‘ตู่’ เจ้าหน้าที่เหนือรัฐ

ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

อดีต กกต. สมชัย ศรีสุทธิยากร ช่างแสบสันเสียกระไร บอกให้เลิกเถียงกันเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ เพราะสถานะวันนี้เกินเลยเจ้าหน้าที่รัฐไปแล้ว นอกจากตำแหน่งนายกฯ ยังเป็นหัวหน้า คสช. ซึ่งอยู่เหนือส่วนราชการทั้งหมด เหนือทุกตำแหน่ง สามารถออกคำสั่งให้ทุกคนทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตาม จึงเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเหนือคนอื่น ๆ เป็น “เจ้าหน้าที่เหนือรัฐ” อย่างแท้จริง

แหม่ นี่ถ้าได้เป็น ส.ส. แล้วพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งประกาศไม่จับมือพรรคชินวัตร ไปจับมือพลังประชารัฐหนุนลุงตู่ อย่างที่หลายฝ่ายคาดไว้ ก็ไม่รู้อดีต กกต.สมชัยจะอยู่ตรงไหน

ไม่ต้องสนใจภาษากฎหมาย เพราะยังไงก็วิบัติไปแล้ว สมชัยเปรียบเปรยได้ชัด อันที่จริงก็ไม่ต่างจากเสรี สุวรรณภานนท์ ซึ่งอธิบายเป็นคุ้งเป็นแคว เข้าใจยาก แต่หากสรุปสั้น ๆ คือ คสช.ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ เพราะเป็นรัฏฐาธิปัตย์นั่นเอง

ก็อยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ในรัฐธรรมนูญซ้อนรัฐธรรมนูญ มีอำนาจทำได้ทุกอย่าง จะไปตีความให้ยากทำไมกัน มีอำนาจแต่งตั้ง 250 ส.ว. มาเลือกนายกฯ ทั้งที่ตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกฯ แถมตั้งพี่ป้อมเป็นประธานสรรหา ทั้งที่รัฐธรรมนูญกำหนดว่า กรรมการสรรหาต้องเป็นกลาง

ที่มันเป็นเรื่อง ก็เพราะวิษณุ เครืองาม พยายามอธิบาย 2 โลกทับซ้อนให้ดูชอบธรรม เช่นบอกว่าท่านผู้นำเป็นข้าราชการ ต้องวางตัวเป็นกลาง แต่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ได้ ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องห้ามตามคุณสมบัติ ครั้นโดนรุมทัก ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐได้ไง วิษณุก็บอกไม่เคยพูดกลับไปกลับมา ไม่เคยบอกว่าท่านไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ แต่เป็นแคนดิเดตได้เพราะเป็นข้าราชการการเมืองต่างหาก

ก็เปลืองสีข้างกันไป กับภาษากฎหมายที่ขึ้นอยู่กับใครมีอำนาจตีความ ข้างหนึ่งรอดทุกที อีกข้างผิดทุกครั้ง จนประชาชนไม่เชื่อถือการใช้กฎหมายตีความแย่งอำนาจทางการเมือง เรื่องจริงที่เห็นคาตาคือ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในสถานะทับซ้อน คำถามจริง ๆ ที่ชาวบ้านกังขาคือใช้สถานะนี้เอาเปรียบคนอื่นหรือเปล่า

สมชัยพูดถูกว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐ ย่อมมีอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ มีข้อห้ามข้อปฏิบัติ พร้อมวัตรปฏิบัติที่เหมาะสมเพื่อการดำรงตน แล้วท่านผู้นำอยู่ในข้อห้ามวัตรปฏิบัตินั้นหรือเปล่า

หรือบอกว่าเป็นข้าราชการการเมือง แล้วท่านอยู่ในสถานะรักษาการเหมือนนายกฯ จากเลือกตั้ง อภิสิทธิ์ ยิ่งลักษณ์ ที่ถูก กกต.จำกัดการใช้อำนาจการใช้กลไกรัฐระหว่างหาเสียงหรือเปล่า

ป่วยการบอกว่า ท่านจะไปขึ้นเวทีหาเสียงนอกเวลาราชการ จะใช้รถส่วนตัว จะใส่เสื้อขาว จะไม่พูดนโยบายพรรค ไม่มีข้าราชการมาต้อนรับ ฯลฯ เพราะในเวลาราชการ ท่านสามารถอ้างอีกสถานะ เป็นเจ้าหน้าที่เหนือรัฐ ใช้อำนาจได้ทุกอย่าง โยกย้ายข้าราชการ ใช้งบประมาณทำโครงการเอาใจชาวบ้าน ไปตรวจงาน ไปเยี่ยมประชาชน โดยใช้เครื่องบิน ใช้รถประจำตำแหน่ง มีรถนำ มีผู้ว่าฯ ทหาร ตำรวจ นำประชาชนมาต้อนรับ ซึ่งทักษิณ อภิสิทธิ์ ยิ่งลักษณ์ ทำอย่างนี้ไม่ได้

เอาง่าย ๆ ถ้ามาร์ค แม้ว ปู ออกซิงเกิ้ลใหม่ให้วิทยุทีวีรัฐเปิดกระหึ่ม คงโดน กกต.แจกใบดำไปแล้ว

กติกาเลือกตั้งไม่เป็นธรรม อำนาจเหนือรัฐกลายเป็นผู้ลงมาแข่งขันเสียเอง ทั้งที่เป็นผู้กำหนดรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ตั้งองค์กรอิสระ ตั้ง ส.ว. 250 คน แล้วยังพยายามหลอกคนว่านี่คือการแข่งขันที่เป็นธรรม เห็นไหม ท่านผู้นำยังต้องถูกจำกัดโน่นนี่ ต้องระมัดระวังตัว เดี๋ยวถูกร้อง เดี๋ยวไม่เป็นกลาง ฯลฯ แต่ความเป็นจริง มันก็ละครหลอกตาเท่านั้น