ดันหุ้นรายตัว !
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงสะสมแรงซื้อเพื่อเดินหน้าขึ้นไปทดสอบยอดเดิม อาจเป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจมากก็จริง เพราะดัชนีแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนบวกและแดนลบตลอดเวลา แต่อย่างน้อยก็ทำให้นักเล่นได้รู้ถึงแรงซื้อของนักลงทุนแกนหลักยังมีเข้ามาเป็นระยะ ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในโพสิชั่นที่ดี และมีโอกาสเดินหน้าขึ้นไปได้อีกนะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงสะสมแรงซื้อเพื่อเดินหน้าขึ้นไปทดสอบยอดเดิม อาจเป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจมากก็จริง เพราะดัชนีแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนบวกและแดนลบตลอดเวลา แต่อย่างน้อยก็ทำให้นักเล่นได้รู้ถึงแรงซื้อของนักลงทุนแกนหลักยังมีเข้ามาเป็นระยะ ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในโพสิชั่นที่ดี และมีโอกาสเดินหน้าขึ้นไปได้อีกนะคะ
*วันนี้ถึงต้องโฟกัสหุ้นเป็นรายตัวเพื่อทำให้เห็นแพตเทิร์นการขึ้นแตกต่างไปจากเดิมขนาดไหน รวมทั้งต้องเข้าใจการเข้ามาซื้อของนักเล่นกลุ่มสถาบันในเที่ยวนี้ น่าจะเป็นการเข้ามาเก็บหุ้นอย่างจริงจัง หลังจากระบายหุ้นออกไปจากพอร์ตเยอะพอสมควร ผนวกกับตลาดหุ้นซึมซับข่าวร้ายวนไปวนมาหลายรอบ จึงไม่มีประเด็นไหนที่ทำให้แพนิกจนนำไปสู่การเทขายหุ้นหนัก ๆ เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วไงล่ะจ๊ะ
*เมื่อทุกอย่างไม่หนักหนาสาหัสเหมือนที่ผ่านมา “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจเมื่อดัชนีสามารถยืนปิดที่ 1,632.60 จุด บวกไป 8.55 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.87 หมื่นล้านบาท เพราะจังหวะนี้เป็นการเข้าเล่นหุ้นรายตัวที่มีข่าวดีซัพพอร์ต ขณะเดียวกันก็เป็นการขายทำกำไรหุ้นบางตัวเพื่อโยกเงินไปเล่นหุ้นตัวใหม่ ส่งผลให้การเคลื่อนตัวของดัชนีถึงคลึงไปคลึงมาตลอดเวลานะจะบอกให้
*เหมือนกับในรายของ PTTEP ฉวยจังหวะแก้เกมหุ้นตกต่อเนื่อง ด้วยการประกาศจ่ายปันผลในอัตรา 3.25 บาทต่อหุ้น ย่อมเป็นช็อตที่ทำให้สถานการณ์หลายอย่างดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 121 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 2.10% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.41 พันล้านบาท เดี๊ยนมองจากมุมไหน ด้านไหน ก็เป็นจังหวะของการเล่นตามน้ำโดยไม่มีข้อแม้นะจ๊ะ
*ส่วนในรายของน้อง TOP พอคลายความกังวลเกี่ยวกับขาดทุนสต๊อกน้ำมัน สถานการณ์ของหุ้นก็เริ่มดีขึ้นอย่างช้า ๆ พร้อมกับการก่อตัวเป็นภูเขาสามลูกในทิศทางขาขึ้นอย่างชัดเจน ก็เป็นอีกหนึ่งช็อตของคนที่ถนัดเล่นรอบห้ามคลาดสายตา เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 72 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 4.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.32 พันล้านบาท เป็นการเทรดบนค่า P/E 7 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำเกินไปจริง ๆ นะคะ
*ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับการวิ่งขึ้นของหุ้น TU ก่อนจะมาลงเอยที่ระดับ 19 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 698 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของการเล่นบนความคาดหวังกำไรในปี 2562 จะกลับมาอยู่ในระดับ 5-6 พันล้านบาท หลังปัจจัยลบเริ่มลดลงและถูกแทนที่ด้วยปัจจัยบวกเยอะขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งช็อตที่น่าตามไปดูด้วยเช่นกัน พร้อมกับต้องภาวนาให้กำไรออกมาดีจริงด้วยเจ้าค่ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องหันมามองลีสซิ่งสีเทา GL ทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 8.15 บาท บวกไป 1.20 บาท หรือขึ้นไป 17.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 570 ล้านบาท กลายเป็นประเด็นที่ทำให้แมงลือนินทากันสนุกสนานว่า ลากไปเชือดอีกตามเคยแน่ ๆ เพราะยังมีเรื่องคดีความค้างคากันอยู่ เดี๊ยนถึงรู้สึกทะแม่ง ๆ เมื่อเห็นหุ้นวิ่งแรงแบบไร้เหตุผลที่ดีรองรับไงล่ะจ๊ะ
*ส่วนในรายของ BWG อาจมีสตอรี่กำไรรองรับเต็มประตูหน้าต่าง แต่เที่ยวก่อนหุ้นก็วิ่งขึ้นไปแตะได้แค่ระดับ 1.30 บาท ต่อจากนั้นก็ไหลรูดลงมายืนแถว 1 บาท “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นมองการขึ้นมายืนปิดที่ 1.25 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 7.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 110 ล้านบาท จึงกลายเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องติดตามการเคาะขวารัว ๆ จะต่อเนื่องขนาดไหนนะคะ
*เช่นเดียวกับพรมผีสิง TCMC เดี๋ยวกระชากขึ้นแรง เดี๋ยวกระชากลงแรง จนแมงเม่าเริ่มทำตัวไม่ถูกกันถ้วนหน้านั้น “โมนิก้า” มองเป็นสเต็ปของการเล่นเก็งกำไรปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องมองยาว ๆ เพราะการที่หุ้นวิ่งขึ้นมายืนปิด 1.84 บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 13.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 128 ล้านบาท มันเป็นช็อตวัดใจเจ้ามือจะดันราคาล่อแมงเม่าให้เข้าไปรับของราคาสูงอีกหรือเปล่านะซี
*สำหรับในรายของหนูมาลี MALEE กระชากขึ้นมาปิดที่ 10.70 บาท บวกไป 2.45 บาท หรือขึ้นไป 29.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 170 ล้านบาท น่าจะมีสตอรี่เกี่ยวกับการเทิร์นอะราวด์มากกว่าประเด็นอื่น ถึงมีแรงซื้อไหลเข้ามาดันหุ้นจนปิดราคาสูงสุดของวันแบบชิว ๆ พร้อมกับวาดผลงานในปี 2562 จะกระเตื้องขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ วันนี้จึงมีโอกาสเห็นหุ้นทะยานขึ้นไปอีกนะจะบอกให้