STEC กับการเมือง

หุ้นที่อิงกับนโยบายภาครัฐ ราคาผันผวนน่าดู


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร 

หุ้นที่อิงกับนโยบายภาครัฐ ราคาผันผวนน่าดู

มีทั้งที่เป็นเชิงบวก และเชิงลบ

หุ้นที่เคลื่อนไหวเชิงบวก เช่น บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น หรือ STEC ราคาวิ่งขึ้นมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ จนมาถึงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และมาขายทำกำไรเมื่อวานนี้ (ใช่หรือเปล่า)

หุ้น STEC เขาลือกันว่า มีความเกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทย

ประเด็นนี้ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า

แต่ราคาหุ้นที่ปรับลงเมื่อวานนี้ มันไปสอดคล้องกับที่พรรคเพื่อไทยแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล แต่กลับไม่มีภูมิใจไทย

และนั่นเป็นเหตุให้ราคาหุ้นร่วงลง

อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ต้น ว่า ยังไม่รู้ว่ามาจากสาเหตุนี้จริง ๆ หรือไม่ เพราะบางครั้งเวลาขึ้น หรือลงมาก ๆ นั้น

เราก็มักที่จะพยายามหา “เหตุ” ไปใส่ไว้ใน “ผล”

คือต้องหาคำตอบออกมาให้ได้ว่าหุ้นมันขึ้น หรือลงเพราะอะไร

STEC นั้น โบรกฯ ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดแนะนำ “ซื้อ”

จากข้อมูลใน settrade พบว่า มีโบรกฯ 15 แห่งที่ Cover หุ้นของ STEC ไว้ โดยในจำนวนนี้มีแนะนำซื้อ 13 แห่ง, Outperform  Market จำนวน 1 แห่ง และ “ถือ” อีก 1 แห่ง

ราคาเป้าหมายสูงสุดคือ 31.00 บาท และต่ำสุด 22.10 บาท (บล.บัวหลวงแนะ “ถือ”)

ส่วน IAA Consensus Target Price อยู่ที่ 29.00 บาท

เมื่อวานนี้ราคาหุ้น STEC ลดลง 0.30 บาท ปิดที่ 23.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 903 ล้านบาท ลดลงจากช่วง 2-3 วันก่อนหน้าที่มีมูลค่าซื้อขายเกือบ ๆ 1 พันล้านบาท

บล.ฟิลลิป บอกว่า หุ้น STEC ได้แรงหนุนทางการเมือง

ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ STEC เป็น “กลุ่มการเมือง” ที่มีลุ้นต่อรองเป็นรัฐบาล ทำให้มีแรงเก็งกำไร

และน่าจะมีการผลักดันงานก่อสร้างภาครัฐสร้างผลดีต่อภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้าง

ส่วนพื้นฐาน หรือจุดแข็งมีงานในมือ 1 แสนล้านบาท

ปีนี้มีแผนการประมูลงานเพิ่มขึ้น ช่วยหนุนให้รายได้เดินหน้าสู่ระดับ 3.1 หมื่นล้านบาท จาก 2.7 หมื่นล้านบาท

Margin ยังน่าจะรักษาไว้ได้ ต้นทุนวัสดุก่อสร้างยังไม่น่าปรับเพิ่มผันผวน และงานที่รับรู้มากขึ้นน่าจะช่วยลดสัดส่วนรายจ่ายคงที่ อัตราการทำกำไรปกติสูงขึ้น ทำให้คาดกำไรปกติปีนี้เพิ่ม 13%

ราคาหุ้น STEC ปรับขึ้นแรงตามปัจจัยบวกทางการเมือง แต่ Valuation P/B ล่าสุดยังไม่เกิน 3 เท่า เมื่อเทียบกับ P/B เฉลี่ยในอดีตที่ 3.6 เท่า

บล.เคจีไอ ก็มีมุมมองเหมือนกันว่า หุ้นกลุ่มรับเหมาจะได้อานิสงส์จากความต่อเนื่องของนโยบายรัฐบาล

และยังชื่นชอบหุ้น STEC ที่ประเมินว่าการเซ็นสัญญาโครงการใหม่ ๆ จะเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 2-3 ปีนี้ หลังมีรัฐบาลใหม่

Momentum ของกำไรยังเร่งตัวขึ้นจากการรับรู้รายได้แบบ S-curve ที่ชันขึ้นของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ชมพู และเหลือง

ด้านเทคนิคประเมินแนวรับ 22.7 บาท และแนวต้าน 24 บาท มีจุด Stop loss 22.2 บาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะ “ซื้อ” หุ้น STEC เช่นกัน

และมองว่างานประมูลโครงการใหญ่ ๆ ที่รัฐบาลปัจจุบันพยายามผลักดัน จะได้เห็นต่อเนื่องหลังผลเลือกตั้งเบื้องต้นชัดเจน

ส่วนงานในมือ หรือ Backlog มีสูงถึง 1.05 แสนล้านบาท โดดเด่นกว่ากลุ่ม และคาดหวังจะได้งานใหม่กว่า 3 หมื่นล้านบาท จากทางด่วนพระราม 3 รถไฟทางคู่ มอเตอร์เวย์ สนามบินอู่ตะเภา

คาดกำไรปกติเพิ่มขึ้น 22% เป็น 1.58 พันล้านบาท ปัจจุบันมี P/E 22 เท่า คิดเป็น PEG 1 เท่าต่ำกว่าในอดีต 1.3-1.5 เท่า

ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทยล่าสุดนั้น

ยังไม่ได้แสดงเจตนาว่าจะเข้าร่วมกับฝั่ง “เพื่อไทย” หรือ “พลังประชารัฐ” (พปชร.)

แต่ก็คาดกันว่า อาจจะเลือกฝั่ง พปชร.

ทว่า ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสมาทางฝั่งเพื่อไทย

การเมืองเป็นเรื่องยากต่อการคาดเดา

เช่นเดียวกบราคาหุ้นนั่นแหละ

Back to top button