มังกรผงาดที่บาร์เซโลนา  

ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์         

ผมก็เป็นคนหนึ่งครับที่ต้องมาลุ้นระทึกว่าจะกลับเมืองไทยได้หรือไม่ในวันที่ 28 ก.พ.เพราะมาเที่ยวชมงาน”โมบายล์ เวิลด์ คองเกรส” หรือ MWC 19” ณ นครบาร์เซโลนา ระหว่าง 25-28 ก.พ.62

งานนี้ถือเป็นงานอินเตอร์ของโลกโทรศัพท์มือถือ และระบบเชื่อมโยงอัจฉริยะขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีแล้วละครับ

ซึ่งค่าเข้าชมแพงมาก คิดรายหัวประมาณกว่า 2 หมื่นบาท แต่ก็คุ้มเพราะ ยักษ์ใหญ่ค่ายมือถือโลกมาประชันกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้งค่ายจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ค่ายตะวันตกผมไม่เห็นนะ หรือถ้ามาก็คงจะหลบมุมที่ไหนสักแห่งในงาน

คณะสื่อมวลชนกลุ่มเล็ก ๆ ของเราได้มีโอกาสไปเดินเที่ยวชม อาคารแสดงสินค้าทั้ง 3 อาคาร ซึ่งก็แน่นอนล่ะค่ายมือถือจากสาธารณรัฐประชาชนจีนได้เดินทางมาโชว์ของดีเด่นตัวเองกันหลายเจ้าด้วยกัน

“ไชน่า โมบายล์” ก็มา สตาร์ท-อัพ ทั้งหลายจากจีนที่เกี่ยวเนื่องกับการเชื่อมโยงเครือข่ายอัจฉริยะก็มากันร่วมสิบ และแน่นอนที่จัดทัพมาแสดงใหญ่ที่สุด และอาจจะถือเป็นพระเอกของงาน

นั่นก็คือ “หัวเหว่ย” บริษัทที่มียอดขายระบบเครือข่ายและเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ในราว 108,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 3.45 ล้านล้านบาท ซึ่งก็ใหญ่กว่าปตท.ของเรา อันเป็นบริษัทใหญ่ที่สุดของไทยกว่าร้อยละ 70 เสียอีก

กรุงทพฯ ประเทศไทยเราโชคดีมากที่ หัวเหว่ย เลือกให้เป็น สำนักงานภูมิภาค ดูแลกิจการในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในราว 8 ประเทศ

ธีมของงานหนนี้ ก็คือ Intelligent Connectivity  หรือ การเชื่อมโยงเครือข่ายอัจฉริยะ ซึ่งก็หนีไม่พ้นเรื่องราวและบทบาทเด่นของโทรศัพท์มือถือระบบ 5 จี อันเป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกเปลี่ยนชีวิต อย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน

ใครตามไม่ทันก็คงหลุดโลก และจะเสียหายทางโอกาสอย่างใหญ่หลวง ผมขอเรียกมันว่า “เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก-เปลี่ยนชีวิต”

เทคโนโลยี 5 จี จะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนโลกเปลี่ยนชีวิตในทุกมิติ อย่างครอบคลุม และมีความลึกในข้อมูลและเนื้อหาไม่ว่าจะเป็นในทางการแพทย์ ทางวิศวกรรม งานด้านการก่อสร้าง พลังงาน การเกษตร กิจการทางขนส่ง ทั้งทางระบบราง การบิน ถนน สะพาน อุโมงค์ ฯลฯ

งานออกแบบในกิจการทั้งหลาย จะมีความครอบคลุม มีความลึกในข้อมูล และความชัดเจนมาก ๆ ๆ ยิ่งขึ้น เรียกว่า บางทีอาจไม่ต้องใช้สถาบันทางวิชาการ หรือ สถาบันชำนาญการเฉพาะทางใด ๆ มาคิดวางแผนงานหรือโครงการใด ๆเลย

ทั้งหมดก็เปลี่ยนโลก-เปลี่ยนชีวิตกันได้บนโทรศัพท์มือถือ 5 จี เพียงเครื่องเดียว

สุดยอดไฮไลต์ของงานเห็นจะเป็นการประชันมือถือ 2 ค่าย ระหว่าง ซัมซุง กาแล็กซี่ s10 VS หัวเหว่ย เมตเอ็กซ์ ซึ่งมาทีหลังแต่ดูจะแรงกว่า

เรื่องภาพถ่ายยิ่งคมชัด ข้อมูลยิ่งรูดปรื๊ด ก็เป็นธรรมดาสามัญอยู่แล้ว แค่คุณสมบัติเด่นพิเศษเห็นจะเป็นโทรศัพท์มือถือที่มีหน้าจอใหญ่ยักษ์ และสามารถพับได้

ซัมซุง กาแล็กซี่ s10 ผู้มาก่อนขยายหน้าจอได้ 7.3 นิ้ว แต่หัวเหว่ย เมตเอ็กซ์ ขยายหน้าจอได้ 8 นิ้ว

ราคาเครื่องของซัมซุง 1,950 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ เมตเอ็กซ์ ของหัวเหว่ย 2,600 เหรียญสหรัฐกว่า เครื่องละ 7 หมื่นบาททีเดียว

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ก่อนเปิดงานวันแรกฝูงชนก็เข้าไปออหน้าบูธหัวเหว่ย เต็มไปหมด แล้วพอเปิดงานก็ทะลักกันเข้าไปอย่างล้นหลาม ต้องจัดคิวผู้ชมเป็นรอบ ๆไป

โธมัส ฮัดสัน นักวิเคราะห์จากสำนัก  Forrester ให้คอมเม้นท์ว่า “Mate X” ของหัวเหว่ย กำลังโชว์ความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมโดยแท้จริง

ครับ โทรศัพท์อัจฉริยะ 5 จี ของทั้งสองค่ายยังเป็นของวิเศษอยู่ในตู้โชว์ ปิดล็อกตู้กระจกแน่นหนาพร้อมยามเฝ้าห้ามแตะต้อง มีกำหนดจะล้อนช์จำหน่ายของซัมซุง 26 เม.ย.ศกนี้ ส่วนหัวเหว่ยยังไม่แจ้งกำหนดการครับ

เท่าที่ผมดูจากจอแสดง ชักจะเห็นความไม่เท่าเทียมกันเกิดขึ้นแล้ว ของซัมซุงมีรอยหยักเวลาขยายจอ ส่วนของหัวเหว่ยขยายได้เต็ม 8 นิ้ว โดยไม่มีรอยหยักให้เห็นเลย

2 ค่ายนี้คงจะพัฒนาโพรดักส์กันอย่างไม่หยุดยั้งต่อไปแน่ โดยปล่อยให้ ไอโฟน ค่ายตะวันตก ยืนชูคอแข็งอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย

เมืองไทยถ้ายุ่งนักเรื่อง 5 จี กสทช.ก็ควรเปิดใบอนุญาตเฉพาะเขตพื้นที่แทนการเปิดใบอนุญาตในส่วนรวมไปเลยคงจะดี