MINT เติบโตจากอินเตอร์..!
การประกาศยุทธศาสตร์ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ที่ต้องการลดการพึ่งพิงรายได้ในประเทศ จากปัจจุบันอยู่ที่ 45% โดยคาดว่าภายใน 5 ปี รายได้ในไทยจะเหลือแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น...ถือเป็นโจทย์ท้าทายที่น่าจับตามอง ??
สำนักข่าวรัชดา
การประกาศยุทธศาสตร์ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ที่ต้องการลดการพึ่งพิงรายได้ในประเทศ จากปัจจุบันอยู่ที่ 45% โดยคาดว่าภายใน 5 ปี รายได้ในไทยจะเหลือแค่ 1 ใน 3 เท่านั้น…ถือเป็นโจทย์ท้าทายที่น่าจับตามอง ??
นั่นเท่ากับว่า MINT จะไปเน้นการเติบโตจากอินเตอร์หรือตลาดในต่างประเทศมากขึ้น !!
ถ้าให้เดา MINT คงเลือกใช้กลยุทธ์การไปเทกโอเวอร์กิจการในต่างประเทศ เพื่อเดินไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ ??
ซึ่ง MINT ย้ำว่ากิจการที่จะไปเทกโอเวอร์นั้น จะต้องเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ และเติบโตที่ดีในอนาคต โดยตั้งเป้าอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ให้ได้มากกว่า 12%
ก็คงไม่ง่ายสำหรับการค้นหาของดี…ราคาถูก แต่ก็คงไม่ยากจนเกินไป !!
ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จึงเห็น MINT เดินเกมรุกเข้าไปเทกโอเวอร์กิจการในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอาหารในประเทศออสเตรเลีย ธุรกิจโรงแรมในประเทศโปรตุเกส และธุรกิจของเอ็นเอช โฮเทล กรุ๊ป (NHH หรือ NH Hotel) ในประเทศสเปน
กลยุทธ์การเทกโอเวอร์กิจการในต่างประเทศ อาจทำให้ MINT สามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้และกำไรจากตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น…แบบก้าวกระโดด
แต่..ก็ต้องแลกมาด้วยการใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง !!
เห็นได้ชัดจากกรณีการเข้าซื้อ NHH เมื่อกลางปี 2561 ที่มีมูลค่าสูงถึง 90,000 ล้านบาท
สิ่งที่ตามมา…ส่งผลให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ของ MINT เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.53 เท่าทันที
กลายเป็นแรงกดดันต่อหุ้น MINT เพราะเกิดข้อกังวลว่า ผลตอบแทนที่ได้รับจากการเข้าซื้อ NHH จะไม่คุ้มค่ากับภาระดอกเบี้ยที่ต้องแบกรับ ??
MINT แก้ปัญหาด้วยการออกหุ้นกู้ไปแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกวงเงินไม่เกิน 40,000 ล้านบาท และล่าสุดเพิ่งออกหุ้นกู้วงเงิน 3,300 ล้านบาท เพื่อนำไปชำระเงินกู้บางส่วนที่จะครบกำหนดชำระ
โดยตั้งเป้าจะลด D/E ให้เหลือ 1.3 เท่าภายในปีนี้ ก็ต้องติดตามว่า MINT จะทำได้หรือไม่ ??
ไม่เช่นนั้นจะส่งผลกระทบต่อการขยายธุรกิจหรือซื้อกิจการใหม่ในอนาคต…
ขณะที่ผลประกอบการปี 2561 MINT ยังเติบโตระดับทรงตัว โดยมีกำไรสุทธิ 5,445 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% จากปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5,415 ล้านบาท และมีรายได้รวม 79,328 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% จากปีก่อนมีรายได้รวม 58,644 ล้านบาท
แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอาหาร 23,604 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนที่ 23,582 ล้านบาท ธุรกิจโรงแรมและอื่น ๆ 51,285 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% จากปีก่อนอยู่ที่ 30,970 ล้านบาท และธุรกิจจัดจำหน่ายและผลิต 4,439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีก่อนที่ 4,091 ล้านบาท
จะเห็นว่าในแง่ของรายได้ถือว่าเติบโตโดดเด่น (ส่วนหนึ่งเกิดจากการบุ๊กรายได้จาก NHH เข้ามาแล้วตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2561)
แต่…ในส่วนกำไรสุทธิแทบจะไม่เติบโตเลย นั่นเท่ากับว่าโจทย์ของ MINT ต้องบริหารจัดการต้นทุนให้ได้
เพื่อเดินไปสู่อีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญ คือ การมีกำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย 15-20% ต่อปี
คงน่าเสียดายแย่..!! หากกิจการที่ไปไล่เทกโอเวอร์มาจากต่างประเทศ ไม่สามารถสร้างกำไรได้อย่างที่ควรจะเป็น
จะกลายเป็นเสียของไปซะเปล่า ๆ…
…อิ อิ อิ…