รู้ซึ้ง!โมนิก้าและทีมงาน

*ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า “โมนิก้า” ไม่ใช่นายหญิงที่ชอบทับถมใคร และไม่ใช่นางเอกใสซื่อบริสุทธิ์ จึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจในสิ่งที่เตือนไว้เมื่อวันก่อนว่าการขึ้นแบบไม่มีวอลุ่มมักนำมาซึ่งการเทขายทำกำไรแบบหูดับตับไหม้ ขนาดช่วงเช้าบวกไปตั้งเยอะ พอตกบ่ายกลับโดนสาดไม่ยั้ง สถานการณ์ของตลาดหุ้นถึงออกอาการตุปัดตุเป๋ให้เห็นอีกรอบไงล่ะค่ะ

*รูปแบบการลงทุนวันนี้ถึงไม่ต้องคิดอะไรมากมาย ริจะเป็นนักรบ ก็ต้องมีบาดแผลให้เห็น ก็ของมันเห็นกันอยู่แล้วว่าสถานการณ์หลายอย่างไม่เป็นใจให้ถือหุ้นยาวๆ จึงไม่มีความจำเป็นต้องนอนกอดหุ้นที่ซื้อไว้เมื่อวันก่อน เพราะสิ่งที่เห็นในวันนี้ กับวันที่ผ่านมา ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม การไล่หุ้นตัวนั้นที ไล่หุ้นตัวนี้ที ก็ยังมีให้เห็นทุกเมื่อเชื่อวัน หวังอะไรสูงๆ ไม่ได้หรอกค่ะ

*คิดดูแล้วกัน! ขนาดหุ้นพื้นๆ บ้านๆ APCSจู่ๆ ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง ทั้งที่ยังไม่มีอะไรมาการันตี “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์ที่นักโหนกระแสไม่คิดอะไรมากอยู่แล้ว เพราะมันไม่มีอะไรต้องคิดมาก แค่รู้ว่ามีวอลุ่มหนุน ทรงหุ้นยังสวย เทคนิคยังเป็นใจ ทุกคนก็กระโจนเข้าใส่กันมือเป็นระวิง วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.44บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 18% ด้วยมูลค่า 200 ล้านบาท สงครามวันเดียวหรือไม่?ต้องดูกันต่อไปนะจ๊ะ

*ประเด็นตรงนี้เหมือนกับในรายของ NPPหรือไม่? เดี๊ยนก็ไม่รู้เหมือนกัน เพราะผู้คนในโลกโซเชียลมีเดียมีเรื่องเม้าท์หลายเรื่อง จนไม่รู้ว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริง? “โมนิก้า” ในฐานะคนที่ติดตามข่าวสารอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ถึงอ้าปากไม่ออก หลังเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2 บาท บวกไป 0.31 บาท หรือขึ้นไป 18% ด้วยมูลค่า 200 ล้านบาท มันคงไม่ใช่อาการอุปทานหมู่นะค่ะ

*เม้าท์ถึงหุ้นแรงๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องเหลือบดู ABCในทันที หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.04บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 8% แถมเป็นการกระชากขึ้นแรง 2 วันติดต่อกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่น่าติดตามดูเหลือเกิน หลังสัญญาณแท่งเทียนดันเปิดสูงปิดต่ำ วันนี้ถึงต้องพุ่งเป้าไปที่วอลุ่มลำดับแรก หากทุกอย่างมาตามนัด ได้เห็นหุ้นพุ่งขึ้นไปอีกแน่ หากไม่เป็นอย่างที่ว่า ก็คงจบรอบชั่วคราวเจ้าค่ะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ UPAราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 2.92บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 5.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 600 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงมองว่าการทะยานขึ้นของหุ้นรอบนี้ไม่ธรรมดา แถมเป็นการถีบตัวขึ้นแรงวันแรกเสียด้วย มันเป็นอะไรที่ชวนให้เกิดอาการฟินสุดๆ เพราะโปรเจ็กต์ถัดไปในการสร้างโรงไฟฟ้าเริ่มต้น 150 เมกะวัตต์ กำไรที่ไหลย้อนเข้าสู่บริษัทจะมหาศาลขนาดไหน?..ลองไปดีดลูกคิดกันดูนะจ๊ะ

