เลือกตั้งหวังโลกยอมรับ?
ผู้แทนสหประชาชาติ อียู สถานทูต 12 คน ไปสังเกตการณ์หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เข้ารับทราบข้อหา “เป็นภัยต่อความมั่นคง” ที่ สน.ปทุมวัน พวกสมองกลวงตั้งแง่ จ้างฝรั่งถนนข้าวสารมาหรือเปล่า ก่อนที่กระทรวงการต่างประเทศจะยอมรับว่า เป็นเจ้าหน้าที่ทูตจริง แต่ไม่ได้มาเอง พรรคอนาคตใหม่เชิญมา
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
ผู้แทนสหประชาชาติ อียู สถานทูต 12 คน ไปสังเกตการณ์หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เข้ารับทราบข้อหา “เป็นภัยต่อความมั่นคง” ที่ สน.ปทุมวัน พวกสมองกลวงตั้งแง่ จ้างฝรั่งถนนข้าวสารมาหรือเปล่า ก่อนที่กระทรวงการต่างประเทศจะยอมรับว่า เป็นเจ้าหน้าที่ทูตจริง แต่ไม่ได้มาเอง พรรคอนาคตใหม่เชิญมา
เป็นการชี้แจงแบบเอาข้างเข้าถู โยนให้พรรคอนาคตใหม่ ว่าถ้าไม่เชิญ เขาคงไม่มา ราวกับว่าเจ้าหน้าที่ UN EU สถานทูตสหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย แคนาดา ฯลฯ สามารถเอารถตู้ไปตระเวนรับ ชวนไปไหนมาไหนได้ง่าย ๆ
พรรคอนาคตใหม่บอกว่าไม่ได้เชิญ เขามาเอง ซึ่งก็เห็นอยู่ชัด ๆ เชิญหรือไม่ ไม่ใช่สาระสำคัญ ประเทศระดับนั้น ถ้าเขาไม่สนใจ เชิญให้ตายก็ไม่มา
พอโบ้ยไม่ได้ ผู้เฒ่าดอน ปรมัตถ์วินัย ก็โวยวายแก้หน้า จะเชิญองค์กรระหว่างประเทศและสถานทูตมาถกหลักการ จรรยาบรรณ ว่าไม่ใช่เรื่องพึงปฏิบัติ ไม่มีประเทศไหนยอมให้คนนอกก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม ซ้ำยังปลุกคนไทย ว่าทำอย่างนี้เหมาะสมหรือไม่
นี่เผลอ ๆ จะตั้งข้อหาพรรคอนาคตใหม่ดึงฝรั่งต่างชาติเข้ามาก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม
ถามจริง นี่เป็นครั้งแรกหรือไง ในรอบ 5 ปีรัฐประหาร ผู้แทน UN EU สถานทูตต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ฝรั่งแบ็กแพ็กก็ไปสังเกตการณ์คดีนักศึกษา นักวิชาการ คนอยากเลือกตั้ง โดนข้อหาขัดคำสั่ง คสช. “เป็นภัยต่อความมั่นคง” มาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน
เพียงแต่นี่เป็นครั้งแรกหลังเลือกตั้ง ซึ่ง คสช.หวังว่าจะสืบทอดอำนาจผ่านการเลือกตั้ง แล้วจะทำให้ประชาคมโลกจะยอมรับ ต่างชาติจะกลับมาลงทุน กลับมาเจรจาค้าขาย อย่างที่สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ขายฝันว่า “ปีทองการลงทุน”
แต่มันทำท่าจะไม่ใช่อย่างนั้น เพราะการเลือกตั้งเกิดปัญหาประชาชนไม่ไว้วางใจ หลายประเทศเร่งให้ประกาศผลอย่างโปร่งใส การจัดตั้งรัฐบาลก็ยังไม่ลงตัว เป็นนายกฯ ต่อได้ แต่ไม่สามารถตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ
ปรากฏการณ์ที่ 12 ผู้แทนต่างประเทศไปสังเกตการณ์ ยืนเคียงข้างธนาธร จึงสั่นสะเทือนความหวัง คสช.และบรรดากองเชียร์หน้ามืด ที่คิดว่าครั้งนี้ ต่างชาติจะยอมรับลุงตู่เสียที ที่ไหนได้ ระวังจะกลายเป็นลุงฮุนเซน
การดำเนินคดีหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งประกาศลบล้างผลพวงรัฐประหาร ปฏิรูปกองทัพ แล้วได้ชัยชนะ 6.2 ล้านเสียง สร้างความตื่นตระหนกแก่พวก “ขวาจัด” โดยจู่ ๆ ก็ขุดเรื่องเก่า 4 ปี มาตั้งข้อหา “พาผู้ร้ายหนี” เพราะรับนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ขึ้นรถ “ชุมนุมมั่วสุม” เพราะไปร่วมเรียกร้องความเป็นธรรมที่หน้า สน.ปทุมวัน ทั้งหมดนั้นอ้างว่า มีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวน เกษียณอายุราชการ ฯลฯ เพิ่งค้นเจอสำนวน
ก็ชี้แจงกันเองเถอะ ว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้ง เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ขึ้นศาลทหารก็เป็นไปตามหลักนิติรัฐ ฯลฯ อย่าว่าแต่ฝรั่งเลย คนไทยด้วยกันเองเชื่อหรือเปล่า
นี่ยังซ้ำด้วยการดำเนินคดีปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค หาว่าดูหมิ่นศาล นำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งที่การวิจารณ์คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ หากละเมิดอำนาจศาล ก็มีกฎหมายของศาลเอง ไม่ต้องให้ คสช.ไปแจ้งจับ
หวังว่าดอน ปรมัตถ์วินัย จะเจ๋งจริง เรียก UN EU สถานทูตต่าง ๆ มาเฉ่ง ว่าก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม แล้วคอยดูเขาจะมีท่าทีอย่างไร
อยากให้ชาวโลกยอมรับ แต่ตัวเองก็ไปใช้อำนาจให้เขาข้องใจ ว่ากลั่นแกล้ง กำจัดคู่แข่งทางการเมืองหรือไม่ พอเขาเข้ามาสังเกตการณ์ ก็โวยวายว่าเขาแทรกแซง ไทยแลนด์เป็นเอกราช อยู่ของเราได้ไม่ต้องพึ่งใคร
อ้าว งั้นก็อยู่แบบเขมรไปสิ ใครอยากบอยคอตต์ก็ช่าง จะไปต้องการให้เขายอมรับทำไม