พาราสาวะถี
วันวาน มีคนลุ้นคดียุบพรรคไทยรักษาชาติที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังการพิจารณา ปรากฏว่าศาลไม่นัดไต่สวนแต่จะพิจารณาวินิจฉัยเลยในวันที่ 7 มีนาคมนี้เวลาบ่ายสามโมง และคู่ขนานกันก็มีการลุ้นว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่จะถูกดำเนินคดีหรือเปล่า แต่ทั้งสองกรณีผลที่ออกมาพูดได้ว่าไม่ได้ส่งผลกับการเลือกตั้งครั้งนี้ในแง่ของเสียงที่จะสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หากจับอาการของคนที่ต้องการชนะเพื่อสืบทอดอำนาจแล้ว จะเห็นได้ชัดว่า ยังเป็นรองแชมป์เก่าและเครือข่ายไม่น้อย
อรชุน
วันวาน มีคนลุ้นคดียุบพรรคไทยรักษาชาติที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังการพิจารณา ปรากฏว่าศาลไม่นัดไต่สวนแต่จะพิจารณาวินิจฉัยเลยในวันที่ 7 มีนาคมนี้เวลาบ่ายสามโมง และคู่ขนานกันก็มีการลุ้นว่า ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่จะถูกดำเนินคดีหรือเปล่า แต่ทั้งสองกรณีผลที่ออกมาพูดได้ว่าไม่ได้ส่งผลกับการเลือกตั้งครั้งนี้ในแง่ของเสียงที่จะสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หากจับอาการของคนที่ต้องการชนะเพื่อสืบทอดอำนาจแล้ว จะเห็นได้ชัดว่า ยังเป็นรองแชมป์เก่าและเครือข่ายไม่น้อย
ดังนั้น ไม่ว่าทษช.จะถูกยุบหรือธนาธรจะถูกขัง คนที่ตั้งใจเลือกพรรคในเครือข่ายของทักษิณ คนที่จะไปหย่อนบัตรให้พ่อที่รักของฟ้า ต่างก็มุ่งมั่นและตัดสินใจไว้แล้ว คงยากที่จะมีอะไรไปเปลี่ยนแปลง มิหนำซ้ำ ยังเกิดคำถามตัวโตตามมาอีกต่างหาก ถ้าฝ่ายตรงข้ามอำนาจเผด็จการถูกกระทำมาก ๆ จากที่จะชนะกันแบบได้ลุ้น จะกลายเป็นทิ้งขาดไม่เห็นฝุ่นไปเสียฉิบ
วิชามารหรือความสามานย์ของคนที่ต้องการชนะนั้น ถูกปล่อยมาอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากกรณีของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่โพสต์เฟซบุ๊กล่าสุด เร้าอารมณ์แนวร่วมม็อบกปปส.และพวกเกลียดระบอบทักษิณเต็มที่ โดยการยกเอาสารพัดคดีที่ทักษิณและคนในตระกูลโดนเล่นงานมาสาดโคลน พร้อมโยนคำถามแบบชี้นำว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องของฝ่ายประชาธิปไตยกับเผด็จการ หากแต่เป็นเรื่องของการเลือกข้างประเทศไทยกับระบอบทักษิณต่างหาก
คนที่ไม่รู้จะขุดเอาอะไรมาเรียกคะแนนนิยมแล้ว ก็ต้องใช้วิธีการอย่างนี้ แถมพกตามมาด้วยการอ้างป.ป.ช.ว่ากำลังจะจัดการทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ และ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ในคดีจำนำข้าวอีกกระทอก ออกมาพูดแบบคนรู้ข้อมูลวงใน องค์กรอิสระที่ทำเรื่องนี้ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือไม่ เพราะคนที่พูดเองก็มีคดีความให้องค์กรนี้พิจารณาอยู่ และถูกสังคมวิจารณ์ว่ายื้อกันมาจนน่าเกลียด
ด้วยพฤติกรรมแบบนี้จึงต้องตั้งคำถามไปยังกกต.ที่กำกับดูแลการเลือกตั้ง มีคนพูดพาดพิงให้อีกฝ่ายเสียหาย กับถามไปยังฝ่ายความมั่นคงนี่คือการปลุกระดม สร้างความเกลียดชังหรือไม่ หากไร้คำตอบหรือแถกันไปข้าง ๆ คู ๆ ก็เป็นอันสรุปได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้น่าห่วง และจะไร้ซึ่งความโปร่งใส-เป็นธรรมแน่นอน ไม่ต้องโกรธหรือจะฟ้องร้องหมิ่นประมาท เพราะพฤติกรรมการเลือกปฏิบัติ มันจะทำให้สังคมไว้วางใจได้อย่างไร
คุยฟุ้งมาจากพรรคสืบทอดอำนาจ โค้งสุดท้ายจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ที่จะเรียกคะแนนนิยมของพรรคพุ่งกระฉูดแน่นอน ของพรรค์นี้ไม่ต้องเสาะแสวงหาข่าวเชิงลึกอะไร จะมีนโยบายขายฝันหรือเปิดตัวใครเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ง่าย ๆ สั้น ๆ คือ กกต.ไฟเขียวให้ผู้นำเผด็จการสามารถช่วยพรรคนี้หาเสียงได้ แต่เพื่อการเพลย์เซฟ จะเป็นการไปขึ้นเวทีโชว์ตัว โดยไม่พูดถึงนโยบายหรือร่วมปราศรัย เพราะสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นการผิดกฎหมาย
