ลุยต่อ

*ถือเป็นเรื่องดีเป็นประจำที่ข่าวดีในประเทศออกมาทีไร โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศมักจะทำให้ดัชนีวิ่งทะยานขึ้นไปแตะขอบฟ้า และกว่าจะลงมาก็เป็นช่วงที่นักเล่นกอบโกยกำไรได้ดั่งใจหวัง “โมนิก้า” เลยถือโอกาสนี้พูดถึงทิศทางธุรกิจ เพื่อทำให้นักลงทุนเห็นภาพการลงทุนได้ชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการเตือนสตินักลงทุนให้กำหนดรูปแบบการลงทุนด้วยตนเอง หรือถ้าเป็นไปได้ควรปรับพอร์ตให้เหมาะกับภาวะมากกว่าเดิมนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ถือเป็นเรื่องดีเป็นประจำที่ข่าวดีในประเทศออกมาทีไร โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประเทศมักจะทำให้ดัชนีวิ่งทะยานขึ้นไปแตะขอบฟ้า และกว่าจะลงมาก็เป็นช่วงที่นักเล่นกอบโกยกำไรได้ดั่งใจหวัง “โมนิก้า” เลยถือโอกาสนี้พูดถึงทิศทางธุรกิจ เพื่อทำให้นักลงทุนเห็นภาพการลงทุนได้ชัดเจนขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการเตือนสตินักลงทุนให้กำหนดรูปแบบการลงทุนด้วยตนเอง หรือถ้าเป็นไปได้ควรปรับพอร์ตให้เหมาะกับภาวะมากกว่าเดิมนะคะ

*เนื่องจากตลาดหุ้นไทยจะคึกคักมากขึ้นอย่างแน่นอน…เพราะปี 2562 จะเป็นการเริ่มต้นของการช่วยกันดันให้บริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถทำกำไรได้อย่างโดดเด่นขึ้นมาเป็นสีสันให้กับตลาดหุ้นไม่แพ้บริษัทขนาดใหญ่ เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าระบบเศรษฐกิจของไทยเข้มแข็งทุกภาคส่วน ซึ่งหุ้นตัวไหนจะดีหรือตัวไหนจะดับนับจากนี้คงต้องวัดกันที่ผลงานเท่านั้นนะเจ้าค่ะ

*การที่ดัชนีวิ่งต่อมาอยู่ที่ระดับ 1,620.53 จุด บวกไป 3.15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.08 หมื่นล้านบาท ถือเป็นการตอกย้ำว่าการเคลื่อนตัวรอบนี้มาถูกทาง เพราะเริ่มไต่ระดับเข้าใกล้เป้า 1,630 จุดที่ “โมนิก้า” มองไว้ขึ้นทุกที ทำให้หลายคนออกอาการลิงโลดพุ่งเข้าใส่หุ้นที่หมายตาเอาไว้แบบสุดซอย เห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายที่มีเข้ามาอย่างทะลักทะลวงเป็นครั้งที่ 2 ยังไงล่ะเจ้าค่ะ

*ที่สำคัญกว่าคือต้องไม่ชะล่าใจเคาะขวาจนไม่ลืมหูลืมตา เพราะการจะมองเกมหุ้นให้ขาดต้องหัดเปิดหูเปิดตาเปิดจมูกดมกลิ่นให้รอบทิศ เพราะหากมีปัจจัยลบเข้ามาแทนที่ เท่ากับเป็นการกระตุกต่อมอารมณ์นักลงทุนให้เกิดความไม่มั่นใจขึ้นมาอีก หากปัจจัยรอบทิศยังอยู่ในทิศทางที่ดีเหมือนอย่างที่เป็นขณะนี้ จะทำให้นักลงทุนหลาย ๆ กลุ่มกลับมาเล่นหุ้นกันมากขึ้นพะยะค่ะ

