เงิน กับ โมเดลธุรกิจ

พลวัตปี 2019  : วิษณุ โชลิตกุล 

ท่ามกลางกระแสวุ่นวายของปัจจัยภายนอกที่รุมเร้าตลาด มีตัวอย่างที่ยืนยันว่า หุ้นที่ราคาต่ำกว่าพื้นฐานอย่างมาก และราคากำลังรอเวลาทะยานขึ้นในอีกไม่เกิน 2 เดือนข้างหน้ายังมีให้เห็นได้ สำคัญที่ว่าจะตาแหลมกันแค่ไหน

หุ้นพลังงานที่โดดเด่นรายนี้ ราคาต่ำติดพื้นที่ระดับใต้ 0.70 บาท แต่นักวิเคราะห์บางสำนัก ประเมินว่า ราคาเป้าหมายปีนี้ ไม่ควรต่ำกว่า 1.30 บาท ถือว่าอัพไซด์โดดเด่นอย่างมาก

หากมองข้ามอคติของนักวิเคราะห์แล้วหักกลบด้วยปัจจัยบวกและลบสารพัด จะพบว่า บทวิเคราะห์ดังกล่าวดูไม่เกินเลยจนเข้าข่าย เหนือจริงแต่อย่างใด

เหตุผลสนับสนุนนักวิเคราะห์อยู่ที่ว่า เงินทุนที่แข็งแกร่ง และโมเดลธุรกิจที่รุกเงียบต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ และ ความมุ่งมั่นของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร

บริษัทนี้ กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่รู้จักกันในนาม “ลูกสาวเสี่ยใหญ่” เริ่มต้นธุรกิจจากกิจการเก่าในตลาดหุ้นที่ถูก “เข้าประตูหลัง” แปลงกิจการที่เคยขาดทุนมาเป็นธุรกิจพลังงานทางเลือก ในช่วงที่หลายรายมองว่าอนาคตเริ่มมีกำไรถดถอยลงเพราะรัฐบาลอุดหนุนต่ำลงต่อเนื่อง

การรุกธุรกิจที่พ้นจุดทำกำไรสูงสุด ด้วยกลยุทธ์ “ใช้หนี้สร้างสินทรัพย์” ถือเป็นความสุ่มเสี่ยงที่น่าจับตาว่าจะก้าวข้ามได้อย่างไร เพื่อทำให้เกิด “เงินต่อเงิน” บรรลุเป้าหมาย

แล้วหลังจากเปิดเกมรุกเข้ามาบริหารเต็มตัว บริษัทนี้ก็เดินหน้าทำธุรกรรมซื้อกิจการเพื่อโตทางลัดตามงานถนัดที่ “ถนัดซื้อ” มากกว่า “ถนัดสร้าง” ในฐานะ “ผู้มาทีหลัง” ทุ่มเงินแบบฉลาดซื้อเพื่อสร้างรายได้ทันทีในโครงการเดิมที่มีปัญหาด้านไฟฟ้าชีวมวล ท่ามกลางคำถามคนขี้สงสัยว่า ในอนาคตอาจจะมีการควบรวมธุรกิจพลังงานกับกลุ่มโรงงานน้ำตาล เพื่อต่อยอดธุรกิจพลังงานในส่วนโรงไฟฟ้าชีวภาพ โดยเป็นการนำวัตถุดิบจากโรงน้ำตาลและโรงงานเอทานอลมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าพลังงานชีวมวล

บังเอิญการคาดเดาผิด เพราะบริษัทนี้เลือกเดินอีกทางหนึ่งด้วยการเข้าลงทุนในบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านวิศวกรรมพลังงานและจำหน่ายเชื้อเพลิงประเภทก๊าซปิโตรเลียมเหลว รวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เช่น การก่อสร้างสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ งานซ่อมบำรุงสถานีบริการก๊าซธรรมชาติ งานซ่อมบำรุงรถขนส่งก๊าซธรรมชาติ และงานติดตั้งระบบเชื้อเพลิงสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม

