ไปต่อหรือพักฐาน
เชื่อว่านักลงทุนหลาย ๆ คนก็เฝ้าระวังอยู่ว่า ตลาดหุ้นจะพักฐานหรือไม่และเมื่อไหร่
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
เชื่อว่านักลงทุนหลาย ๆ คนก็เฝ้าระวังอยู่ว่า ตลาดหุ้นจะพักฐานหรือไม่และเมื่อไหร่
หากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ 13-14 วัน
ดัชนีขึ้นมาแล้ว 74-75 จุด หรือบวกขึ้นมาราว ๆ 5%
ว่ากันว่า ตลาดหุ้นก็น่าจะพักฐานลงไปบ้าง แต่ “จิตวิทยา” ยังออกมาเป็น “บวก” นั่นแหละ และจิตวิทยานี้เองที่เป็นแรงส่งให้ตลาดหุ้นไทยยังไปต่อได้
ปัจจัยที่นำไปสู่จิตวิทยาเชิงบวกที่ว่านี้
เช่น การเลือกตั้งที่กำหนดวันออกมาชัดเจน เทรดวอร์สหรัฐฯ-จีน ที่เริ่มหันหน้ามาเจรจากันมากขึ้น
และเฟดจะชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
บล.โนมูระ พัฒนสิน มองว่า ดัชนีหากผ่านแนวต้าน 1,663 จุด ถือว่ามีนัยสำคัญ
ทว่า อาจจะต้องใช้ “แรงดัน” พอสมควรเลยล่ะ
พลังที่ว่านี้ และตอนนี้น่าจะมาจากราคาน้ำมันดิบ
ถ้าหากราคาน้ำมันดิบยังทรง ๆ หรือไซด์เวย์เป็นขาขึ้นต่อไปแบบนี้
เข้าใจว่า ก็น่าจะช่วยดันราคาหุ้นกลุ่มน้ำมันที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดใหญ่ นำโดย “พี่ปอ” PTT และ “พี่เทพ” PTTEP ทะยานขึ้นไปได้อีก
PTT มีแนวต้านเชิงจิตวิทยาบริเวณ 50.00 บาท พอดี
ส่วน PTTEP หลังจากราคาลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ก็ได้เริ่มฟื้นตัวมา 3-4 วันแล้ว และมีโอกาสจะกลับไปยืนเหนือ 130 บาท อีกครั้งตามการคาดหมายของนักวิเคราะห์
หุ้นกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ทั้ง TOP และ ESSO ยังขยับขึ้นมาตามราคาน้ำมันดิบ
มีคำถามว่าแล้วถ้าน้ำมันกลับหัวลงมาล่ะ
แน่นอนว่า มีโอกาสที่ดัชนีจะลงอย่างแน่นอน เว้นแต่จะย้ายไปดันหุ้นในกลุ่มมาร์เก็ตแคปใหญ่ ๆ ต่อไป
หรือลงไปเล่นหุ้นในกลุ่ม SET100 ที่ราคายังต่ำกว่าพื้นฐาน พี/อี ไม่เกิน 15 เท่า
มีคำถามจากนักลงทุนเกี่ยวกับหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์
หุ้นกลุ่มแบงก์ก็ถูกจับตาเช่นเดียวกันว่าหากหุ้นน้ำมันไม่มีเรื่องน้ำมันดิบราคาขึ้นก็อาจจะย้ายกลุ่มมาเก็งกำไรหุ้นแบงก์กัน
อย่างตอนนี้มีการเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ หลังจากปรับขึ้นแต่ดอกเบี้ยเงินฝาก
เช่น SCB และ KBANK
เรื่องนี้ก็ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ว่าเขาจะปรับขึ้นกันเมื่อไหร่
แต่นักวิเคราะห์ก็มองกันว่า แบงก์ไม่น่าจะยืดเวลาการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ไปนานนัก หรือช้าสุดก็ไม่ควรเกินปลายไตรมาส 1/2562
หุ้นกลุ่มแบงก์เลยยังอยู่ในอาการสามวันดีสี่วันไข้
ยังมีมุมมองน่าสนใจจาก บล.กสิกรไทย เกี่ยวกับหุ้นจะไปต่อ หรือพักฐานหรือไม่
ในเชิงทางเทคนิคเขาว่ามาแบบนี้ครับ
MACD มีแรงยกตัวในแดนบวก สะท้อนภาพแนวโน้มหลักที่ดี มีโอกาสแกว่งตัวเหนือแนวโน้มกลุ่มเส้นเฉลี่ยขึ้นได้ต่อ
แต่ก็มีสิทธิเกิดความผันผวนระยะสั้นขึ้นได้
ดังนั้น หลังแบ่งขายทำกำไรแถว 1,650 คงถือครองต้นทุน 1,550 และ 1,570 ที่เหลืออยู่
มองแนวต้านแถว 1,680 และ 1,700 ซึ่งน่าจะ “ผ่านด่านแรกได้ยาก”
ขณะที่ หากย่อตัวลงมา น่าใช้เป็นจังหวะเข้าสะสม พร้อมกับให้แนวรับยกตัวขึ้นมาแถว 1,625 และ 1,600 จุด
ที่ผ่านมาเวลาตลาดหุ้นพักฐานไม่มีใครรู้หรอกว่าจะลงตอนไหน
นักวิเคราะห์เองก็จะดูสัญญาณทางเทคนิคไปเรื่อย ๆ ว่าเข้าเขตซื้อมากเกินไปหรือยัง หรือว่าหุ้นหลาย ๆ ตัวราคาวิ่งขึ้นมามากแล้วและใกล้กับราคาพื้นฐาน
แต่อย่างว่าล่ะบางครั้งนักลงทุนกำลังสนุกสนานเมามันกับการเทรดหุ้นในช่วงขาขึ้น
อะไรก็หยุดไม่ได้
จนกว่าจะมี “ปัจจัยลบ” แรง ๆ เข้ามากระแทก
เช่นดาวโจนส์พักฐานหลังดัชนีวิ่งขึ้นมาแรงเช่นกัน หรือหลังจบการเลือกตั้งไปแล้วไม่มีข่าวที่ดีตามคาดหวัง หรือผลประกอบการ บจ.ออกมาไม่ดีนัก
ทีนี้แหละ หลายคนพร้อมขายทันทีเพราะตลาดหุ้นที่พร้อมจะลงอยู่แล้ว