ลูกชายชั้นเทพ ลูกค้าชั้นดี-ลูกเขยชั้นยอด

จับตา!! โบรกเกอร์ฝรั่งชื่อดัง “Credit Suisse” อาจเข้าข่ายกระทำความผิดฐานรับของโจร...


สำนักข่าวรัชดา

จับตา!! โบรกเกอร์ฝรั่งชื่อดัง “Credit Suisse” อาจเข้าข่ายกระทำความผิดฐานรับของโจร…

ถือเป็นประเด็นชวนส่ายหัวที่เรียกเสียงฮือฮาขึ้นมาได้โดยตลอด สำหรับการฟ้องร้องคดีระหว่างสมาชิกในบ้าน “ณรงค์เดช”

ล่าสุด มีการเปิดเผยหลักฐานชิ้นสำคัญที่เป็นตัวบ่งชี้ว่า นายณพ ณรงค์เดช ลูกชายคนกลางของบ้านตระกูลดังแห่งนี้ และ คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา ภรรยาพล.ต.อ.พจน์ ผู้ล่วงลับ และเป็นแม่ยายสุดที่รักของนายณพด้วย

อาจมีพฤติกรรมร่วมกันปลอมลายเซ็น ดร.เกษม ณรงค์เดช บิดาบังเกิดเกล้าของนายณพ ในเอกสารการโอนหุ้น WEH หรือที่อาจคุ้นหูกันในชื่อคาว ๆ ว่า “วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ”

โดยพ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผู้กำกับสน.ทองหล่อ ออกหนังสือประทับตรา ใช้กระดาษครุฑ ลงวันที่ 11 ก.พ. 2562 เรื่อง แจ้งผลการขอคัดผลการตรวจพิสูจน์ลายมือชื่อ เรียน นายเกษม ณรงค์เดช

มีเนื้อหาใจความระบุว่า ผลการตรวจพิสูจน์จากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ให้ความเห็นว่า ลายมือชื่อของดร.เกษม ใน “เอกสารปัญหา” กับตัวอย่างลายมือชื่อที่ได้เขียนต่อหน้าพนักงานสอบสวน และที่เคยเขียนไว้ตามเอกสารธุรกรรมอื่น ๆ

“ไม่ใช่ลายมือชื่อของบุคคลคนเดียวกัน!!!”

ขณะที่ผลการพิสูจน์ดังกล่าว จะถูกใช้เป็นเอกสารสำคัญในคดีอาญา ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวน…นี่จึงเป็นที่มาว่า หากมีการแจกรางวัลลูกเขยยอดเยี่ยม นายณพก็น่าจะมีคุณสมบัติเหลือล้นสำหรับการเป็นแคนดิเดตชิงถ้วย อย่างแน่นอน

ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทองหล่อ ออกหมายเรียก นายณพ และ คุณหญิงกอแก้ว เพื่อให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งมีดร.เกษมเป็นผู้กล่าวหา

ฐานความผิด ปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม

โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ. 2477 มาตรา 52 กำหนดให้คู่ “ลูกเขย-แม่ยาย” เข้ารับทราบฯ ในวันที่ 29 ม.ค. 2562 พร้อมกับระบุไว้อย่างชัดเจนว่า หากไม่มา…จับแน่!

ด้าน นายสนธิพงศ์ มงคลสวัสดิ์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก สมาชิกครอบครัวณรงค์เดช อันประกอบด้วย ดร.เกษม นายกฤษณ์ และนายกรณ์ ได้ส่งจดหมายถึง บล.เครดิต สวิส (ประเทศไทย) จำกัด และ ธนาคาร เครดิต สวิส เอจี ก่อนหน้านั้น คือเมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา

โดยสามารถสรุปใจความได้ว่า การที่ “เครดิต สวิส” รับเป็นตัวแทนของนายณพนำหุ้น “วินด์ฯ” ไปเร่ขายให้กับบุคคลอื่นนั้น หุ้นดังกล่าวไม่ได้เป็นทรัพย์สินของนายณพ แต่ผู้เดียว หากแต่เป็นทรัพย์สินร่วมของครอบครัว

เช่นนั้น การเป็นตัวแทนออกขายหุ้นให้กับใครอื่น โดยไม่ได้รับความยินยอมจากสมาชิกครอบครัวทุกคน ถือเป็นการกระทำผิดต่อกฎหมาย และเป็นการละเมิดสิทธิของเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมรายอื่นด้วย

ทั้งนี้ จึงขอให้หยุดการกระทำอันเป็นการร่วมกับ นายณพ หรือช่วยเหลือ สนับสนุน การกระทำความผิดตามกฎหมาย และละเมิดสิทธิของเจ้าของร่วมในหุ้นดังกล่าวข้างต้นเสียโดยทันที