แม้การซื้อกิจการแบบ “ปลาเล็กกินปลาใหญ่” จะเป็นเหตุให้จำต้องเพิ่มทุนขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจงกับพันธมิตรธุรกิจที่คุ้นเคยกัน แต่ก็ไม่ใช่การเล่นแร่แปรธาตุเพื่อหากำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นประเภท “ตีหัวเข้าบ้าน” ชัดเจน

เป้าหมายการเพิ่มทุนที่ระบุว่า เพื่อรองรับการเข้าลงทุนในบิ๊กแก๊ส ตลอดจนเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมระยะสั้นแก่สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินกิจการของบริษัทต่อไป แม้จะขายหุ้นได้ราคาสูง ทำให้บริษัทมีส่วนเหลื่อมมูลค่าหุ้น ถือเป็นการ “ฉลาดขาย” ที่น่าสนใจ

ผลประกอบการที่โดดเด่นในรูปกำไรสุทธิ (แต่ยังไม่โดดเด่นในแง่กำไรสุทธิต่อหุ้น เพราะผลการเพิ่มทุนมหึมา) สะท้อนถึงการรุกคืบที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

ล่าสุด หลายเดือนก่อน บริษัทนี้ ตัดสินใจเคลื่อนตัวเข้าสู่ธุรกิจใหม่ โครงการขยายระบบการส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มูลค่าเกือบ 1 หมื่นล้านบาท ผ่านทางบริษัทเครือข่ายทางอ้อม ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนอัตรากำไรสุทธิเพิ่มกว่าปัจจุบันอย่างมาก

การลงทุนนี้ยังไม่เกิดผลลัพธ์ทันที แต่ชี้ว่าอนาคตจากนี้ไป จะสดใสกว่าเดิมมากมาย แต่การที่นักวิเคราะห์ประเมินว่ากำไรสุทธิในไตรมาสล่าสุดที่ยังไม่ประกาศ จะทำสุดสูงสุดใหม่รายไตรมาส เพิ่มขึ้น 164% จากปีก่อน จากโรงไฟฟ้าจ่ายไฟฟ้าได้คงที่ และรายได้จากบริษัทใหม่ที่ซื้อกิจการเข้ามาใหม่ แม้ว่าจะไม่มากนัก แต่ก็ทำให้มูลค่าทางบัญชีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงประมาณการรายได้รวมทำจุดสูงสุดใหม่เป็นไตรมาสที่ 4

ในทางตรงกันข้าม การปรับลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารให้กลับมาอยู่ในระดับปกติและไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปในทิศทางเดียวกับยอดขายที่เพิ่มขึ้น แต่ในสัดส่วนที่น้อยกว่า ก็สะท้อนวินัยทางการเงินที่เอาจริงเอาจังว่า ใช้เงินเป็น

ล่าสุดการตัดแบ่งขายกิจการในเครือข่ายในราคาที่สูงกว่าต้นทุน เพื่อเอาเงินสดมาเป็นทุนหมุนเวียนสำหรับการลงทุนใหญ่ที่จะมีขึ้นกลางปีนี้ ก็เป็นการฉลาดขายที่น่าสนใจเพราะเป็นการยิงกระสุนนัดเดียวได้นกหลายตัว โดยเฉพาะกำไรทางอ้อมจากกรณีที่บริษัทคาดจะได้รับจากการจำหน่ายหุ้น จะส่งผลให้บริษัทมีฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น

การที่ราคาหุ้นบริษัทวิ่งสวนขึ้นมาชนิดที่ไม่ใส่ใจกับราคาน้ำมันที่วิ่งขึ้น ๆ ลง ๆ ในหลายเดือนที่ผ่านมา จึงเป็นผลพวงของฝีมือและความเชื่อมั่นต่อผู้บริหารของนักลงทุนชัดเจน

อย่าให้บอกเลยว่าหุ้นที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าดีมากมายนี้ชื่อเรียงเสียงไรเลย

หาได้เองไม่ยาก ถ้าอยากจะหา