ทำได้เท่านี้ก็ถือเป็นการเรียกความเชื่อมั่น และสร้างความหวังให้กับพรรคสืบทอดอำนาจแล้วว่า คะแนนเสียงจะกลับมาเป็นกอบเป็นกำ อีกชุดใหญ่ของบิ๊กเซอร์ไพรส์ก็คือ การขึ้นป้ายหาเสียงที่มีรูปของผู้นำเผด็จการไปทั่วประเทศ เป็นการประกาศศักดาให้ประชาชนเห็นว่าพรรคนี้ยิ่งใหญ่ เพราะในมุมของพวกเชลียร์เชื่อมั่นแบบสุดตัวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา คือทุกสิ่งทุกอย่างของพรรค
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยทางการเมืองว่าด้วยการเลือกตั้งเดินทางมาจนถึงวันนี้ เรื่องที่เกรงว่าจะไม่ได้กาบัตรน่าจะพอเบาใจกันได้ แต่เริ่มมีการมองไปยังทิศทางใหม่เรื่องหลังเลือกตั้งจะมีโอกาสที่ถูกประกาศให้เป็นโมฆะหรือไม่ ด้วยเหตุมีหลายพรรคการเมืองจ่อถูกยุบ ซึ่งนั่นจะทำให้มีผลต่อการประกาศรับรองส.ส.และต้องพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อย่างเป็นพิเศษ
เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่ผ่านกระบวนการตีความใด ๆ ด้วยเหตุนี้หากเลือกตั้งแล้ว มันเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดฝันหรือคาดไว้อยู่แล้ว แต่ไม่อาจเดาบทสรุปได้ว่าจะเป็นอย่างไร หนทางสุดท้ายจึงหนีไม่พ้นทุกอย่างกลายเป็นโมฆะ พูดในเวลานี้อาจจะยังนึกภาพไม่ออกต้องรอให้สถานการณ์เกิดขึ้นเสียก่อน กรณีนี้ก็ล้อไปกับสิ่งที่มีการพูดถึงประเด็นที่ว่า ถ้าแพ้ก็ทำให้เลือกตั้งเป็นโมฆะเสีย ยุคนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
ส่วนเรื่องไม่น่าไว้วางใจในการถูกมองแง่ของการสมคบคิดระหว่างองคาพยพเผด็จการกับพรรคสืบทอดอำนาจนั้น มีให้เห็นเป็นระยะ ล่าสุดก็เรื่องของพ.ร.บ.ข้าว เมื่อวันจันทร์คณะกรรมาธิการที่พิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้พร้อมเลขานุการวิปสนช. ต่างพากันออกมายืนยัน จะนำร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาในวันรุ่งขึ้นแน่นอน ไม่มีถอนไม่มีถอย
ขณะที่มีเสียงขู่ฟ่อด ๆ มาจาก อนุชา นาคาศัย แกนนำพรรคสืบทอดอำนาจ ถ้าไม่ยอมถอยจะพาชาวนาบุกรัฐสภา ก่อนที่หลังประชุมครม.ผู้นำเผด็จการจะแถลงอ้างว่าสั่งสนช.ไม่ได้ แต่ได้รับการประสานงานมาแล้วว่าได้ชะลอการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ตามมาด้วยการแถลงขอบคุณใหญ่โตจากอนุชาที่อ้างว่าสนช.ให้ความสำคัญต่อเสียงของชาวนา ถ้าไม่ใช่ช่วงการหาเสียงอาจจะมองเห็นเป็นเรื่องปกติธรรมดา
พฤติกรรมเช่นนี้จะให้คนทั่วไปมองเป็นอย่างอื่นได้อย่างไร เพราะตัวละครที่ขับเคลื่อนก็หน้าเดิมทั้งนั้น โดยเฉพาะกับบางคนที่กาชื่อไว้ได้เลยว่าจะต้องเป็นหนึ่งในส.ว.ลากตั้ง 250 เสียงที่จะไปโหวตเลือกนายกฯ สืบทอดอำนาจแน่นอน ฮั้วกันหรือไม่รู้กันหรือเปล่าคงไม่มีใครกล้าไปกล่าวหา แต่ที่ตั้งคำถามง่าย ๆ ต่อการปฏิบัติของฝ่ายกุมอำนาจคือ คนที่ขู่ก่อม็อบ ขู่พาคนไปกดดันสนช.นั้น ไม่มีการตักเตือน ไม่มีการส่งสัญญาณเพื่อทำให้คนเห็นว่าไม่เลือกปฏิบัติกันเลยหรือ ไม่เหนียมกันแบบนี้บางทีประชาชนก็รู้สึกอายแทน
การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์อย่างแท้จริง ขนาดพรรคที่ชูความเป็นประชาธิปไตย โชว์ความเป็นเกาะกลางแสวงหาการสร้างความปรองดองอย่างเพื่อชาติ ยังมีปมความขัดแย้งเพราะการเรียกรับเงินรับทอง วันนี้ จตุพร พรหมพันธุ์ กองเชียร์ของพรรคจะแถลงถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่รู้ว่าจะพูดถึงขนาดว่า ใครรับเงินใคร ใครจ่ายให้ใคร ลงลึกถึงรายละเอียดกันขนาดนั้นหรือไม่ ที่แน่ ๆ การตั้งพรรคหนนี้น่าจะทำให้ประธานนปช.รู้ว่า ใครคือมิตรแท้ใครควรจะเป็นศัตรูถาวร และพวกไหนที่คอยเก็บเบี้ยใต้ถุนร้านตลอดเวลา