คุณฉลาด
กรณีศึกษาที่น่าสนใจของข่าวเรื่อง NEWS ยุติขายหุ้น “สปริงนิวส์” ให้ TVD เหตุเงื่อนไขบางประการตกลงกันไม่ได้ และข่าวเรื่องบริษัท GIFT มีมติบอร์ดเพื่อนำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติการซื้อหุ้น TVD จากผู้ถือหุ้นใหญ่ 31 ล้านหุ้น ราคา 1.60 บ./หุ้น มูลค่า 50 ล้านบาท เพื่อทำพันธมิตรการตลาด แม้จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน แต่มีความหมายร่วมกัน
พลวัตปี 2019 : วิษณุ โชลิตกุล
กรณีศึกษาที่น่าสนใจของข่าวเรื่อง NEWS ยุติขายหุ้น “สปริงนิวส์” ให้ TVD เหตุเงื่อนไขบางประการตกลงกันไม่ได้ และข่าวเรื่องบริษัท GIFT มีมติบอร์ดเพื่อนำเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติการซื้อหุ้น TVD จากผู้ถือหุ้นใหญ่ 31 ล้านหุ้น ราคา 1.60 บ./หุ้น มูลค่า 50 ล้านบาท เพื่อทำพันธมิตรการตลาด แม้จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน แต่มีความหมายร่วมกัน
เรื่องแรก บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS แจ้งว่า ตามที่บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จํากัด (SPC) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ได้ทำบันทึกความเข้าใจกับบริษัท ทีวี ไดเร็ค จํากัด (มหาชน) หรือ TVD เพื่อขายหุ้นร้อยละ 90.1 ในบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จํากัด (SPTV) ซึ่งมีมติเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2561 อนุมัติให้ SPC ขายหุ้นร้อยละ 90.1 ใน SPTV ให้แก่ TVD และที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ได้อนุมัติการทํารายการดังกล่าวแล้ว มีอันต้องขอยกเลิกดีลดังกล่าวกลางคัน
เหตุที่ NEWS ใช้อ้างคือ ในเดือนธันวาคม 2561 สำนักงาน กสทช.ได้ปรับปรุงการใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz เพื่อนำไปใช้ประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยจะเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ และยังเรียกคืนคลื่นความถี่ 700 MHz โดยกำหนดวิธีการจ่ายค่าชดเชยให้ผู้ประกอบกิจการช่องโทรทัศน์ดิจิทัล ซึ่งจำนวนค่าชดเชยที่จะได้รับจากการเรียกคืนคลื่นความถี่ 700 MHz นี้เป็นจำนวนที่มีนัยสำคัญและกระทบต่อการตัดสินใจขายหุ้นร้อยละ 90.1 ใน SPTV
ทาง NEWS จึงให้ SPC ทำการเจรจาเพิ่มเติมกับ TVD ในเรื่องผลประโยชน์เพิ่มเติม “เงินกินเปล่า” ดังกล่าว ซึ่งผลลัพธ์คือ “ไม่ลงตัว” จึงสมควรที่จะยุติการเจรจาซื้อขายหุ้นร้อยละ 90.1 ของ SPTV กับ TVD
ผลลัพธ์ดังกล่าว ทำให้ทาง SPC จะถือหุ้นร้อยละ 100 ใน SPTV ต่อไป ขณะที่ TVD ก็คงได้เงินสดค่าผ่อนจ่ายไปบางส่วนคืน ซึ่งไม่ได้เสียหายอะไร
เรียกว่าเจ๊า ๆ กันไป
ตามข้อตกลงในดีลเดิมนั้น TVD ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการ SPTV ในสัดส่วนถือครองหุ้น 90.10% จาก SPC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NEWS โดยปราศจากภาระผูกพันและการรอนสิทธิใด ๆ (ไม่รับรู้เรื่องหนี้สินหรือค่าใบอนุญาตใด ๆ ที่เดิม SPTV หรือ SPC มีภาระอยู่ โดยระบุเงื่อนไขการซื้อกิจการว่า
