WHA กลับมาโตดีปี 62

มีการวิเคราะห์กันว่า ผลประกอบการปี 2562 ของ WHA จะเติบโตดี โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ที่ยังเป็นตัวผลักดัน


คุณค่าบริษัท

มีการวิเคราะห์กันว่า ผลประกอบการปี 2562 ของ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA จะเติบโตดี โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ที่ยังเป็นตัวผลักดัน

ขณะที่ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ที่ 654 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะทยอยโอนที่ดินได้ทั้งหมดภายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทยังมีสัญญาที่ดินที่เซ็นหนังสือแสดงความจำนง (LOI) แล้วอีก 256 ไร่ ซึ่งในอนาคตจะทำการเซ็นสัญญาซื้อขาย และทยอยโอนได้ในอนาคต

ดังนั้นทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าในปี 2562 บริษัทจะมียอดการโอนที่ดินอย่างต่ำ 650 ไร่ หรือคิดเป็น 65% ของเป้าโอนที่บริษัทตั้งไว้ และคิดเป็น 72% ของเป้าที่ตั้งไว้ ในขณะที่ยอดขายที่ดินที่เหลือ คาดจะมาจากการขายที่ดินที่นิคมฯ แห่งใหม่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยบริษัทได้เซ็นสัญญาขายที่ดินกับบริษัทจีนในนิคมฯ แห่งใหม่ไปแล้ว 285 ไร่

ส่วนธุรกิจโลจิสติกส์ คาดว่ารายได้จะเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากสัญญาใหม่ที่เซ็นสัญญาในปี 2561 มากถึง 259,853 ตร.ม. และยังมีสัญญาเช่าที่กำลังจะเซ็นในช่วงต้นปีนี้อีกประมาณ 100,000 ตร.ม. ในขณะที่ธุรกิจสาธารณูปโภค บริษัทตั้งเป้าขายสาธารณูปโภคที่ 120 ล้านลบ.ม. เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่ขายได้ 105 ล้านลบ.ม. และธุรกิจโรงไฟฟ้า บริษัทตั้งเป้ามีกำลังการผลิตที่ 570 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่มี 521 เมกะวัตต์

ผลจากธุรกิจต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นตัวช่วยผลักดันให้ผลการดำเนินงานในปี 2562 กลับมาเติบโตดี

แม้ว่าช่วงที่ผ่านมา บริษัทประกาศผลการดำเนินงานงบปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 บริษัทมีรายได้รวมลดลงเหลือ 11,622.20 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 12,410.00 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้จากการให้เช่าและบริการ รวมถึงรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ลดลง ส่งผลให้บริษัทมีกำไรลดลงเหลือ 2,906.80 ล้านบาท หรือ 0.2029 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 3,266.40 ล้านบาท หรือ 0.2281 บาทต่อหุ้น

ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.เอเชีย เวลท์ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” พร้อมกับปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 4.70 บาทเป็น 5.00 บาท จากการเปลี่ยนวิธีคิดมูลค่าหุ้นใหม่ จากวิธี PER เป็นวิธี Sum-of-the-part โดยแบ่งเป็นมูลค่าธุรกิจนิคมฯ และธุรกิจโลจิสติกส์อยู่ที่ 3.30 บาท และธุรกิจสาธารณูปโภคจากบริษัทย่อย WHAUP อยู่ที่ 1.70 บาท

ทั้งนี้ผลประกอบการจากทั้งธุรกิจนิคมฯ และธุรกิจโลจิสติกส์จะเติบโตได้ดี ในขณะเดียวกันธุรกิจสาธารณูปโภคของ WHAUP ก็คาดจะเติบโตดีเช่นกัน จากการรับรู้รายได้เต็มปีของโรงไฟฟ้า SPP 5 โรง ที่ COD ไปในปี 2561

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท ดับบลิวเอชเอ โฮลดิ้ง จำกัด 3,629,083,491 หุ้น 25.33%
  2. STATE STREET EUROPE LIMITED 1,586,591,785 หุ้น 11.07%
  3. น.ส.จรีพร จารุกรสกุล 1,471,761,769 หุ้น 10.27%
  4. นายสมยศ อนันตประยูร 1,032,666,723 หุ้น 7.21%
  5. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 726,552,712 หุ้น 5.07%

รายชื่อกรรมการ

  1. น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท, ประธานคณะกรรมการบริหาร, ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
  2. นายเดวิด ริชาร์ด นาร์โดน รองประธานกรรมการ
  3. นายจักรกฤษณ์ ไชยสนิท กรรมการ
  4. นายณรงค์ กริชชาญชัย กรรมการ
  5. นายสมศักดิ์ บุญช่วยเรืองชัย กรรมการ

Back to top button