ก.ล.ต. ครอบงำ ตลท.

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*จริง ๆ “โมนิก้า” ไม่อยากเข้าไปจุ้นจ้านกับแนวทางดำเนินงานของ ก.ล.ต. กับหน่วยงานของ ตลท. สักเท่าไหร่ ! เพราะมันมีบริบทของการบริหารจัดการที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ทันทีที่มีการพูดถึงบอร์ดตลาดฯ กำลังเปลี่ยนโฉมไปเป็นให้อำนาจคนจากหอคอยงาช้างมากขึ้น บรรดาผู้เกี่ยวข้องเลยร้องโห่กันยกใหญ่ตลอดทั้งวัน เพราะเหมือนเป็นการลิดรอนสิทธิ์คนในวงการตลาดหุ้นนะซี

*หากจำกันได้จะเห็นว่า ก่อนหน้านี้มีเสียงร่ำลือเกี่ยวกับการตั้งกองทุนพัฒนาตลาดทุน CMDF ล้วนมาจากแผนของมือที่มองไม่เห็นให้มาควักเงินออกไปจาก ตลท. ให้ได้มากสุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งในตอนนั้นต้องการให้ ก.ล.ต. ทำหน้าที่กวาดเงิน 8 พันล้านบาทให้เกลี้ยงกระเป๋า แต่เผอิญผู้คนมากมายออกมาส่งเสียงโวยวาย พร้อมกับพูดถึงความเป็นธรรมในการสูบเงินแบบหน้า.. หัวโจกใหญ่เลยยอมถอยก้าวหนึ่งนะคะ

*เรื่องดังกล่าวทำท่าเหมือนจะดีขึ้น บรรดาโบรกเกอร์ บริษัทจดทะเบียน และผู้คนที่เกี่ยวข้องต่างเป่าปากโล่งใจกับการยอมถอยดังกล่าว แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า ก.ล.ต. ยังคงเดินหน้ารีดเงินจาก ตลท. ออกไปทั้งหมด 4 พันล้านบาทอยู่ดี แถมยังมีการเก็บค่าต๋งรายปีให้กองทุนไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี มันก็เกินที่สังคมชาวหุ้นจะรับได้แล้วนะตัวเอง

*ซ้ำร้ายหนักกว่าเดิมตรงที่บอร์ดตลาดในเที่ยวนี้ถูกดีไซน์ให้เป็นฝั่ง ก.ล.ต. เลือกมาทั้งหมด 6 คน ส่วนที่เหลืออีก 4 คนมาจากฝั่ง ตลท. ผู้คนทั่วไปเลยมองเป็นผลงานชิ้นโบว์ดำของคุณพี่ “รพี” ก่อนอำลาตำแหน่งในทันที พร้อมกับมีการเม้าท์ถึงการทำมาหากินของโบรกเกอร์ บริษัทจดทะเบียน ภายใต้ยุคเรืองอำนาจของเสือโหย อาจไม่ง่ายเหมือนเมื่อก่อน เพราะมัวแต่สนใจเรื่องการ “บังคับ” มากกว่าการ “ส่งเสริม” นะซี

*วันนี้ถึงต้องยอมรับข้อเท็จจริงทุกด้านแบบเปิดใจ เพื่อทำให้ทุกอย่างเดินหน้าไปตามครรลองที่ควรจะเป็น ผนวกกับขี้เกียจฟังผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นก่นด่าลับหลัง “โมนิก้า” ถึงมองทิศทางการดำเนินงานต่อจากนี้ไม่ออกจริง ๆ และดูเหมือนเรื่องต่าง ๆ ที่เม้าท์ถึงจะเป็นอุปสรรคสำหรับคนทำงานมากกว่า จึงอยากให้บรรดามิตรรักแฟนเพลงทำใจกันตั้งแต่เนิ่น ๆ …งานนี้ไม่ได้ขู่ให้กลัวหัวหดหรอกนะจ๊ะ

*เหมือนกับคอมเมนต์เรื่องการเคลื่อนตัวของดัชนีเมื่อวันก่อนว่า 1,660 จุดได้กลายเป็นแนวรับใหม่ และวานนี้ได้ทดสอบให้เห็นคาตาว่า ยังทำหน้าที่ประคองดัชนีได้อย่างยอดเยี่ยม ดัชนีถึงยืนปิดที่ระดับ 1,663.56 จุด ลบไป 8.19 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.30 หมื่นล้านบาท พร้อมกับมีเรื่องให้นักเล่นคิดกันต่อไปว่า “ฝรั่งหัวทอง” กับ “กองทุนตัวดี” เริ่มรินหุ้นออกมาแบบนี้..มันหมายความว่า อะไรกันแน่เจ้าค่ะ

*คล้ายกับกรณีของน้องสวย BEAUTY ทำท่าไล่ราคากันอย่างคึกคักประหนึ่งว่า งบออกมาดี ! พอเอาเข้าจริง ๆ กำไรดันลดฮวบ 20% ทุกคนเลยเกิดอาการหงายเงิบ (รวมน้องโมด้วย) กันอย่างถ้วนหน้า บรรดาผู้เล่นเลยหาทางออกด้วยการขายทิ้งแบบไม่ดูดำดูดี จนฉุดราคาหุ้นลงมากองอยู่ที่ 6.95 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 15.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.19 พันล้านบาทแบบนี้ วันนี้มีโอกาสลงต่อค่อนข้างสูงนะจ๊ะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ ADVANC และ DTAC เด้งสวนตลาดขึ้นมาปิดเขียวปี๋ได้อย่างยอดเยี่ยม ล้วนมาจากข่าว คสช. ใช้ ม.44  ยืดเวลาจ่ายค่าใบอนุญาต เลยทำให้ผู้ประกอบการหายใจได้โล่งท้องขึ้นทันที เพราะจะทำให้กำไรของบริษัทกลับมาดีดังเดิม ราคาหุ้นถึงเด้งขึ้นมาปิดที่ 183.50 บาท บวกไป 4 บาท หรือขึ้นไป 2.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.95 พันล้านบาท ส่วนรายหลังกระชากขึ้นมายืนอยู่ที่ 52.75 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 830 ล้านบาทแบบชิว ๆ ไงล่ะคะ

*เม้าท์ถึงเรื่องชิว ๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ต้องหันมามอง RS ภายใต้การกุมบังเหียนของ “เฮียฮ้อ” สักหน่อย เพราะการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 17.90 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 440 ล้านบาท มันเป็นช็อตของการไล่ราคาต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และถ้ามองเรื่องตัวเลขกำไรเป็นที่ตั้งในการผลักดันราคาหุ้น รอบนี้น่าจะเคาะขวากันยาวหน่อยพะยะค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” มองตัวเลขกำไรของ SAWAD ที่ออกมาดีตามคาด แต่ราคาหุ้นกลับไหลลงมาปิดที่ 50 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 352 ล้านบาท น่าจะเกิดจากภาวะการลงทุนไม่เป็นใจมากกว่า แต่ถ้ามองในมุมของกฎหมายจำนำทะเบียนที่ทำได้เต็มตัวแล้ว คงต้องติดตามดูให้ดีว่า “น้องนาย” จะดำเนินการดึงพอร์ตดังกล่าวจากลูกรักอย่าง BFIT ไหมเอ่ย ? แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้คือผลงานแจ่มทั้งคู่เจ้าค่ะ