1,630 จุดรับของ

*แรงเทขายที่ออกมาเมื่อวันศุกร์เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้นักลงทุนได้เรียนรู้ว่า แรงซื้อในตลาดยังไม่มากพอเหมือนที่ควรจะเป็น รวมทั้งนักเล่นกลุ่มสถาบันยังเน้นการทำรอบเป็นหลัก จึงทำให้ทิศทางการเคลื่อนตัวของดัชนีออกไปในรูปแบบ w-shape ซึ่งมีกรอบการเคลื่อนตัวด้านบนอยู่ที่บริเวณ 1,660 จุด และมีกรอบการเคลื่อนตัวด้านล่างอยู่ที่ 1,630 จุดไงล่ะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*แรงเทขายที่ออกมาเมื่อวันศุกร์เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้นักลงทุนได้เรียนรู้ว่า แรงซื้อในตลาดยังไม่มากพอเหมือนที่ควรจะเป็น รวมทั้งนักเล่นกลุ่มสถาบันยังเน้นการทำรอบเป็นหลัก จึงทำให้ทิศทางการเคลื่อนตัวของดัชนีออกไปในรูปแบบ w-shape ซึ่งมีกรอบการเคลื่อนตัวด้านบนอยู่ที่บริเวณ 1,660 จุด และมีกรอบการเคลื่อนตัวด้านล่างอยู่ที่ 1,630 จุดไงล่ะคะ

*ประเด็นนี้เป็นจุดที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้ได้ในทันทีว่า ใกล้ถึงเวลารับของรอบใหม่อย่างแน่นอน เพราะการทรุดตัวลงมายืนปิดที่ 1,636.94 บาท ลบไป 15.70 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.78 หมื่นล้านบาท กลายเป็นการเปิดช่องให้บรรดานักเล่นเทคนิคเริ่มมองหาจุดซื้อหุ้นแต่ละตัวอย่างขมีขมัน หลังเข้าใจบริบทของการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ไม่มีอะไรต้องคิดทบทวนหลายตลบ ภาพของการลงทุนถึงไม่น่ากลัวจนถึงขั้นขนหัวลุกนะซี

*ต่อข้อสงสัยทำไมถึงต้องขายหนักแบบนี้ ? เดี๊ยนมองเป็นเรื่องของไทมิ่งมากกว่าประเด็นอื่น ๆ แถมเมื่อมองภาพการเคลื่อนตัวของดัชนีย้อนกลับไปแบบหยาบ ๆ ย่อมเห็นรูปแบบของการ “ขายบน ซื้อล่าง” เกิดขึ้นเป็นประจำเมื่อมีการขยับขึ้นไปสร้างฐานใหม่ “โมนิก้า” ถึงพยายามให้นักเล่นมองโมเมนตัมของการลงทุนเที่ยวนี้ให้ออก เพื่อจะได้กำหนดจุดซื้อขายได้ชัดเจนพะยะค่ะ

*เช่นเดียวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับหุ้น EA โดนถล่มหนักเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 4 เดือนครึ่ง (2 ครั้งที่เหลือค่อย ๆ อ่อนตัวลง) “โมนิก้า” มองเป็นเรื่อง sell on fact หลังจากมีการแถลงแผนงานเสร็จ ผนวกกับมีการรับรู้ตัวเลขกำไรที่จะเกิดขึ้นในไตรมาส 1 ปี 2562 แบบทะลุปรุโปร่ง นักเล่นกลุ่มสถาบันเลยทิ้งหุ้นเพื่อลงไปรอรับข้างล่างอีกรอบ ราคาหุ้นถึงทรุดตัวลงมาปิดที่ 47.25 บาท ลบไป 3.50 บาท หรือลงไป 6.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.28 พันล้านบาท ซึ่งเป็นวอลุ่มโป่งพองที่ผิดปกติจากเดิมไปมากนะจ๊ะ