1) TVD ต้องชำระค่าตอบแทนให้แก่ SPC เป็นค่าหุ้นของ SPTV ในอัตราเดือนละ 7.655 ล้านบาท ไปจนกว่าจะหมดสิ้นสุดอายุของใบอนุญาตกิจการ คิดเป็นมูลค่า 949.22 ล้านบาท
2) TVD ต้องชำระค่าผลิตรายการข่าวสารและสาระในอัตราเดือนละ 1.055 ล้านบาทสำหรับรายการที่กินเวลาวันละ 6-7 ชั่วโมง โดยในส่วนเวลาดังกล่าว TVD จะให้สิทธิ์ SPC ขายเวลาโฆษณาอีกร้อยละ 30 ของเวลาที่ SPC ผลิตรายการ (ซึ่งคำนวณเป็นมูลค่าประมาณเดือนละ 0.54 ล้านบาท) รวมเป็นเดือนละ 1.595 ล้านบาท
เมื่อยกเลิกสัญญาซื้อขาย เท่ากับ TVD ประหยัดเงินลงทุนเกือบ 1,000 ล้านบาทโดยปริยาย เพียงแต่อาจจะทำให้แผนครอบครองและครอบงำธุรกิจทีวีดิจิทัลเพื่อ เปิดช่องทางใหม่ ทำให้ TV Direct Group เป็นมหาอำนาจทีวีช้อปปิ้งอย่างเบ็ดเสร็จ โดยมีช่องทีวีในกลุ่มทีวีช้อปปิ้งมากที่สุด สะเทือนบ้าง แต่คงไม่มากเพราะยังมีเช่าเวลาผ่านช่องทีวีดาวเทียม 5 ช่องในนาม ทีวี ไดเร็ค 3 ช่อง และร่วมทุนกับ Mono Group ของไต้หวัน 2 ช่อง และยังซื้อเวลาโฆษณากับเช่าเวลาทำรายการในช่องทีวีดิจิทัลเกือบครบทุกช่อง ยกเว้นช่อง MONO29
ก้าวย่างดีลนี้ตั้งแต่ต้น เป็นดีลซื้อกิจการที่ประหลาดสุด เพราะ “คนซื้อไม่เต็มใจจ่าย” รายละเอียดอันสุดพิสดารของการ “ซื้อจ่ายผ่อนชำระ แต่เข้าครอบครองเบ็ดเสร็จทันที” บอกไว้ชัดเจน ดังที่ปรากฏในเอกสารของ TVD
การประหยัดงบลงทุนที่สูง ยังมาสอดรับกับข่าวที่ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท แกรททิทูด อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ GIFT มีมติอนุมัติซื้อหุ้นบริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD จากผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 ราย ซึ่งไม่ได้เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท โดยมีจุดประสงค์เพื่อการลงทุน จำนวน 31 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.86% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด (คนละ 2.43%) ในราคา 1.60 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงิน 50 ล้านบาท ภายในวันที่ 13 มี.ค.62 พร้อมกับกำหนดวันเรียกประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ในวันที่ 5 เม.ย.62 เพื่อนำเสนอในวาระดังกล่าว
มติของ GIFT ดังกล่าว เป็นมากกว่าแค่ “เพื่อนซื้อหุ้นเพื่อน” ระหว่างนายทรงพล ชัญมาตรกิจ และนายพีรเจตน์ สุวรรณนภาศรี เท่านั้น แต่สะท้อนยุทธศาสตร์การตลาดของ GIFT ที่ระยะหลัง เคลื่อนย้ายจากธุรกิจเทรดดิ้งสารตั้งต้นเคมีภัณฑ์ มาสู่การผลิตและทำการตลาดในแบรนด์ของตนเอง ที่ชัดเจน
การเข้าถือหุ้นส่วนสำคัญใน TVD เปิดทางให้ GIFT ใช้ช่องทางของ TVD ในการส่งเสริมการขายอย่างมีพลัง และรับรู้ “ขาขึ้น” ของธุรกิจชัดเจนขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมา TVD ได้แสดงให้เห็นถึงทิศทางการตลาดที่เพิ่มรายได้ และอัตราส่วนทำกำไรโดดเด่นมากกว่าปีใด ๆ
เงินสดที่ GIFT จ่ายเป็นค่าหุ้น อาจจะไม่เข้ามาที่ TVD โดยตรง แต่ไม่มีนัยสำคัญเท่ากับยุทธศาสตร์ที่จับมือกันเดินสร้างพลังผนึก
ข่าวที่เกิดกับ TVD ทั้งสองเรื่องจึงไม่ใช่ข่าวลบ แต่เป็นข่าวของคุณฉลาดอย่างนายทรงพล ชัญมาตรกิจ โดยแท้