พาราสาวะถี
สร้างความงุนงงอย่างหนักกับผลการเลือกตั้งเวลานี้ เพราะจำนวนส.ส.ที่กกต.เปิดเผยอย่างไม่เป็นทางการนั้นพบว่าเพื่อไทยได้ส.ส.เขตเน้น ๆ 138 เสียง แต่มีการนำคะแนนไม่ตกน้ำแล้วอ้างว่าพลังประชารัฐได้เสียงนิยมหรือป๊อปปูลาร์โหวตเหนือเพื่อไทย บอกได้คำเดียวว่าเล่นกันทุกทาง ยกเหตุผลเช่นนี้เพื่อที่จะได้นำไปอ้างสร้างความชอบธรรมว่าตัวเองชนะอันดับ 1 ตั้งรัฐบาลได้ อย่ามาตราหน้าว่าไร้มารยาททางการเมือง
อรชุน
สร้างความงุนงงอย่างหนักกับผลการเลือกตั้งเวลานี้ เพราะจำนวนส.ส.ที่กกต.เปิดเผยอย่างไม่เป็นทางการนั้นพบว่าเพื่อไทยได้ส.ส.เขตเน้น ๆ 138 เสียง แต่มีการนำคะแนนไม่ตกน้ำแล้วอ้างว่าพลังประชารัฐได้เสียงนิยมหรือป๊อปปูลาร์โหวตเหนือเพื่อไทย บอกได้คำเดียวว่าเล่นกันทุกทาง ยกเหตุผลเช่นนี้เพื่อที่จะได้นำไปอ้างสร้างความชอบธรรมว่าตัวเองชนะอันดับ 1 ตั้งรัฐบาลได้ อย่ามาตราหน้าว่าไร้มารยาททางการเมือง
ส่วนเรื่องการจับมือกันนั้น เมื่อเห็นตัวเลขแบบนี้พรรคที่จะเข้าร่วมเป็นไปตามที่คาดหมายกันไว้ก่อนหน้าคือ ประชาธิปัตย์ กับ ภูมิใจไทย บวกกับพรรคเล็กพรรคน้อย โดยปล่อยให้พรรคเพื่อไทยกับอนาคตใหม่กอดคอกันเป็นฝ่ายค้านพร้อมด้วยพรรคฝ่ายประชาธิปไตยอื่นอย่าง เพื่อชาติ เสรีรวมไทย แต่สองพรรคหลัง ต้องจับตามอง ผลประโยชน์ที่เย้ายวนจะทำให้เปลี่ยนแปลงจุดยืนหรือไม่
แม้ว่าจะอาศัยปัจจัยเกื้อหนุนรอบด้าน สามารถนำเสียงไปบวกกับส.ว.ลากตั้ง 250 รายได้คะแนนท่วมท้นในการที่จะยกมือโหวตให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งเป็นนายกรัฐมนตรีอีกกระทอกสมใจอยาก แต่เสียงในสภาผู้แทนราษฎรต้องให้ได้เกิน 250 เสียงไปมากพอสมควรเพื่อเสถียรภาพของรัฐบาลและของท่านผู้นำ ดังนั้น บรรดาคะแนนเสียงของพรรคเล็กพรรคน้อยทั้งหลาย จึงมีความหมายเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้พรรคเพื่อไทยพ่ายแพ้ในแง่ป๊อบปูลาร์โหวตตามที่พปชร.กล่าวอ้าง คงหนีไม่พ้นกลไกของอำนาจเผด็จการที่มีอยู่ บวกเข้ากับพลังดูดอันมหาศาล รวมไปถึงการแบ่งเขตเลือกตั้งที่มีผลเป็นอย่างมาก และที่เห็นจะเป็นผลกระทบกับทุกพรรคการเมืองคงหนีไม่พ้น การปฏิบัติหน้าที่ของกกต. จนกระทั่งเว็บไซต์ chang.org ถึงขั้นประกาศล่ารายชื่อถอดถอนกันเลยทีเดียว
ปัญหาสารพัดที่มองเห็น แม้กระทั่งการประกาศผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ เลื่อนแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยจากคืนวันเลือกตั้ง แล้วบอกว่าจะแถลงช่วงสายของวันถัดมา ก่อนจะขยับไปบ่ายและเลยไปถึงเย็น ความไม่เป็นมืออาชีพเช่นนี้ ย่อมเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความไม่โปร่งใสในการทำงานของ 7 เสือกกต. การมีอำนาจที่หวาดกลัวต่อมาตรา 44 เป็นผลให้คนส่วนใหญ่ไร้ความเชื่อถือ
ด้วยผลเลือกตั้งที่ออกมาแบบนี้ โจทย์ที่เคยบอกไว้ก่อนหน้านั้นว่ามีอยู่แค่ 2 ประการคือ โกงสะบัดกับทำให้เลือกตั้งเป็นเป็นโมฆะ อย่างหลังคงจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน เพราะนี่คือเส้นทางการสืบทอดอำนาจที่สามารถอ้างความชอบธรรมได้อย่างหน้าชื่นตาบาน ไม่ว่าจะเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนักหน่วงเพียงใดก็ตาม คงเหลือแต่เพียงเรื่องโกงกันสะบั้นหั่นแหลกนั่นแหละที่กกต.ไม่สามารถสลัดภาพที่ติดตัวไปได้
ไม่ต้องบอกว่าต้องรอผลการสอบสวนหรือใช้เวลาใด ๆ ก็ตาม เอาแค่ว่านับจากนี้หากมีการไล่สอยว่าที่ส.ส.ของพรรคการเมืองอื่นที่ไม่ใช่พรรคสืบทอดอำนาจ กรรมก็เป็นเครื่องชี้เจตนา พฤติกรรมที่ผ่านมาและผลจากการปฏิบัติที่เพิ่งผ่านพ้นไปเป็นเครื่องพิสูจน์มาตรฐานของคณะกรรมการชุดนี้ได้เป็นอย่างดีว่าน่าเชื่อถือและไว้วางใจได้มากเพียงใด
