ฝรั่งดันท้ายตลาด

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*การเคลื่อนไหวของดัชนีปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทำเอานักลงทุนนั่งไม่ติดพื้น เปิดหัวมาด้วยการคงรูปแบบเดิม ๆ ด้วยการอยู่ในแดนบวกและแกว่งตัวลงมาแดนลบกรอบแคบ ๆ  แต่ในช่วงท้ายของการซื้อขายกลับมีแรงหนุนขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ดันดัชนีขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,659.20 จุด บวกไป 11.88 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.08 หมื่นล้านบาท มันเป็นเกมหุ้นที่เห็นกันมาแล้วหลายครั้งหลายรอบ

*ที่สำคัญคือหากมองการขึ้นลงของดัชนีในเที่ยวนี้จะเห็นว่า ดัชนีลงไปแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,644.51 จุด คิดเป็นการปรับตัวลดลงราว 3 จุด และมีการดันขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,661.09 จุด ถือเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าทรงดัชนียังดูดี เพราะฝรั่งตาน้ำข้าวยังเข้ามารับถึง 3.28 พันล้านบาทอยู่นะสิ ! ที่เหลือนาทีนี้คือลุ้นให้ บจ.ที่จะประกาศงบปี 2561 ออกมาเป็นรูปแบบเดียวกัน เพราะหากอยากเห็นตอนจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งต้องดันดัชนีให้ดีดกลับสูงกว่ายอดเดิมเพื่อเปลี่ยนรูปแบบการเคลื่อนตัวให้ได้

*หากเนื้อเรื่องดำเนินมาแบบนี้ “โมนิก้า” คงต้องมองถึงพื้นฐานของ บจ.ที่จัดอยู่ในกลุ่มหุ้นบลูชิพที่จะเป็นตัวหนุนนำดัชนีว่าผลงานที่ผ่านมาขึ้นมากกว่าลง หรือลงมากกว่าขึ้น เพราะหุ้นเหล่านี้จะเป็นตัวชี้อนาคตของดัชนีได้ว่าจะออกมาเป็นรูปแบบไหน ถ้าหากหุ้นเหล่านี้ยังโกยกำไรเป็นกอบเป็นกำปลายทางของดัชนีมีโอกาสที่จะวิ่งปรู๊ดปร๊าด แต่หากกลับกันดัชนีก็พร้อมที่เซถลาลงมาทุกเมื่อ

*ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในรายของ SPRC กลายเป็นหุ้นดาวดิ่งหลังจากประกาศตัวเลขกำไรปี 2561 วูบ 74.56% เหตุขาดทุนสต๊อกน้ำมันอย่างหนัก ทำให้นักลงทุนน้อยใหญ่ถอดใจทิ้งหุ้นออกมา หุ้นจึงลงมากองที่ระดับ 10.50 บาท ลบไป 0.90 บาท หรือลดลง 7.89% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.06 พันล้านบาท แต่เดี๊ยนเชื่อว่าปีนี้ยังมีปัจจัยบวกจากค่าการกลั่นเริ่มฟื้นตัว การทยอยเก็บหุ้นเพื่อรอการเด้งกลับแรงอาจเป็นโอกาสดีมากกว่าเสียเจ้าค่ะ

*ฟาก WP วิ่งขึ้นมารับงบฯ ปี 2561 กำไรโตทะลัก 143% กระชากราคาขึ้นมาปิดที่ระดับ 6.05 บาท บวก 0.15 บาท หรือ 2.54% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 29.31 ล้านบาท ถือเป็นการปรับตัวขึ้นแรงสุดในรอบ 2 เดือน แถมสัญญาณเทคนิคเป็นขาขึ้นรอบใหม่ บวกกับแผนล้างขาดทุนสะสมที่เสร็จสิ้นเมื่อไหร่พร้อมจ่ายปันผลทันที เห็นแบบนี้คงต้องบอกว่าเป้าหมาย 9.60 บาทไม่ไกลเกินเอื้อมนะเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ PSH กำไรขยับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่หุ้นกลับวิ่งแบบแรงดี กระชากขึ้นมาปิดที่ระดับ 18.70 บาท ปรับตัวขึ้นไป 0.60 บาท หรือบวกไป 3.31% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 66.58 ล้านบาท หลังประกาศปันผลตบท้าย เป็นสูตรสำเร็จที่ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาอย่างแน่นหนา เมื่อคิดเป็นยีลด์สูงราว 6% ใครที่ยังกอดหุ้นอยู่จึงถือว่าได้รับรีเทิร์นไปถึง 2 เด้งเต็ม ๆ เจ้าค่ะ

*มาสูตรเดียวกับ GFPT ประกาศกำไรปี 2561 น้อยกว่าคาดการณ์ สวนทางกับราคาหุ้นที่วานนี้ไต่ขึ้นไปถึง 14.50 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 5.07% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 49.16 ล้านบาท ต้นเหตุมาจากแนวโน้มผลงานปีนี้ที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าจะไฉไลกว่าเก่า อีกทั้งสัญญาณทางเทคนิคยังเป็นใจน่าลุ้นให้ราคาทะลุแนวต้านสำคัญ 14.60 บาท ขึ้นไปอยู่แถว ๆ 15 บาทให้ได้เจ้าค่ะ

*ฟากหุ้น ESSO ถูกแรงเทขายกดลงมาจนหุ้นเสียทรงจากอาการที่หุ้นซึมตัวลงมาเรื่อย ๆ จนล่าสุดร่วงหล่นลงมาหนัก ๆ ปิดที่ระดับ 10.70 บาท ปรับตัวลดลง 0.30 บาท ลบไป 2.73% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 211.28 ล้านบาท ทำให้เริ่มน่าเป็นห่วง เพราะถ้าหากผลประกอบการที่กำลังจะออกมาไม่ดีเท่าไหร่นักจะยิ่งเป็นการตอกย้ำให้หุ้นร่วงหนักลงไปแบบกู่ไม่กลับ ใครที่ถือหุ้นตัวนี้อยู่คงต้องคอยจับตาดูให้ดี ๆ หากหลุดแนวรับ 10.20 บาทไปละก็ มีเสียวแน่เจ้าค่ะ !

*ส่วนในรายของ CHG กำไรปี 2561 ที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์เหลือราว ๆ 634 ล้านบาท จึงไม่แปลกใจที่เห็นแรงเทขายออกมาแบบไม่ยั้ง จนราคาไหลมาปิดที่ 1.94 บาท ลบไป 0.08 บาท หรือลบไป 3.96% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 269.25 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นภาพที่ยิ่งทำให้หุ้นยิ่งเป๋ไปใหญ่ เพราะช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นยังเป็นเทรนด์ขาลงมาตลอดหากผลงานยังออกมาไม่ดี “โมนิก้า” ว่ายังไม่เห็นแววการฟื้นตัวเจ้าค่ะ

*ปิดท้ายที่ FLOYD กระชากตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงแตะระดับ 2.08 บาท บวกไป 0.24 บาท หรือขึ้นไป 13.04% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21.75 ล้านบาท ทำนิวไฮรอบ 4 เดือน เกาะกระแสหุ้นงบฯ ดี ผลงานปัง ปี 2561 กวาดกำไรร่วม 44  ล้านบาท โตถล่มทลายกว่า 133% แถมด้วยปันผล 0.10 บาท ครบสูตรถือเป็นสตอรี่ที่ช่วยเสริมเสน่ห์เพิ่มแรงดึงดูดนักลงทุนเจ้าค่ะ