ทะลุได้…ไปต่อ
*ดัชนีวานนี้ปรับตัวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวันด้วยแรงซื้อแรงขายที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง การยืนเหนือ 1,580 จุดได้เป็นวันที่ 3 ถึงแม้จะยังไม่ทะลุ 1,590 จุด กลับทำให้ภาพการลงทุนดูดีขึ้นมาเป็นลำดับ เหล่ามิตรรักแฟนเพลงของ “โมนิก้า” ถึงเริ่มกลับมามีความหวังและลุยหุ้นมากขึ้น ส่งผลให้ดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,588.38 จุด บวกไป 4.61 จุด หรือขึ้นไป 0.29% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.50 หมื่นล้านบาท
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ดัชนีวานนี้ปรับตัวอยู่ในแดนบวกตลอดทั้งวันด้วยแรงซื้อแรงขายที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง การยืนเหนือ 1,580 จุดได้เป็นวันที่ 3 ถึงแม้จะยังไม่ทะลุ 1,590 จุด กลับทำให้ภาพการลงทุนดูดีขึ้นมาเป็นลำดับ เหล่ามิตรรักแฟนเพลงของ “โมนิก้า” ถึงเริ่มกลับมามีความหวังและลุยหุ้นมากขึ้น ส่งผลให้ดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,588.38 จุด บวกไป 4.61 จุด หรือขึ้นไป 0.29% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.50 หมื่นล้านบาท
*การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ทำให้ต้องคิดต่อไปว่า หากดัชนีสามารถทะลุขึ้นไป 1,590 จุดได้ถึงจะไปต่อ ถึงแม้จะมีแรงซื้อไหลกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่กลับมองเป็นความสบายใจระยะสั้น ๆ และรอข้อมูลที่จะบิลต์อารมณ์ให้ฮึกเหิม ดัชนีถึงจะปรับโพสิชั่นเป็นบวกแบบเต็มรูปแบบ ส่วนหุ้นหลายตัวถูกเทขายลงมามากเกินไป ในจังหวะนี้ยังมีโอกาสให้ฉกฉวยก่อนฟื้นตัวนะจะบอกให้
*สาเหตุที่ทำให้เชื่อเช่นนั้นเป็นเพราะยอดซื้อของกองทุนที่เข้ามาอย่างแน่นเฉียด 3 พันล้านบาท รวมทั้งตัวเลขผลประกอบการที่เชื่อว่าจะออกมาดูดีในเที่ยวนี้ ทำให้หุ้นบางตัวกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้ลองจับตาดูหุ้นพื้นฐานดี ผลประกอบการโตเด่นเท่านั้น เพราะจะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสกลับมาวาดลวดลายให้เหล่านักเฝ้าหน้ากระดานได้กลับมาคึกคักอีกครั้งเจ้าค่ะ
*ในกลุ่มหุ้นพลังงานมีแรงซื้อเข้ามาคึกคัก ที่เห็นได้ชัดในรายของ TOP เริ่มฟื้นตัวรอบใหม่ โดยวานนี้ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 71.75 บาท บวก 2.25 บาท หรือ 3.24% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 635.61 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 1 เดือน หลังตอบรับข่าวผลงานไตรมาส 4/2561 ผิดคาดไปมากแล้ว จึงได้เริ่มมีแรงซื้อเก็บเพราะพื้นฐานยังแกร่งแถมยีลด์สูงเกือบ 7% “โมนิก้า” เห็นอย่างนี้แล้วไม่อยากพูดมากเจ็บคอใส่สุดซอยไปเลยเจ้าค่ะ
*คล้ายกับรายของ KBANK ที่ประกาศตัวเลขกำไรปี 2561 น่าผิดหวัง แต่วันนี้กลับมีแรงซื้อเข้ามาอย่างหนาแน่นจนราคาดีดบวกขึ้นมาปิดที่ระดับ 187.50 บาท บวกไป 4.50 บาท หรือบวกไป 2.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.27 พันล้านบาท เทรนด์สัญญาณเทคนิคจึงเริ่มกลับมาเป็นขาขึ้นสั้น ๆ อีกรอบ การขึ้นอีหรอบนี้นักเล่นที่รู้จักจังหวะเข้าไวออกไวเท่านั้นถึงจะทำคะแนนได้นะเจ้าค่ะ
*ส่วนในราย MTC โดนเทขายสะท้อนปัจจัยลบมาระยะหนึ่ง ตอนนี้ก็ถึงเวลาดีดตัวกลับมาอยู่ที่ระดับ 44 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 2.33% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 413.47 ล้านบาท สมคำประกาศิต “ป๋าชู” ออกโรงยืนยันไม่มีเอี่ยวปมพิโกไฟแนนซ์ จึงไม่กระทบเงินในกระเป๋าแน่นอน ช็อตต่อไปต้องมารอลุ้นกันว่าผลงานปี 2561 จะทำนิวไฮได้จริงหรือเปล่า ?
