สังคมข่าวหุ้น

**สงครามการค้ากดดันตลาด


เกียรติก้อง ว่องไวยากร

**สงครามการค้ากดดันตลาด

**ตลาดหุ้นไทยไม่แพนิก แคนดิเดตนายกฯ คนใหม่ เกจิมองใครมาก็ได้ แต่เลือกตั้งต้องเกิด เป็นแค่สีสันทางการเมือง จับตาปัจจัยสงครามการค้าสหรัฐกับจีนมากกว่า ล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เตรียมลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารสัปดาห์นี้  ห้ามไม่ให้ใช้อุปกรณ์โทรคมนาคมจีนในโครงการพัฒนาเครือข่ายไร้สาย 5G ของสหรัฐ  นอกจากนี้ยังไม่ยอมคุยกับนายกฯ จีน ก่อนเส้นตายวันที่ 1 มีนาคมนี้ ที่ทั้งสองฝ่ายต้องบรรลุข้อตกลงทางการค้า รวมทั้งการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ซึ่งยังไร้ข้อสรุป  นักลงทุนเลยต้องไปตั้งหลักรอดูความชัดเจน ลดความเสี่ยงไปก่อน แนวรับ  1,640 จุด แนวต้าน  1,680 จุด

**จับตาบิ๊กดีลสัปดาห์นี้ ระหว่าง ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารทหารไทย  หรือ TMB และ ประพันธ์ อนุพงษ์องอาจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต ทั้งสองแบงก์จะเสนอแผนควบรวมกิจการเข้าบอร์ด ก่อนแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ งานนี้น้องแมงเม่า นักวิเคราะห์ อยากรู้ราคาที่แลกหุ้นกันจริง ๆ เพราะจะได้มาคำนวณกันว่าจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ TMB ดูจะได้เปรียบเล็กน้อย เพราะราคาแลกหุ้นดีกว่าธนชาต แต่ถ้ามองระยะยาวก็ถือว่าวินวินทั้งคู่ ผู้ถือหุ้นจะได้รับประโยชน์จากการรวมครั้งนี้ ราคา 3.8 บาท ของทีเอ็มบี เป็นแค่เป้าหมายไว้พุ่งชน ส่วนแบงก์เล็ก ๆ รายอื่นที่เหลือ ทั้ง TISCO, KKP, CIMBT คงต้องดูดีลนี้เป็นตัวอย่าง

**หุ้น JAS ของพิชญ์ โพธารามิก ช่างร้อนแรง ทั้งวอลุ่ม และราคา หลังจากมีข่าวดีว่าจะจ่ายปันผลอีกก้อนใหญ่ จากกำไรสะสมที่มีอยู่ค่อนข้างมาก บรรดาน้องแมงเม่านักเก็งกำไรก็แห่บินเข้ามารุมทึ้ง ส่วนแผนขายทรัพย์สินให้กับ JASIF ก็หนีไม่พ้นเช่นกัน ราคาตอนนี้ก็ถือว่ายังไม่แพงเมื่อเทียบกับในอดีต มีลุ้นไปทดสอบแนวต้าน 6.0 บาทไม่ยาก

**DTAC ที่บริหารงานโดย “อเล็กซานดรา ไรช์” น่าสอย จุดเด่นแนวโน้มผลประกอบการจากการเปลี่ยนไปให้บริการบนระบบใบอนุญาต ซึ่งมีโครงสร้างต้นทุนต่ำกว่าเดิมที่ให้บริการด้วยคลื่นสัมปทาน รวมทั้งการประกาศขยายตัวสู่ธุรกิจผู้ให้บริการดิจิทัล แพลตฟอร์มยานยนต์เคลื่อนที่ด้วยพลังงานไฟฟ้า ปิดจุดด้อยกว่าคู่แข่ง ราคาปัจจุบันยังถูกกว่ากลุ่ม ทั้ง ADVANC และ TRUE ของเสี่ย ศุภชัย เจียรวนนท์ เป้าหมาย 57 บาท

**BDMS ของหมอเสริฐ เป้าสูง  26.50 บาท  อัพไซด์ยังเหลืออีกเยอะ นักวิเคราะห์มองเชิงบวกมากขึ้น หลังผู้บริหารคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้และอัตรากำไรที่สูงกว่าคาด สามารถช่วงชิงส่วนแบ่งรายได้ตลาดทั่วทั้งกลุ่มได้สูงขึ้น จากความสามารถในการรักษาโรคที่มีความซับซ้อนมากกว่าผ่านศูนย์ความเป็นเลิศ  ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีทั่วประเทศ ราคาตอนนี้ยังไม่แพงทยอยสะสมได้

**KTC ในมือของระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบัตรกรุงไทย ขยับขึ้นต่อเนื่อง กราฟเริ่มสวย มีโอกาสไปทดสอบ 32 บาทในไม่ช้า  เก็งกำไรรับธุรกิจใหม่นาโนไฟแนนซ์ และพิโกไฟแนนซ์ที่คาดว่าจะได้ไฟเขียวแบงก์ชาติเร็ว ๆ นี้ ดอกเบี้ยในตลาดยังเป็นใจไม่เพิ่มขณะนี้ ทำให้ต้นทุนไม่เปลี่ยนแปลง โอกาสทำกำไรเพิ่มจึงสูงขึ้น

**MTC เฮียชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล ใกล้ประกาศงบ คาดกันว่า Q4  ยังเป็นหุ้นเด่นที่มีอัตราการเติบโตเหนือคู่แข่ง ทะลุ  1,057 ล้านบาท เป็นครั้งแรก ไร้กังวลประเด็น IFRS 9 รวมทั้งความเป็นผู้นำในธุรกิจ แถมยังขยันเดินสายไปโรดโชว์ต่างประเทศ ล่าสุดเตรียมไปไต้หวันพบนักลงทุนเลือดมังกรและสถาบันต่างประเทศชักชวนให้เข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น

**กลุ่ม BTS ของคีรี กาญจนพาสน์ ยังพอมีลุ้นไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) หลังจากการรถไฟเจรจากับกลุ่มซีพีไม่คืบหน้า นัดครั้งต่อไปวันที่ 12 ก.พ.นี้  ส่วนกลุ่มกิจการร่วมค้า BSR ที่ประกอบด้วย บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTS) บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) และ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH)  ยังเป็นคู่เจรจาอันดับสอง เพราะในทีโออาร์ ไม่ได้กำหนดว่ารายใดเสนอราคาเกินกว่า ครม.อนุมัติจะตกรอบ เพียงแต่ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดซึ่งก็คือ กลุ่มบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร เป็นคู่เจรจาลำดับแรก ถ้าไม่จบมีสิทธิโดนบีทีเอสเสียบแน่นอน

**SC  ขยับขึ้นรับคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 4 ที่ 708 ล้านบาท โต 81%  ยอดโอนที่ 5 พันล้านบาท โต 44% จากไตรมาสก่อน หุ้นปัจจุบันที่น่าสนใจ  พี/อีเพียง 6 เท่า เทียบกับกลุ่มที่ 8 เท่า ไม่สอดคล้องกับการเติบโตของกำไรปีนี้ที่เด่นกว่ากลุ่ม ให้ผลตอบแทนปันผลสูงถึง 6%

Back to top button