยังไง แต่หากภาวะการลงทุนยังไม่เป็นใจ หุ้นถึงยังไม่ตอบสนองเท่าที่ควรจะเป็น ถึงได้เห็นการย่อตัวลงมาปิดที่ระดับ 5.85 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือ 1.68% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 36.53 ล้านบาท แต่การอ่อนตัวลงมาสู่ระดับ 5.85 บาทครั้งนี้ ถึงเวลาซื้อหรือยัง..ถามใจเธอดูซิจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ KTC ราคาหุ้นร่วง 6 วันติด ! โดยวานนี้ลงมาปิดที่ระดับ 28.50 บาท ลบ 0.25 บาท หรือ 0.87% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 608.66 ล้านบาท เดี๊ยนกลับมองว่าการอ่อนตัวมันสวนทางกับพื้นฐานที่บรรดาเซียนหุ้นมองว่ากำไรปี 2561 จะออกมาโตกระฉูดถึง 61% ตามด้วยยอด NVDR ซื้อเพิ่มเข้าไม่ขาดสายตั้งแต่เดือน ต.ค. 2561 งานนี้เป้าสูง 46  บาทเป็นจังหวะที่ดีที่เหล่าแฟนคลับควรรับไว้พิจารณานะเจ้าค่ะ

*ปิดท้ายกันที่ SC หลังจากได้เห็นราคาหุ้นดำดิ่งสู่ก้นเหวมาปิดที่ 2.62 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 3.68% มูลค่าการซื้อขาย 11.91 ล้านบาท ฟาดจุดต่ำสุดในรอบ 5 ปี แม้ทิศทางธุรกิจดูดีขึ้นจากสตอรี่พันธมิตรที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น แถมเทรดบนค่า P/E ต่ำกว่า 10 เท่า ด้วยระดับปันผลระดับสูงเกิน 4% เป็นช็อตที่ต้องลุ้นว่าราคาจะกลับมาดีดตัวสะท้อนปัจจัยบวกหรือเปล่า ? … อิอิ

 

Back to top button