ใครชนะกันแน่

ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง

พรรคพลังประชารัฐคุยโว Popular Vote สูงสุด มีความชอบธรรมช่วงชิงตั้งรัฐบาล แต่ถามว่าเราอยู่ในระบอบอะไร ระบอบประชาธิปไตยรัฐสภา ใช้เสียง ส.ส.สนับสนุนใช่หรือไม่ งั้นใครควรมีโอกาสมากกว่า 137 เสียง หรือว่า 120 เสียง

อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ อ้างความชอบธรรมให้ 250 ส.ว.ลุงตู่ตั้ง ยกมือให้แคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐ ก็คือลุงตู่นั่นไง ซึ่งดูเหมือนไม่ยาก หากรวมพรรคลุงกำนัน 5 เสียง หาอีกคนเดียว ก็ได้เป็นนายกฯ สมใจ

แต่เป็นนายกฯ แล้วจะตั้งรัฐบาล ยังไงก็ต้องได้ 250 เสียงขึ้นไป ซ้ำก่อนประชุมร่วมรัฐสภาตั้งนายกฯ ก็จะต้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรตั้งประธานรัฐสภา

แม้ตัวเลขยังไม่แน่นอนแต่ตัวเลขประเมินจากหลายสื่อออกมาคล้ายกัน พรรคที่ประกาศไม่เอาสืบทอดอำนาจ ได้แก่พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย ได้ ส.ส.รวมกัน 254 เสียง เกินครึ่งของสภา!

นี่คือตัวเลขหลังฝุ่นจาง จากตอนแรกสื่อโหมประโคม “ลุงตู่ชนะ” กระทั่งสื่อฝรั่งยังตื่นตูมไปด้วย เพราะมัวเซอร์ไพรส์ พลังประชารัฐได้เยอะเกินคาด ประชาธิปัตย์ตายหมู่ เพื่อไทยได้ต่ำกว่าครั้งที่แล้วมาก แม้เกิดปรากฏการณ์อนาคตใหม่

กระนั้นนับไปนับมา ก็ปรากฏว่าฝ่ายไม่เอาลุง (ของแท้ ไม่รวม ปชป.) กลับได้เกิน 250 เสียง แม้ตัวเลขยังเปลี่ยนได้ และคงมีการนับคะแนนใหม่วุ่นวาย หรือแจกใบเหลืองใบส้ม กว่าจะประกาศรับรองผลเป็นทางการวันที่ 9 พ.ค. แต่ยังไงก็ไม่เปลี่ยนมากนัก คอยดูสิ สมมติแจกใบส้มเพื่อไทย อนาคตใหม่ก็เอาไปกิน ยิ่งเลือกตั้งใหม่ ฝ่ายประชาธิปไตยยิ่งชนะ

พรรคฝ่ายต้านลุง จึงจ่อ 250 แน่ ๆ เพียงแต่จะได้เก้าอี้ประธานสภาหรือไม่ เท่านั้นเอง

ในทางกลับกัน แม้ 126 ส.ส.+250 ส.ว.จะตั้งนายกฯ ได้ แต่การตั้งรัฐบาล ต่อให้กวาดเอาทุกพรรคการเมืองที่เหลือ ก็ยังไม่พอ หรือเกิน 250 ก็ไม่มีเสถียรภาพ จึงมีข่าวปล่อย จะต้องช่วงชิง “งูเห่า” ซึ่งก็เป็นไปได้ ใน 7 พรรคอาจมีนักการเมืองอดอยากปากแห้งหรือกลัวอำนาจ มีชนักคดีความ แต่ใครหว่า คุยว่าเป็นรัฐบาลคนดีมีธรรมาภิบาล จะล่อซื้อกันหน้าด้าน ๆ ปานนั้น ไม่เกรงสาธารณชนรุมประณามหรือไร

อย่าลืมสิ ถึงจะอ้าง Popular Vote 7.9 ล้านเสียง แต่ 7 พรรครวมกัน มติไม่เอาลุงราว 15.3 ล้านเสียง ลำพังเดินในกรุงก็โปรดสำนึก ว่าสัดส่วนคนเลือกพลังประชารัฐกับอนาคตใหม่+เพื่อไทย คือคนรัก 1 ผืนหนัง คนชัง 2 ผืนเสื่อ อย่ามัวแต่คุยว่าได้ 12 ส.ส.

ยิ่งไปกว่านั้น จะต้องช่วงชิงงูเห่าเท่าไหร่ จึงทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ เพราะทุกพรรคจะได้โอกาส น้ำขึ้นให้รีบตัก ที่มีกองเชียร์ชราปล่อยข่าวทุกพรรควิ่งเข้าค่ายทหาร ขอร่วมรัฐบาล มโนทั้งเพ นักการเมืองรู้ดีนี่คือจังหวะตีพุงกระดิกเท้ารอ ต่อรองได้ทั้งเก้าอี้และนโยบาย เช่น ปชป.ต้อง “เกิดปั๊บรับแสน” ภูมิใจไทย “ปลดล็อกกัญชาเสรี” โดยอนุทิน ชาญวีรกูล ค่าตัวสูงปรี๊ด เพราะมีข่าวเพื่อไทยจีบไปเป็นนายกฯ

ตั้งรัฐบาลได้ ก็จะเต็มไปด้วยงูเห่าและหอกข้างแคร่ เช่น ปชป. 56 เสียงก็มีสองฝ่าย ทั้งเอาและไม่เอาลุง รอวันเอาเครดิต เอาพื้นที่ของตัวเองคืน รวมไปถึง ส.ส.ที่ถูกบีบให้ย้ายพรรคโดยไม่เต็มใจ

ตั้ง ครม.ได้เมื่อไหร่ ก็หมด ม.44 เอาไว้คอยดู