V หัวคว่ำ

*ในช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังรอข่าวใหม่ ๆ เพื่อช่วยบิลต์ให้นักเล่นเกิดความฮึกเหิมในการไล่ซื้อหุ้นแบบจัดเต็ม “โมนิก้า” มักเอาสัญญาณเทคนิคมาเป็นธงนำในการประเมินทิศทางของดัชนี เพราะเป็นปัจจัยเดียวที่บอกรายละเอียดต่าง ๆ ได้มากสุด เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับหันมาสนใจเรื่องนี้กันมากหน่อย และพยายามท่องคาถามหาระรวยให้ขึ้นใจว่า “ขึ้นขาย ลงซื้อ” นะจ๊ะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ในช่วงที่ตลาดหุ้นกำลังรอข่าวใหม่ ๆ เพื่อช่วยบิลต์ให้นักเล่นเกิดความฮึกเหิมในการไล่ซื้อหุ้นแบบจัดเต็ม “โมนิก้า” มักเอาสัญญาณเทคนิคมาเป็นธงนำในการประเมินทิศทางของดัชนี เพราะเป็นปัจจัยเดียวที่บอกรายละเอียดต่าง ๆ ได้มากสุด เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับหันมาสนใจเรื่องนี้กันมากหน่อย และพยายามท่องคาถามหาระรวยให้ขึ้นใจว่า “ขึ้นขาย ลงซื้อ” นะจ๊ะ

*เนื่องจากตอนนี้ดัชนีกำลังเคลื่อนตัวในรูป V หัวคว่ำ โดยมียอดด้านบนอยู่ที่บริเวณ 1,655 จุด และมีขาที่เป็นฐานรับอยู่บริเวณ 1,630 จุด ซึ่งเป็นกรอบการลงทุนระยะสั้น ๆ ที่นักเล่นต้องอ่านทางให้ออก ขณะเดียวกันถ้าดูเป็นวงรอบใหญ่ของการเล่นจะเห็นเป็นภาพ U-Shape แบบแจ่มแจ้งแดงแจ๋ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นพยายามปรับพอร์ตให้ยืดหยุ่นสุดเท่าที่จะทำได้ในระหว่างที่ดัชนีกำลังเคลื่อนตัวแบบไซด์เวย์เจ้าค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกชิวมาก ๆ เมื่อเห็นดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,644.22 จุด ลบไป 4.84 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.45 หมื่นล้านบาท เพราะดัชนียังยืนประคองตัวเหนือแนวรับแต่ละจุดได้อย่างยอดเยี่ยม แถมข่าวร้ายต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ตลาดหุ้นไทยได้มีการซึมซับรับข่าวกันไปอย่างเต็มที่ เดี๊ยนถึงมองไม่เห็นเหตุผลที่จะทำให้ดัชนีไหลลงไปลึกไงล่ะคะ

*เหมือนกับการเคลื่อนตัวไปมาของพี่เบิ้ม PTT ในรอบสามเดือนครึ่งยังอยู่ในกรอบ 47-49 บาทเหมือนเดิมทุกประการ “โมนิก้า” เลยไม่มีความจำเป็นต้องซีเรียสอะไรทั้งสิ้น เพราะทำให้รู้ว่า บรรดากองทุนที่บอกจะลุยหุ้นไทยอีกรอบนั้น เอาเข้าจริงก็ยังไม่ทุ่มซื้อหุ้นแบบสุดซอย ส่งผลให้หุ้นพลังงานตัวนี้ต้องแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไปอย่างไม่มีกำหนดนะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของปลากระป๋องออนไลน์ TU พยายามยกฐานให้สูงขึ้นกว่าเดิมเป็นเวลากว่า 2 เดือน สุดท้ายก็ยังเคลื่อนตัวไปมาในกรอบ 18.20-19.50 บาท “โมนิก้า” ถึงมองเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดใจสำหรับคนที่อ่านทางหุ้นไม่ออก แต่สำหรับคนที่เล่นรอบเป็นประจำย่อมรู้ดีว่า การอ่อนตัวลงมาปิดที่ 18.50 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 490 ล้านบาท มันคือโอกาสของการซื้อของเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่มาแรงแซงทางโค้งอย่าง OSP กลายเป็นม้านอกสายตาที่บรรดาขาลุยพร้อมใจกระโจนใส่แบบไม่ยั้ง หลังถูกบิลต์อารมณ์ด้วยเรื่องเข้า SET50 ตลอดเวลา วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 28.75 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 881 ล้านบาท มันมีเรื่องให้คิดต่อไปว่า แวลูที่ทุกคนมองตอนนี้อยู่แค่ 30 บาท (มองแบบอนุรักษนิยม) แล้วหุ้นจะไปต่อได้ไหม ?

*สำหรับรายที่ไปต่อไม่ไหวแล้วแน่ ๆ “โมนิก้า” คงเทน้ำหนักไปที่หุ้นแบงก์สีฟ้า KTB หลังมีข่าวรั่วออกมาจากแถวเพลินจิตว่า กำไรไตรมาส 1 ไม่สวย เพราะต้องตั้งสำรองเพื่อรองรับมาตรฐานบัญชีใหม่ ขณะเดียวกันยังชวดเงินพิเศษที่จะบุ๊กในไตรมาส 2 อีกต่างหาก เลยทำให้ภาพของหุ้นในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 ดูไม่ดีเอามาก ๆ พร้อมกับทำให้ราคาหุ้นยืนซึมกระทืออยู่ที่ 19.10 บาทไงล่ะคะ

*สำหรับรายที่ทำท่าจะฟื้น แต่ไม่ฟื้นจริงอย่าง CPN กลายเป็นหุ้นที่ทำให้ “โมนิก้า” เกิดอาการเสียววาบขึ้นมาในหัวใจ หลังโดนเทขายตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนราคาหุ้นลงมากองอยู่ที่ 73 บาท ลบไป 1.25 บาท หรือลงไป 1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 850 ล้านบาท มันทำให้โมเมนตัมของหุ้นอยู่ในทิศทางแกว่งตัวลงชัดเจนขึ้นอีกแบบนี้ ไปรอรับหุ้นบริเวณฐานเก่า 70 บาทดีกว่านะคะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ BGRIM มีแรงซื้อเคาะขวาเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ราคาหุ้นยังขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้ เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า กำลังมีกองทุนบางแห่งทยอยเก็บของใส่พอร์ตแน่ ๆ วานนี้ถึงเห็นหุ้นยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 31.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 149 ล้านบาทแบบสบาย ๆ แถมเมื่อมองดูจากรูปแบบการหาโครงการใหม่ ๆ เข้ามาเติมในพอร์ตเป็นประจำ เดี๊ยนคิดว่าหุ้นไม่หยุดเพียงแค่เท่านี้แน่นอนเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่พลิกล็อกแบบไม่น่าเชื่อกลายเป็น STPI เพราะกระชากขึ้นสวนตลาดแดงเถือกหน้าตาเฉย ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 6.50 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 4.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 158 ล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ออกอาการหมดแรงข้าวต้มให้เห็นเป็นระยะ แต่สุดท้ายก็ไต่เพดานบินขึ้นมาสูงกว่ายอดเดิมก่อนหน้านี้ที่ระดับ 6.40 บาท จึงกลายเป็นไฟต์ที่ทำให้เชื่อว่าหุ้นจะไปต่อนะจ๊ะ

Back to top button