ทะลุ 1,650 ฉลุยต่อ !

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนอารมณ์ของนักลงทุนในช่วงนี้จะออกไปในทางระริกระรี้ผิดปกติ หลังจากดัชนีของตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังเดินหน้าขึ้นไปทดสอบยอดเก่ากันอย่างถ้วนหน้า แม้ในระหว่างทางจะมีการย่อตัวลงมาบ้างเล็กน้อยตามอัตภาพ แต่ภาพการเคลื่อนตัวใหญ่ ๆ ยังเป็นจังหวะของการ side way up ซึ่งเป็นจังหวะที่เหมาะต่อการโหนกระแสเป็นอย่างยิ่ง เพราะหุ้นหลายตัวมีโอกาสถีบตัวขึ้นไปได้เรื่อย ๆ นะซี

*ผนวกกับนักลงทุนสถาบันหวนกลับเข้ามาซื้อหุ้นต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน ทั้งที่จังหวะนี้ตลาดหุ้นไทยต้องโดนแรงเทขายจากกองทุน LTF และ RMF เล่นงานอย่างหนักหน่วง “โมนิก้า” ถึงเชื่อเหลือเกินว่า การวิ่งทะลุแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,650 จุดขึ้นไปแบบชิว ๆ น่าจะเป็นใบเบิกทางที่ทำให้ดัชนีไต่เพดานบินสูงขึ้นไปได้อีก วันนี้ถึงต้องใส่กันสุดติ่งกระดิ่งแมวกันไปเลยนะคะ

*เมื่อตลาดหุ้นมีแรงหนุนจากหลายเรื่อง ดัชนีถึงวิ่งขึ้นมายืนปิดที่ 1,641.73 จุด บวกไป 9.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.78 หมื่นล้านบาทแบบสบาย ๆ พร้อมกับทำให้หุ้นกลุ่มบลูชิพกลับมามีบทบาทอย่างมากนั้น “โมนิก้า” ถึงมีความจำเป็นต้องโฟกัสหุ้นกลุ่มนี้มากเป็นพิเศษ เพราะได้กลายเป็นตัวเต็งสำหรับการเล่นเที่ยวนี้ จึงอยากให้นักเล่นทำความเข้าใจกันอีกครั้งว่า โอกาสมาถึงก็ต้องคว้าไว้ก่อนเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ KBANK ทำท่ายงโย่ยงหยกในจังหวะถีบตัวขึ้นช้า ๆ ก่อนระเบิดฟอร์มด้วยการวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 200 บาท บวกไป 7 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.55 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่คาดหวังได้ถึง 220 บาท เพราะแพตเทิร์นของหุ้นเคลื่อนไหวไปมาอยู่ที่บริเวณดังกล่าวเป็นส่วนใหญ่ จังหวะนี้ถึงต้องใช้คอนเซ็ปต์ follow buy เพื่อตามกระแสให้ทันนะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ PTTEP ใช้ไม้เด็ดเรื่องปันผลเป็นตัวกันชนปุ๊บ ต่อจากนั้นงัดเรื่องกำไรมาเป็นตัวบิลต์อารมณ์ แรงซื้อก็ไหลมาเทมาไม่ขาดสาย ก่อนจะตบท้ายด้วยเรื่องค่า P/E 13 เท่า ก็ทำให้นักเล่นเข้ามาไล่ราคากันสนุกสนาน จนหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 123 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 1.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.84 พันล้านบาท กลายเป็นไฟต์บังคับที่หุ้นต้องวิ่งทะลุแนวต้าน 128 บาท

*ส่วนการดีดกลับของหุ้น IVL จนขึ้นมายืนอยู่ที่ระดับ 48 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.97 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของการเด้งขึ้นสั้น ๆ มากกว่าแรลลี่ยาว ๆ เพราะแวลูของธุรกิจในปี 2562 อาจไม่ปังเหมือนปี 2561 บวกกับหุ้นโดนทิ้งลงมาหนัก ๆ จนโมเมนตัมของหุ้นดูไม่ดีเอาเสียเลย จึงต้องลุ้นตัวโก่งว่า วันนี้จะยืนเหนือเส้น 25 วันได้แกร่งขนาดไหน ? และมีโอกาสวิ่งทะลุเส้น 75 วันแถว 49.50 บาทได้หรือเปล่า ?

*เหมือนกับในรายของโอสถพิษ OSP ทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง พร้อมกับขึ้นมายืนเหนือราคา IPO 25 บาทได้อีกครั้ง ก่อนจะปิดเกมไปที่ระดับ 26.50 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 501 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่อธิบายยากจริง ๆ เพราะเมื่อมองจากมุมของการเทรดบนค่า P/E 32 เท่า มันทำให้หุ้นตัวนี้มีความเสี่ยงในการลงทุนค่อนข้างสูงนะจะบอกให้

*บทเรียนดังกล่าวหาดูได้จากหุ้น MALEE เดี๋ยวดัน เดี๋ยวทุบ พร้อมกับมีข่าวลือแว่ว ๆ เกี่ยวกับการฟื้นตัว วันก่อนเลยมีแรงซื้อไหลเข้ามาเยอะแยะ จนหุ้นทะยานอย่างร้อนแรงแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน พอถึงวานนี้กลับทรุดฮวบเป็นมะเขือเผา ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 9.60 บาท ลบไป 1.10 บาท หรือลงไป 10.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 52 ล้านบาท สตอรี่ของหุ้นเลยออกไปในทางลากไปเชือด เดี๊ยนพูดได้คำเดียวว่า น่าผิดหวังจริง ๆ เจ้าค่ะ

*เม้าท์ถึงตรงนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” คงต้องหันไปมองหุ้น JMART เพื่อส่งสัญญาณเตือนภัยไปยังแมงเม่าหัวอ่อนอย่างรวดเร็ว เพราะการขึ้นมายืนปิดที่ 6.40 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 9.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 62 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้าเอาแต่มุดหัวลงลูกเดียว เดี๊ยนมองจากมุมไหน ด้านไหน ก็เป็นได้แค่ทางผ่านของการเล่นเก็งกำไรสั้น ๆ ก็ของมันเห็นกันทนโท่ว่า ยอดขายมือถือค่ายต่าง ๆ ไม่เปรี้ยงปร้าง มันมีประโยชน์ที่จะเข้าเล่นจริงเหรอจ๊ะ

*ส่วนที่ปังของจริงคงต้องมองไปยัง CHOW หลังได้ออเดอร์ผลิตเหล็กแทงยาว 4 แสนตันต่อปี บรรดาผู้เล่นเลยจินตนาการถึงผลประกอบการแบบโลกสวยสุด ๆ พร้อมกับกระโจนไล่ราคาหุ้นอย่างเมามัน หุ้นถึงขึ้นมายืนปิดที่ 2.98 บาท บวกไป 0.68 บาท หรือขึ้นไป 29.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 140 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่นักเล่นน่าตามกระแสไปดูอีกสักวัน เพราะหุ้นยังผงกหัวขึ้นอย่างต่อเนื่องพะยะค่ะ