*ส่วนควันหลงเรื่อง WEH ยังคงมีออกมาเป็นระลอก แถมแต่ระลอกที่แมงลือเม้าท์ให้ฟังก็เป็นเรื่องจั๊กจี้หัวใจผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพราะมีการพาดพิงคนกลุ่มนั้น คนกลุ่มนี้ กันเยอะแยะไปหมด แถมแต่ละคนที่ถูกเม้าท์ก็พูดกันไปคนละทาง “โมนิก้า” เลยไม่รู้จะเชื่อใครดีกว่ากัน และไม่รู้ว่าการรีเทิร์นรอบ 2 จะมีใครตกเป็นเหยื่ออันโอชะของแผนการโยกเงินกระเป๋าซ้ายกระเป๋าขวากันอีกหรือเปล่า!..อิอิอิ

*หากยังไม่หลงลืมกันไปเสียก่อน “โมนิก้า” จำได้เลาๆ ว่ามีการเร่ขายหุ้นตัวนี้อย่างเอิกเกริก มีโบรกเกอร์หลักคอยประสานงานอยู่ด้วยกัน 3 ราย ซึ่งแต่ละรายก็มีผลประโยชน์จากหุ้นตัวนี้ค่อนข้างเยอะ จึงพยายามฉายแต่เรื่องดีๆ ให้ขาใหญ่ได้รับฟัง แต่สุด้ายของที่นำขายกลับดีไม่จริงเหมือนที่ประโคมข่าว ส่วนผู้บริหารก็โดนข้อหาร้ายแรงชนิดที่ข้อเข่าทรุดลงไปกองอยู่ที่พื้นกันเลยทีเดียวนะคะ

*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมาอีกครั้ง เพราะดีลการขายหุ้นให้กลุ่ม KPNเที่ยวนี้ว่ากันว่า คนที่อยู่แดนไกลยังเป็นคนกดปุ่มทั้งหมด เรื่องทุกเรื่องต้องได้รับการ say yes! หลังจากนั้นถึงจะมีคนเข้ามารับไม้ต่อ และคนที่เข้ามามีส่วนร่วมในครั้งนี้ก็คือ ดร.เค เจ้าเก่า หน้าเดิม ซึ่งเป็นคนที่ไปกระซิบกระซาบให้ขาใหญ่เข้าไปซื้อหุ้น pre ipo  ก่อนหน้านี่ไงเล่า..ล่าสุดก็ได้ข่าวว่า ดอกเตอร์เป็นคนบอกให้ทุกคนใจเย็นๆ ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผนนะจ๊ะ

*นั่นหมายความว่า แผนนำหุ้น WEHเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังถูกปัดฝุ่นขึ้นมาใหม่ซึ่งคนในก๊วนนี้หมายมั่นปั้นมือจะถอนทุนคืนแบบทบต้นทบดอก แต่ขอโทษทีเถอะ! พรายกระซิบแถวถนนวิภาวดี กับ พรายกระซิบแถวตลาดคลองเตย ป้องปากเม้าท์ให้ฟังว่า ไม่ง่าย!เพราะหุ้นร้อนตัวนี้กลายเป็นหุ้นเฝ้าระวังที่คนของทางการจ้องจะเด็ดปีก หลังแสดงความอหังการให้เห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ก็เลยมีคนจ้องรุมสหบาทาเพียบ..ว่าแต่ เข้าตลาดหุ้นไม่ได้ แบงก์สีอะไรเดือดร้อนมากสุด ระหว่าง แบงก์สีเขียว แบงก์สีม่วง แบงก์สีฟ้า..อิอิอิ

*ป.ล.วันนี้เดี๊ยนจะมาฉายหนังเรื่อง WEH ให้เห็นกันอีกดอก  ยิ่งสาวลงไปลึกเท่าไหร่ ยิ่งเจออะไรที่พิลึกพิลั่นเยอะแยะไปหมดเจ้าค่ะ