ขึ้นยาก..ลงง่าย
*สถานการณ์การลงทุนเที่ยวนี้ไม่มีอะไรต้องคิดมากก็จริง แต่โอกาสที่ดัชนีจะเดินหน้าขึ้นไปอย่างแข็งแกร่งก็ไม่ง่ายเช่นกัน ยิ่งเหลือบมองดูมูลค่าการซื้อขายที่ยังคงเบาบาง ยิ่งเป็นแรงกดดันให้การเคาะขวาไม่สะดวกปลอดโปร่งเหมือนเมื่อก่อน “โมนิก้า” ถึงเข้าใจอารมณ์เหวี่ยงตัวไปมาของดัชนีในช่วง 1 เดือนครึ่งเป็นลักษณะ W-Shape มากขึ้นเป็นกองไงล่ะคะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*สถานการณ์การลงทุนเที่ยวนี้ไม่มีอะไรต้องคิดมากก็จริง แต่โอกาสที่ดัชนีจะเดินหน้าขึ้นไปอย่างแข็งแกร่งก็ไม่ง่ายเช่นกัน ยิ่งเหลือบมองดูมูลค่าการซื้อขายที่ยังคงเบาบาง ยิ่งเป็นแรงกดดันให้การเคาะขวาไม่สะดวกปลอดโปร่งเหมือนเมื่อก่อน “โมนิก้า” ถึงเข้าใจอารมณ์เหวี่ยงตัวไปมาของดัชนีในช่วง 1 เดือนครึ่งเป็นลักษณะ W-Shape มากขึ้นเป็นกองไงล่ะคะ
*งานนี้ไม่ต้องไปหาคำอธิบายแบบโลกสวยให้เสียเวลาเคาะหุ้น เพราะแค่มองดูจากการอ่อนตัวลงมายืนปิดที่ระดับ 1,630.12 จุด ลบไป 3.09 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.43 หมื่นล้านบาท มันเป็นภาพที่ฟ้องให้รู้ว่ายังไม่มีใครกล้าไล่ราคาหุ้นแบบสุดซอย หลังภาพรวมของตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 1 ยังไม่ชัดเจน ส่งผลให้การเคาะขวา 2 ที เคาะซ้าย 1 ที เป็นทางออกที่ดีสุดในยามนี้พะยะค่ะ
*เมื่อภาพรวมในช่วงท้ายสัปดาห์ไม่เป็นใจ พวกนักเล่นที่เก๋าเกมถึงเลือกใช้วิธี take profit ระยะสั้นเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน และหุ้นบลูชิพมักเป็นหุ้นกลุ่มแรกที่โดนขายเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงพยายามแนะนำให้นักลงทุนดูกรอบความเคลื่อนไหวของหุ้นส่วนใหญ่อยู่ตรงบริเวณไหน ? เพื่อจะได้กำหนดจุดของการเล่นสั้น ๆ ได้คล่องตัวขึ้นกว่าเดิม เพราะเวลานี้วัดกันที่ความไวล้วน ๆ นะจะบอกให้
*เรื่องนี้ดูตัวอย่างได้จากการวิ่งขึ้นลงของแบงก์สีเขียว KBANK ในช่วงระยะเวลา 1 เดือนครึ่งมีลักษณะเป็นแบบลาดลงเป็นส่วนใหญ่อย่างชัดเจน ย่อมเป็นประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” มองการขึ้นมาปิดที่ระดับ 193 บาท บวกไป 1 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.32 พันล้านบาท น่าจะเป็นเพียงการเด้งกลับสั้น ๆ ต่อจากนั้นราคาหุ้นก็ไหลลงต่อ วันนี้ถึงต้องมองอารมณ์ของนักลงทุนให้ออกไงล่ะคะ
*ลักษณะดังกล่าวคล้ายคลึงกับหุ้น PTTGC ถูกเทขายออกมาตลอดเวลา จนทิศทางของหุ้นอยู่ในลักษณะ side way down กลายเป็นช็อตที่นักเล่นต้องเพิ่มความละเอียดในการเข้าไปรับของ เพราะต้องเข้าไปช้อนตรงจุดเด้งกลับแบบพอเหมาะพอเจาะ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นมองการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 68.25 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 1.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.41 พันล้านบาท มันใช่จุดที่ทยอยรับของหรือเปล่า ? เพราะเที่ยวก่อนหุ้นเด้งกลับแถว 65 บาทนะจ๊ะ