*เหมือนกับในกลุ่มหุ้นพลังงานทางเลือกค่อนข้างมีสตอรี่ดีรองรับเต็มประตูหน้าต่าง และยังมีพัฒนาการสำคัญที่ปรากฏให้เห็นเป็นระยะ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนลองพิจารณาข้อมูลหุ้นจาก PDP ฉบับใหม่ ซึ่งถือเป็นข่าวดีที่ถูกปลดล็อกออกมา..งานนี้ใครคิดว่าหุ้นตัวไหนจะมีพัฒนาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็หาจังหวะทยอยซื้อหุ้นไปเรื่อย ๆ อาจจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำนะเจ้าค่ะ

*หนึ่งในรายละเอียด PDP ฉบับใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิม มีเรื่องของการต่อสัญญาโรงไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) นับนิ้วได้ 25 โรงด้วยกัน ปรากฏรายชื่อเป็นของเจ้าใหญ่อย่าง GLOW ไปแล้วถึง 9 โรง ที่เหลือตามมาด้วย BGRIM AMATA GULF เผยชื่อออกมาแบบนี้ มิตรรักแฟนเพลงของ “โมนิก้า” คงพอมองเห็นลาง ๆ แล้วใช่ไหมว่า จะเลือกเคาะขวาเก็บหุ้นตัวไหนเข้าพอร์ตดี ?

*ส่วนในรายของ HTC เรียกได้ว่าเป็นหุ้นที่นานทีปีหนจะขึ้นมาให้เห็นหน้าค่าตา วานนี้ราคาขึ้นมาปิดที่ 14.70 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 8.09% ด้วยมูลการซื้อขาย 9.61 ล้านบาท หากมองผลงานที่ผ่านมาแล้วถือว่าเป็นอีกหุ้นที่ยังเสมอต้นเสมอปลายทั้งเรื่องกำไรและปันผล แต่ถ้าอยากให้วิ่งต่อไปอีกยาว ๆ ต้องลุ้นให้ทะลุแนวต้าน 75 วันที่บริเวณ 15.11 บาทให้ได้ก่อน แล้วอาจจะมีลุ้นแรลลี่ยาวเจ้าค่ะ

*แวะมาที่หุ้นขยะทองคำ BWG หลังเห็นราคาทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.12 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 4.67% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 50.50 ล้านบาท ทำนิวไฮในรอบ 1 เดือน งานนี้ไม่ได้กินยาผิดซองแต่อย่างใด เพราะเดี๊ยนไปสืบเสาะมาว่า กำไรในช่วง 3 ปีข้างหน้าจะเป็นขาขึ้นรอบใหม่ และในปีนี้จะทำ All-time high ที่ 373 ล้านบาท โต 17% โบรกฯ แข่งกันอัพเป้าสูงสุดถึง 2.02 บาท แถมเทคนิคเป็นใจลุ้นไปต่อได้นะจ๊ะ

*ส่วนในรายของหุ้นโรงเรียนอย่าง SISB ที่วานนี้ไหลลงเบา ๆ มาปิดที่ 5.10 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลบไป 1.92% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 104.37 ล้านบาท มองเป็นภาพการปล่อยของสำหรับคนที่กอดหุ้นไว้ตั้งแต่ IPO เพราะก่อนหน้านี้หุ้นเผชิญกับข่าวกดดันมาตลอด จนย่ำฐานที่ 4 บาทมาเกือบ  2 เดือน งานนี้ “โมนิก้า” มองว่าเป็นการขายทำกำไรธรรมดาเพราะพื้นฐานยังแน่นปึ้กเหมือนเดิมเจ้าค่ะ

*ปิดท้ายที่หุ้นทีเด็ดอย่าง GFPT ตีปีกรับโชคสองชั้นตั้งแต่ต้นปี ทั้ง EU ปลดธงเหลืองประมงไทย พ่วงราคาไก่พุ่งแรงกระฉูด ดันราคาหุ้นทะยานแตะระดับ 14.10 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.92% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 107.20 ล้านบาท ทำให้เชื่อว่าแนวต้านที่ 15 บาทคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม แม้ผลงานปี 2561 จะทำผลงานไม่ดีนัก แต่ผลงานปีนี้พรายกระซิบบอกว่าจะปั๊มกำไรตีตื้นกลับมาได้อีกครั้งพะยะค่ะ

 

Back to top button