*ส่วนอีกรายที่เคลื่อนไหวแบบงง ๆ อย่าง BEM กับมีอาการสวิงสวายตลอดทั้งวัน เริ่มด้วยการขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 10.10 บาท ก่อนจะลงมาปิดตลาดที่ระดับ 9.85 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลบไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 406.88 ล้านบาท หลังจากถูกแรงซื้อแรงขายสู้กันอยู่ตลอดเวลา แต่ดูทรงหุ้นแล้วยังถือว่าไม่มีอะไรน่าสนใจรออยู่ นักเล่นควรชั่งน้ำหนักให้ดีก่อนจะใส่เกียร์เดินหน้านะเจ้าค่ะ
*มากันที่รายของ TU หุ้นขยับขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นช่วง ๆ วานนี้ได้เห็นราคาขึ้นมาปิดที่ 18.20 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 633.96 ล้านบาท จากความหวังผลงานจะดีขึ้นเป็นลำดับ ทั้งจากราคาปลาทูน่าและกุ้งที่หนุนสตอรี่ด้วยการปลดค่าใช้จ่ายก้อนโตที่จบสิ้นไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ถือเป็นการปลดล็อกปูทางให้ธุรกิจอนาคต แถมหุ้นที่ขึ้นมาวันนี้ยังเหลือแก๊ปให้เล่นได้อีกนะเจ้าค่ะ
*ในรายของ SMM ยังคงวิ่งเป็นม้าเร็วทะยานสู่ 3.14 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือ 6.80% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 278.39 ล้านบาท หนุนด้วยสตอรี่พลิกโฉมกลายเป็นบริษัทมูลค่า 1.29 หมื่นล้านบาท หลังทีม เอ โฮลดิ้ง 2 เข้าแบ็กดอร์ หันหัวผลิตสายไฟฟ้าและสายเคเบิลไฟฟ้า หากเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเสร็จสิ้นจะพลิกกลับมามีกำไรทันที ประเด็นทั้งหมดดูน่าสนใจไม่น้อย แต่เดี๊ยนอยากให้คำนวณดูสักนิดว่าราคาหุ้นที่ทะยานอย่างต่อเนื่องมันเกินพื้นฐานที่ควรจะเป็นหรือยัง ?
*ปิดท้ายที่หุ้น BDMS และ BA ที่กอดคอกันร่วงหนักเซ่นข่าวอินไซเดอร์ฯ ส่งผลให้ราคาหุ้นวานนี้ถูกกระหน่ำเทขายจากอาการแพนิกจากประเด็นที่ยังคุกรุ่น ส่วน BDMS มีแรงขายหนักขึ้นกระดานซื้อขายอันดับหนึ่งจากการทิ้งบิ๊กล็อตของรายใหญ่ งานนี้ “โมนิก้า” มองว่าถือเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดของแท้จากปมดราม่าขึ้นทะเบียนยายังไม่ทันหายตกใจกลับถูกประเด็นใหม่เข้ามาแทรก ดูไม่จืดยังไงล่ะคะ