*ส่วนรายที่ทำท่าเหมือนจะไปแรง แต่ดันมีแรงเทขายประปรายสกัดตลอดเวลาอย่าง BTS กลายเป็นหุ้นที่มีประเด็นให้นักเล่นต้องกลับไปคิดต่อเป็นการบ้าน เพราะการขึ้นมาปิดที่ 10.80 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 4.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 902 ล้านบาท มันเป็นการขึ้นมาปิดในลักษณะ all time high แล้วก็จริง ! แต่วันนี้ต้องมีแรงหนุนต่อเพื่อทำให้หุ้นเปลี่ยนฐานแนวรับใหม่อย่างมั่นคงอย่างเบ็ดเสร็จนะจะบอกให้
*เหมือนกับการขึ้นของหุ้น STEC ทำให้แมงเม่าบางตัวร้องวี้ดว้ายกระตู้วู้แบบออกนอกหน้า จนหลงลืมไปว่า หุ้นย่ำฐานเป็นเวลาหลายวันแล้ว ส่งผลให้การเด้งขึ้นเที่ยวนี้ไม่ได้แปลกไปกว่าที่ผ่านมา อาจต่างกันนิดหนึ่งตรงที่เที่ยวนี้มีเรื่องของการเข้าไปเสียบรถไฟฟ้าเชื่อม 3 สนามบินแทนกลุ่มซีพี หุ้นถึงมีชีวิตชีวามากกว่าปกติ พร้อมกับขึ้นมายืนปิดที่ 22.60 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 485 ล้านบาทแบบสวย ๆ ไงล่ะคะ
*สำหรับในรายที่เขาว่ากันว่า สวยจริง ! อย่างเช่น JMART ถือเป็นของร้อนสำหรับคนที่คิดจะเข้าเล่น เพราะหุ้นเข้าเขตซื้อมากเกินไปมาหลายวัน โอกาสที่หุ้นจะไปต่อแบบเริ่ดสะแมนแตนคงไม่ง่ายสักเท่าไหร่ ? “โมนิก้า” เลยขอแนะนำให้เข้าไปเก็บหุ้นในช่วงที่อ่อนตัวลงมากกว่าเข้าไปไล่ราคา เพราะการขึ้นมาปิดที่ 7.85 บาท บวกไป 0.55 บาท หรือขึ้นไป 7.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 91 ล้านบาท มันน่าจะเสี่ยงเกินไปจริง ๆ เจ้าค่ะ
*ประเด็นดังกล่าวคล้ายกับการวิ่งขึ้นของช่องน้อยสี BEC จนมาชนเส้นแนวต้าน 200 วันบริเวณ 7.30 บาทจังเบ้อเร่อ ต่อจากนั้นเริ่มออกอาการขยับขึ้นไม่ไหว ก่อนจะโดนจัดหนักแบบไม่ทันตั้งตัว จนราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ระดับ 6.60 บาท ลบไป 0.35 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 223 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะของการวัดดวงเพื่อช้อนซื้อหุ้นโดยเฉพาะ หลังหุ้นลงมาปิดที่แนวรับพอดีนะซี
*คล้ายกับกรณีของ FN มีกระแสเม้าท์มอยในตลาดหุ้นเยอะแยะไปหมด “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่นักเล่นต้องตามดูให้ดีเป็นพิเศษ เพราะการขึ้นมาปิดที่ 2.04 บาท บวกไป 0.13 บาท หรือขึ้นไป 6.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 153 ล้านบาท ย่อมมีสตอรี่ที่นักเล่นได้เคาะขวามัน ๆ กันอีกพักใหญ่เลยทีเดียว โดยเฉพาะในมุมของธุรกิจที่เปลี่ยนโฉมไปจากเดิม พร้อมกับเดินหน้าเบ่งกำไรรอบใหม่ เดี๊ยนมองเป็นเรื่องที่ทำให้แวลูของหุ้นเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนะจะบอกให้