เป๋ไม่มาก ?
*หากดูจากอาการเหวี่ยงตัวไปมาของดัชนีในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า อยู่ในทิศทางที่ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่ ? เพราะดัชนีไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านสำคัญได้เหมือนกับที่หลายคนคาดหวัง จึงมีแรงเทขายเพื่อลดความเสี่ยงออกมาตลอดเวลา ดัชนีเลยมีลักษณะโค้งตัวลงอีกรอบ ผนวกกับข่าวสารที่ออกมาในช่วงหลัง ๆ ล้วนมีแต่เรื่องราวที่ทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกสับสน เลยทำให้สถานการณ์อึมครึมขึ้นไปอีกนะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*หากดูจากอาการเหวี่ยงตัวไปมาของดัชนีในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า อยู่ในทิศทางที่ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่ ? เพราะดัชนีไม่สามารถขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านสำคัญได้เหมือนกับที่หลายคนคาดหวัง จึงมีแรงเทขายเพื่อลดความเสี่ยงออกมาตลอดเวลา ดัชนีเลยมีลักษณะโค้งตัวลงอีกรอบ ผนวกกับข่าวสารที่ออกมาในช่วงหลัง ๆ ล้วนมีแต่เรื่องราวที่ทำให้ผู้คนเกิดความรู้สึกสับสน เลยทำให้สถานการณ์อึมครึมขึ้นไปอีกนะคะ
*ถึงกระนั้น “โมนิก้า” กลับไม่มีอาการตื่นตระหนกเหมือนเมื่อก่อน เพราะเมื่อมองลงไปดี ๆ จะเห็นว่าดัชนียังประคองตัวยืนเหนือแนวรับสำคัญบริเวณ 1,625 จุดได้อยู่ รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไม่ได้แย่จนเกินไป จึงเชื่อว่าสถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยจะดีขึ้นในไม่ช้า ! และเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้ามาเล่นรอบเหมือนเที่ยวก่อน ๆ ไงล่ะจ๊ะ
*วันนี้ถึงต้องถามนักลงทุนว่า ดัชนีทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,638 จุด ลบไป 13.68 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.06 หมื่นล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่แย่หนักเกินจะเยียวยาจริงไหม ? เพราะคำตอบของเรื่องนี้จะเป็นตัวชี้ช่องการลงทุนให้กับผู้เล่นเองว่า ควรทำตัวแบบไหน ? รวมทั้งการอ่อนตัวของหุ้นบลูชิพชั้นนำในเที่ยวนี้ ล้วนเกิดจากความวิตกกังวลเรื่องการเมืองในประเทศ หรืออิทธิพลของตลาดหุ้นต่างประเทศกันแน่เจ้าค่ะ
*ผิดไปจากความคาดหวังค่อนข้างมาก “โมนิก้า” คงพุ่งเป้าไปยังหุ้น 3 ใบเถา INTUCH ADVANC และ THCOM ถูกถล่มราบเป็นหน้ากลอง ทั้งที่มีข่าวดีคอยหนุนหลังให้แบบนี้ เดี๊ยนถือเป็นเรื่องที่ช็อกซีเนม่าพอสมควรสำหรับคนที่เพิ่งเข้าไปซื้อเมื่อก่อนหน้านี้ เพราะราคาหุ้นไหลอย่างกับท่อประปาแตก ตัวแรกโดนสาดลงมาอยู่ที่ 54.25 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 4.80% รายที่สองโดนเทจนลงมาอยู่ที่ 181 บาท ลบไป 7บาท หรือลงไป 3.70% ขณะที่รายสามโดนทิ้งลงมาปิดที่ 7.80 บาท ลบไป 0.85 บาท หรือลงไป 9.80% มันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้เกิดอาการเซ็งเป็ดกันถ้วนหน้านะคะ
*ส่วนรายที่โดนถล่มหนักแบบไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง จนหาทางกลับบ้านไม่เจอสักทีนั้น “โมนิก้า” ขอชี้เป้าไปยังหุ้นขายแก๊ส SGP เพื่อทำให้นักเล่นได้รู้ถึงฝีมืออันร้ายกาจของเจ้ามือที่คุมเกมหุ้นในเวลานี้ น่าจะเป็นพวกซาดิสม์เข้าขั้นเลยก็ว่าได้ เพราะหุ้นกำลังเดินทรงมาดี ๆ แบบช้า ๆ พ่อทูนหัวกลับกระหน่ำขายแบบไม่ไว้หน้า จนหุ้นไหลลงมายืนปิดที่ 10.20 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 4.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 190 ล้านบาทแบบนี้..หมดสภาพของจริงจ้า !
*สำหรับรายที่อยู่ในระหว่างการเซตตัวรอบใหม่อย่าง BDMS น่าจะเป็นช็อตที่ทำให้นักเล่นอึดอัดใจอย่างหนัก เพราะหุ้นเดินมาในทรง “ขึ้นวัน ลงวัน” โดยภาพใหญ่ของหุ้นยังอยู่ในวังวนไซด์เวย์ดาวน์ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นซื้อหุ้นเมื่ออ่อนตัวมากกว่าไล่ราคา จึงต้องเรียนกับแฟนคลับตามตรงว่า หุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 23.40 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.03 พันล้านบาท เหมาะต่อการช้อนซื้อหรือยัง ?
*ส่วนคนที่ชอบลุยแบบสุดซอย “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันมามอง COM7 หลังมีแรงซื้อเข้ามาจำนวนมากตลอดทั้งวัน จนหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 15.10 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 196 ล้านบาท น่าจะเป็นช็อตที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนที่เข้าเล่นเที่ยวนี้มาด้วยใจล้วน ๆ ไม่ได้สนใจเรื่องคำว่า โอเวอร์แวลูมีความหมายขนาดไหนนะจะบอกให้
*เหมือนกับในรายของ MACO เด้งขึ้นมาปิดที่ 1.53 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 180 ล้านบาท น่าจะเป็นช็อตของการเล่นสั้น ๆ ไม่มีอะไรต้องคิดมากมาย เพราะในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาก็เล่นกันบนกรอบราคา 1.45-1.62 บาททั้งหมด 3 รอบด้วยกัน “โมนิก้า” ถึงมองการเคาะขวารัว ๆ เที่ยวนี้ คงไม่ต่างอะไรไปจากรอบก่อนหน้านี้หรอก..เชื่อหัวน้องโมเถอะค่ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องเคาะขวาขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปยังน้องดูดี DOD เพื่อทำให้ขาลุยได้รู้ว่า เที่ยวนี้น่าจะเคาะกันระเบิดระเบ้อ หลังจากวานนี้หุ้นโดนกดลงไปถึง 12.40 บาท แต่หลังจากนั้นดันหุ้นขึ้นไปถึง 13.20 บาท ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 12.80 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 123 ล้านบาท ก็เป็นราคาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ให้ไว้แถว 16 บาทพะยะค่ะ
*ส่วนรายที่เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ อย่างเช่น ETE ยังคงสร้างปรากฏการณ์ใหม่สดเสมอให้เห็นเป็นระยะ “โมนิก้า” ต้องคิดว่ามีอะไรดี ๆ เป็นแบ็กอัพการขึ้นเที่ยวนี้แน่ ๆ วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 1.45 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 10.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 87 ล้านบาท งานนี้ถือเป็นช็อตที่ต้องตามดูกันไปเรื่อย ๆ หรือจะกระโดดเข้าไปร่วมขบวนดันหุ้นเที่ยวนี้ก็ได้เหมือนกัน เพราะในช่วงหุ้นใหญ่พักตัว หุ้นเล็กมักมาแรงเจ้าค่ะ