*เหมือนกับในรายของ CBG ทำท่าจะขึ้นไปแบบสวย ๆ เพราะมีแรงซื้อไหลเข้ามาไม่ขาดสาย แต่สุดท้ายโดนกระหน่ำขายจนราคาหุ้นลงมากองอยู่ที่ 41.50 บาท ลบไป 2 บาท หรือลงไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 286 ล้านบาท “โมนิก้า” คงมองเป็นเรื่องของการขายทำกำไรธรรมดา ๆ เหมือนกัน เพราะหุ้นกำลังเปลี่ยนฐานแนวรับใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม เลยต้องพิสูจน์แรงรับมีมากขนาดไหนเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่เห็นชัด ๆ ไม่มีแรงรับเข้ามาเลยจริง ๆ คงต้องยกให้กับ KCE หลังมีแรงเทขายออกมาเพิ่มเติม จนราคาหุ้นลงมานอนอยู่ที่ระดับ 26.50 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 8.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 946 ล้านบาท เท่ากับเป็นการซ้ำเติมให้หุ้นลงไปปักหลักแถว 25 บาทอีกรอบ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับไปรอดูราคาหุ้นตรงนั้นเลยดีกว่า เพราะจุดที่มีแรงรับเข้ามาเป็นประจำ (3 ครั้งที่ลง ก็เด้งกลับแถวนี้) นะคะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ KTC อย่างสิ้นเชิง เพราะรายนี้ยังพยายามเกาะเส้นแนวรับ 10 วัน กับเส้น 25 วัน ตลอดเวลา ทิศทางของหุ้นถึงดูไม่แย่มากเหมือนที่ใครบางคนกังวล หรือหุ้นโค้งตัวลงมาจริง ๆ ก็ยังมีจุดรับของอยู่บริเวณนี้แหละ! เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นมองเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นโอกาสของการเล่นสั้น ๆ หลังหุ้นลงมายืนปิดที่ 30.25 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 2.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 431 ล้านบาทนะคะ

*เหมือนกับในรายของ WHA เริ่มโดนขายออกมาเป็นระยะ จนราคาหุ้นโค้งตัวลงอีกรอบ “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นจังหวะของการ “เข้าเล่น” มากกว่าการ “ถอยฉาก” เพราะที่ผ่านมาหุ้นเกาะบนเส้นแนวรับ 75 วันมาตลอด (เที่ยวนี้อยู่แถว 4.20 บาท) บวกกับหลายครั้งไม่เคยหลุดเส้น 200 วัน (เที่ยวนี้อยู่แถว 4.10 บาท) มาเป็นเวลา 5 เดือนครึ่ง  เดี๊ยนถึงรู้สึกเฉย ๆ เมื่อเห็นหุ้นลงมาปิดที่ 4.20 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 1.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 258 ล้านบาทไงล่ะคะ

*หุ้นบลูชิพอีกรายที่ย่อตัวลงมาให้แมงเม่าเก็บหุ้นแบบสบายใจเฉิบ “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปที่หุ้น GULF เพื่อทำให้นักเล่นได้เห็นสตอรี่การขยับตัวในช่วงที่ผ่านมาเป็นลักษณะ “ขึ้นแล้วพัก” บวกกับพรายกระซิบเม้าท์ให้ฟังแทบทุกวันว่า ปีนี้หุ้นขึ้นแบบสบาย ๆ เพราะมีกำไรเป็นตัวแบ็กอัพ เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 88 บาท ลบไป 0.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 440 ล้านบาท มันเป็นช็อตของการทำตัวเป็นชาวสวนเจ้าค่ะ

*คล้ายกับกรณีของ ERW เล่นกันแบบเนิบ ๆ ไม่มีประเด็นต้องเม้าท์ถึงมากนัก เพราะไซเคิลของหุ้นเป็น W-Shape เป็นเวลานานถึง 8 เดือนครึ่ง แถมมีกรอบวิ่ง 6-8 บาทอย่างชัดเจน “โมนิก้า” ถึงมองการอ่อนตัวลงมายืนเหนือเส้น 200 วัน ที่บริเวณ 7.20 บาท น่าจะเป็นโอกาสของการทยอยเก็บของ หลังหุ้นลงมายืนปิดที่ 7.35 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 3.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 83 ล้านบาทแล้วนะซี

Back to top button