ฟาก “เครดิต สวิส” มีหนังสือตอบกลับทนายความของผู้เป็นพ่อในอีก 8 วันถัดมา คือ วันที่ 15 ม.ค. โดยเป็นการปฏิเสธข้อกล่าวหาว่า ได้มีการร่วมมือกับนายณพ ยักยอกหุ้นของครอบครัวไปเร่ขาย

พร้อมกับระบุว่า “เครดิต สวิส” มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นเพียงที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ให้กับ “วินด์ เอนเนอร์ยี่ฯ” เพียงเท่านั้น โดยหลักฐานและข้อมูลในจดหมายที่ฝั่งผู้กล่าวหาส่งมานั้น ไม่เป็นความจริง

สรุปคือ Credit Suisse กำลังบอกว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทวินด์ฯที่มีนายณพเป็นผู้สั่งการ แต่ไม่ได้ไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของนายณพ แต่อย่างใด

เรื่องราวดำเนินมาถึงตรงนี้ ก็พอจะเห็นภาพลาง ๆ ว่า ผู้เป็นพ่อ พี่ และน้อง คงระแคะระคายเรื่องที่นายณพ ไปใช้ “เครดิต สวิส” ที่สิงคโปร์ นำหุ้น WEH ส่วนที่มีปัญหาออกจำหน่าย เพื่อผันกลับมาเป็นเงินสดให้ตัวเอง

จากนั้น จึงให้ทนายความทำหนังสือส่งไปยับยั้งการกระทำดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ไม่แน่ชัดว่า ทันการณ์หรือไม่ หรือมีใครเป็นผู้โชคดีมารับซื้อหุ้นฉาวไปบ้างแล้ว

โดยทันที ที่เครดิตสวิสในฐานะนายหน้า ตอบปฏิเสธในลักษณะที่ไม่เป็นการให้ความร่วมมือนัก ทางบ้านณรงค์เดช (ที่ไม่มีนายณพร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ณ เวลานี้) จึงเริ่มดำเนินขั้นตอนทางกฎหมาย

เป็นที่น่าสนใจว่า เอกสารการโอนหุ้นมาเป็นกรรมสิทธิ์ของคุณหญิงกอแก้ว ซึ่งเบื้องต้นกองพิสูจน์ฯยืนยันแล้วว่า มีการปลอมลายเซ็นดร.เกษม ผู้ถือครองเดิมเกิดขึ้น ถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งของหลักฐานในการดำเนินคดีอาญานี้ด้วยหรือไม่

ขณะนี้นายณพ และคุณหญิงกอแก้ว ยังไม่ถือเป็นผู้มีความผิดทางกฎหมาย เนื่องจากการดำเนินคดีเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น

แต่เอกสารสำคัญซึ่งถูกเปิดเผยออกมาบ้างแล้วนั้น ทำให้ใครหลายต่อหลายคนพากันตั้งข้อสังเกตว่า คุณหญิงในฐานะแม่ยาย ตั้งใจร่วมมือลงแรงกับนายณพ เพื่อฉกหุ้น “วินด์” มาจริง หรือแค่ถูกอาศัยชื่อจนเข้ามามีส่วนพัวพันด้วย

ส่วนกรณีของ “เครดิต สวิส” ก็หนีไม่พ้นถูกตั้งเป็นข้อสังเกตเช่นกัน

โดยเฉพาะการที่ตำรวจพิสูจน์แล้ว และพบว่าหุ้นที่มีการนำออกไปเร่ขายนั้น เป็นการได้มาโดยมิชอบ ซึ่งหากโบรกฯฝรั่งชื่อดังรายนี้รับหน้าที่ช่วยจำหน่ายจริง! หรือศาลตัดสินให้นายณพและแม่ยายมีความผิดในท้ายที่สุด

จะเข้าข่ายเป็นการรับของโจรหรือไม่??? นี่เป็นคำถาม!!!

ก็คงว่ากันแต่พอหอมปากหอมคอเพียงเท่านี้ก่อน ลำพังแค่เรื่องราวของนายณพ ที่สามารถลากชื่อแม่ยาย และโบรกเกอร์ใหญ่ มาเกี่ยวพันจนอาจทำให้กระทบถึงชื่อเสียง และภาพลักษณ์ ได้นั้น

เท่านี้คงเพียงพอจะบอกได้ว่า “ณพ ณรงค์เดช” เป็นยอดชาย ชนิดที่เรียกได้ว่าเป็น “ลูกชายชั้นเทพ ลูกค้าชั้นดี และลูกเขยชั้นยอด” ได้แล้วล่ะ

อิ อิ อิ

Back to top button