‘เสี่ยเจริญ’ กินรวบ GOLD..!?
ดีลบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT เข้าเทกโอเวอร์บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD ถ้ามองเผิน ๆ ก็เป็นการกินรวบ...เพื่อต่อยอดธุรกิจทั่ว ๆ ไป !!
สำนักข่าวรัชดา
ดีลบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ FPT เข้าเทกโอเวอร์บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLD ถ้ามองเผิน ๆ ก็เป็นการกินรวบ…เพื่อต่อยอดธุรกิจทั่ว ๆ ไป !!
แต่…ถ้ามองให้ลึกลงไปจะพบว่า นอกจากความคุ้มค่าจากรายได้และกำไรที่ FPT จะรับรู้ได้จาก GOLD แล้ว ยังมีเรื่องของการวางหมากทางธุรกิจของ “เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี” ที่ซ่อนอยู่ในดีลนี้อีกด้วย
บอกเลยว่า…น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน !!
หากยังจำกันได้ช่วงปลายปี 2561 FPT (ชื่อเดิม TICON) ได้ประกาศเพิ่มทุน 1,100 ล้านบาท การเพิ่มทุนในครั้งนั้นทำให้เสี่ยเจริญมีอำนาจเบ็ดเสร็จใน FPT ทันที
โดยมี 2 บริษัทในกลุ่มเสี่ยเจริญ คือ บริษัท เฟรเซอร์ส แอสเซ็ทส์ จำกัด เข้ามาถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 48.52% และบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด สัดส่วน 40.95%
สเต็ปต่อมา FPT มีแผนจะพัฒนาที่ดิน 4,300 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด ที่บริษัท ทีอาร์เอ แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ (เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง FPT ถือหุ้น 50% บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA ถือหุ้น 25% และนิคมอุตสาหกรรมเอเชีย ถือหุ้น 25%) ประมูลได้มาจากบริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ ราคา 8,900 ล้านบาท เป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีทั้งนิคมอุตสาหกรรม โรงงาน คลังสินค้า ที่อยู่อาศัย และโลจิสติกส์
แต่โจทย์ใหญ่ของ FPT คือ ถนัดพัฒนาพวกนิคมอุตสาหกรรม โรงงาน และคลังสินค้า มากกว่าที่อยู่อาศัย ??
จึงเป็นที่มาของดีลเข้าเทกโอเวอร์ GOLD มีความเชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชยกรรมนั่นเอง !!
ดีลครั้งนี้ FPT ต้องใช้เงินเกือบ 2 หมื่นล้านบาท เทนเดอร์ฯ GOLD ราคาหุ้นละ 8.50 บาท
แน่นอนว่าเงินดังกล่าวก็จะถูกผ่านไปยังผู้ถือหุ้น GOLD ซึ่งมีบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือหุ้นใหญ่สัดส่วน 39.92% ตามด้วยบริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ UV สัดส่วน 39.28% และ DBS BANK LTD สัดส่วน 2.20%
แต่…ที่น่าสนใจเป็นกรณีของ UV ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินจากการขายหุ้น GOLD รวมทั้งสิ้น 7,759 ล้านบาท และได้กำไรประมาณ 2,700 ล้านบาท จากต้นทุนซื้อหุ้น GOLD ที่หุ้นละ 5.50 บาท
และคาดว่า UV อาจมีการจ่ายปันผลพิเศษกลับไปให้ผู้ถือหุ้นใหญ่ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน…แต่เป็นสองทายาท “ฐาปน-ปณต สิริวัฒนภักดี” ลูกชายของเสี่ยเจริญ ผ่านบริษัท อเดลฟอส จำกัด ซึ่งถือหุ้น UV สัดส่วน 66.01%
ดังนั้นถ้าไล่ดูก็จะเห็นว่าเป็นคนกันเองทั้งน้านนนน !!
เรียกว่าเรือล่มในหนอง GOLD จะไปไหนเสีย…
สุดท้ายถามว่าดีลนี้ใครได้ประโยชน์มากสุด ก็คงหนีไม่พ้นเสี่ยเจริญนั่นแหละ
แหม๊ !!..อยากรู้จริง ๆ ว่าใครเป็นคนวางหมากให้เสี่ยเจริญเดินนะ
หรือทั้งหมดทั้งมวลนี้ เสี่ยเจริญเป็นคนคิดเอง…ก็ไม่รู้สินะ !!
…อิ อิ อิ…