ดัชนีไปได้แค่ไหน
ปัจจัยเรื่อง “เลือกตั้ง” เข้ามาดันดัชนีค่อนข้างแรงเมื่อวานนี้
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
ปัจจัยเรื่อง “เลือกตั้ง” เข้ามาดันดัชนีค่อนข้างแรงเมื่อวานนี้
ทว่าอาจจะมีปุจฉาจากนักลงทุนว่า แล้วดัชนีตลาดหุ้นจะวิ่งไปต่อได้แค่ไหนกันล่ะ
แนวรับ-แนวต้านเป็นอย่างไร
ประเด็นนี้ เคยเขียนมาแล้วอ้างอิงจากความเห็นของนักวิเคราะห์หลายคนว่า วันเลือกตั้งที่กำหนดออกมาชัดเจน (24 มี.ค.) จะช่วยดันดัชนีเพียงชั่วคราวเท่านั้น
หรือให้กลับขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,600 จุดได้นั่นแหละ
และ 1,600 จุด (หรือ 1,610 จุด) ที่ว่านี้ จากเดิมที่เป็นแนวต้านสำคัญ ก็จะเปลี่ยนมาเป็นแนวรับ
เท่าที่ดูจากบทวิเคราะห์ และความเห็นนักวิเคราะห์ล่าสุด ต่างให้เป้าดัชนีเหนือกว่า 1,600 จุดไม่มากนัก จากข่าวเลือกตั้ง
เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ยังกดดันตลาดหุ้นไทยอยู่
อย่างเรื่องของต่างประเทศ เช่น เทรดวอร์ และการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด สถานะทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยุโรปที่เริ่มส่งสัญญาณว่าจะถดถอย
และอีกหลายประเด็น
จะเห็นได้จากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นฝั่งยุโรปต่างเคลื่อนไหวแดนลบกันหมด
ส่วนตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย ส่วนใหญ่จะปิดลบเช่นกัน
นั่นเพราะปัจจัยกดดันเดิม ๆ ยังหมุนเวียนเข้ามาหลอกหลอนนักลงทุนอยู่เรื่อย ๆ และหลาย ๆ ปัจจัยก็ยังไม่ได้แก้ไข หรือมีจุดลงเอยแบบสะเด็ดน้ำ
ส่วนของเราหากไม่ได้ปัจจัยภายในหนุน
ตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ก็น่าจะลง และยังไม่น่ากลับมายืนเหนือระดับ 1,600 จุดได้
กลับเข้าสู่คำถามที่ว่า แล้วดัชนีจะไปได้แค่ไหน
ปัจจัยหลัก ๆ เลยก็ต้องมาดูกันว่า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เหลือจะออกมากันอย่างไร
ขณะที่ก่อนหน้านี้หุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ต่างแจ้งกันออกมาครบแล้ว กำไรสุทธิรวมกันกว่า 2.02 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 8-9% หากเทียบกับปี 2560
แต่นักลงทุนยังคงผิดหวัง เพราะมองว่าไตรมาส 4/2561 ตัวเลขกำไรมันไม่สวย หรือต่ำกว่าคาดกันไว้เยอะ
ส่วนแนวโน้มในปี 2562 ตอนนี้ยังไม่เห็นอะไรชัดเจน
ล่าสุด นักวิเคราะห์ต่างมีประชุมร่วมกับนายแบงก์แต่ละแห่ง พร้อมกับคาดการณ์งบ และดีดลูกคิดเพื่อหาราคาเป้าหมายล่าสุดกันแล้ว
ส่วนใหญ่ยังมองเชิงบวกหุ้นในกลุ่มธนาคาร ทำให้ราคาหุ้นเริ่มกลับมาได้ เช่น BBL, SCB และ KBANK
สัปดาห์หน้า วันที่ 30 ม.ค.นี้ หุ้นปูนใหญ่หรือ SCC ก็จะแจ้งงบปี 2561 ตามมา
ราคาหุ้น SCC วิ่งขึ้นมา 4-5 วันทำการ น่าจะเป็นแรงเก็งกำไรก่อนงบออก
หากเป็นไปตามคาดก็น่าจะมีการขายทำกำไรออกมา หรือหากแย่กว่าที่คาดก็น่าจะมีการขายทำกำไรเช่นกัน เว้นแต่จะเซอร์ไพรส์เชิงบวกอย่างมาก ๆ หุ้นก็อาจจะไปต่อได้
วันที่ 28 ม.ค. หุ้น DTAC จะแจ้งงบ
ถัดจากนั้น เป็นพี่เทพ หรือ ปตท.สผ. (PTTEP) ที่ถูกคาดหมายว่าจะออกมาดี
แต่ราคาหุ้นก็ตอบรับไปแล้ว เพราะไล่ราคากันมาตั้งแต่ 113 บาท และล่าสุดมาปิดที่ 127.50 บาท
เห็นกราฟแล้ว โอกาสถูกขายทำกำไรมีเยอะจริง ๆ
จะเห็นว่า หุ้นขนาดใหญ่ทั้ง SCC, DTAC และ PTTEP ราคาหุ้นต่างตอบรับกับงบปี 2561 ไปหมดแล้ว ดังนั้น โอกาสที่ดัชนีจะวิ่งไปต่อจากงบ บจ.ปี 2561 (นอกจากจากปัจจัยเรื่องเลือกตั้ง) ก็ไม่น่าจะมีมากนัก
หุ้นในกลุ่มธนาคาร น้ำมัน และปิโตรเคมี มีขนาดมาร์เก็ตแคปรวมกันคิดเป็นมากกว่า 50% ของตลาดหุ้นไทย
ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นขนาดกลางและเล็ก
หากงบการเงินปี 2561 ต่างออกมาดีมาก ๆ ก็ไม่น่าจะเพียงพอดันดัชนีให้วิ่งไปไกล ๆ
จึงต้องกลับมาลุ้นหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มแบงก์ การเงิน สื่อสาร ค้าปลีก ที่พี/อี ยังต่ำ และมีแนวโน้มเติบโตดีในปี 2562-2563 กันไป