ทีนี้กลับมามองในส่วนของสองพรรคใหญ่อย่างเพื่อไทยและประชาธิปัตย์ เมื่อตัดกลไกและสรรพกำลังของฝ่ายกุมอำนาจที่ทุ่มไปอย่างเต็มที่เพื่อชัยชนะ รวมทั้งพลังดูดมหาศาลแล้ว พรรคนายใหญ่เห็นได้ชัดเจนว่า แรงกระเพื่อมเกิดขึ้นทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ นั่นหมายถึงว่าคะแนนเสียงในพื้นที่ 174 เขตที่ผู้สมัครถูกจับแพ้ฟาวล์ไปด้วยนั้นจะบริหารจัดการกันอย่างไร
ตัวเลขที่แปรกลับมาเป็นที่นั่งของพรรคอนาคตใหม่น่าจะเป็นตัวบ่งชี้ว่านี่คือ ผลพวงที่เป็นผลดีสำหรับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย แต่ที่รั่วไหลแล้วกลายไปเป็นของพรรคฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ใช่น้อย ขณะที่พรรคตระกูลเพื่อ เมื่อประเมินผลจากกระสุนที่ส่งไปเกื้อหนุนและแนวทางในการหาเสียงแล้ว ถือว่าไม่สามารถที่จะสร้างจุดขาย ชูจุดเด่นหรือเค้นคะแนนได้จากฝ่ายที่ยังไม่ได้ตัดสินใจแม้แต่น้อย
การตีโจทย์ทางการเมืองที่พลิกแพลงจนเกินไป แก้สนุ้กหลายชั้น จึงกลับมาเป็นปัญหาให้กับ ทักษิณ ชินวัตร จนเกิดเป็นความเพลี่ยงพล้ำนำมาซึ่งช่องว่างให้ฝ่ายตรงข้ามนำไปอ้างในที่สุด แต่ก็ไม่ถือว่าเสียหายภายใต้บริบทของการเมืองที่ดำเนินไปในลักษณะเช่นนี้ เพราะถือว่าหากไม่มีพรรคการเมืองแนวร่วมเดียวกันหันไปสนับสนุนขบวนการสืบทอดอำนาจ โอกาสที่จะอยู่กันยาว ๆ นั้นยากเหลือเกิน
มองแค่ภาพการแก่งแย่งเก้าอี้คุมกระทรวงเกรดเอภายในพรรคสืบทอดอำนาจก็เหนื่อยแล้ว ดังนั้น หากตั้งรัฐบาลสำเร็จ บรรดาเสนาบดีจากมุ้งต่าง ๆ คงต้องรีบโกยกันเต็มที่เพราะกระสุนที่ถูกยิงไปในการเลือกตั้งหนนี้มหาศาล บางแห่งนั้นดำเนินการกันตั้งแต่ยื่นใบสมัครแล้วได้หมายเลขประจำตัว ก่อนจะมาอัดซ้ำก่อนวันเลือกตั้งไม่ถึงสัปดาห์ เรียกว่า ลดแหลกแจกแถมกันอย่างหนักทีเดียว
เมื่อเสถียรภาพที่คนคาดหวังว่าจะเกิดจากการที่ได้ผู้นำเผด็จการกลับมามันไม่เป็นไปตามนั้น ยิ่งไม่มีมาตรายาวิเศษอยู่ในมือ การเมืองเต็มรูปแบบจึงเป็นความท้าทายทีมงานของเผด็จการ เว้นเสียแต่ว่าจะสร้างอภินิหารทางกฎหมายอย่างหนึ่งอย่างใดก่อนสืบทอดอำนาจนั่นก็อีกเรื่อง แต่คงไม่มีใครกล้าแค่ได้ไปต่อโดยไม่เสียเลือดเสียเนื้อก็ถือว่าน่าดีใจแล้ว
บรรยากาศหลังการเลือกตั้งหนนี้ โชคดีของฝ่ายสืบทอดอำนาจคงเป็นเรื่องการผลิตวาทกรรมสร้างความสงบที่ประสบความสำเร็จ เพราะสามารถกลบประเด็นโคตรโกงได้สนิท แต่จะได้นานขนาดไหนนั้น คงต้องไปลุ้นกันเอาในระหว่างการฟอร์มทีมตั้งรัฐบาล และหลังการตั้งรัฐบาลแล้ว ถ้าทุกอย่างราบรื่น เรียบร้อย การอยากอยู่ยาวก็อาจทำได้สะดวกโยธิน แต่ถ้าไม่ใช่จะเกิดภาพอย่างไรคงพอนึกกันออก
สำหรับประชาธิปัตย์ถือเป็นความพ่ายแพ้อย่างหมดรูป จน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต้องหมดสภาพและยอมรับชะตากรรมไขก๊อกจากหัวหน้าพรรคไปในที่สุด ไม่เพียงแต่หล่อใหญ่เท่านั้นที่ชอกช้ำ เพราะ ชวน หลีกภัย ก็ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน จังหวัดตรังเขต 1 ซึ่งถือเป็นหัวใจของใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง แต่หนนี้กลับพลาดท่าปราชัยให้กับผู้สมัครจากพรรคสืบทอดอำนาจ มัวแต่ด่าทักษิณตีเพื่อไทย สุดท้ายตาอยู่มาหยิบชิ้นปลามันไปเสียฉิบ ซากปรักหักพังของพรรคเก่าแก่รอบนี้ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลารื้อฟื้นกันนานขนาดไหน