ขายก่อนหยุดยาว
*ในเมื่อวอลุ่มเทรดไม่มา กระแสหลักยังไม่เกิด ข่าวทีเด็ดไม่เห็นมี ทุกอย่างมีแต่คำว่า “ไม่” บวกกับคนห่วงเล่นน้ำสงกรานต์ บรรยากาศการลงทุนถึงออกลูกแทงกั๊กต่อไปอีกหนึ่งวัน หุ้นบลูชิพถึงจมปลักอยู่ที่เดิม บวกกับท่าทีของนักลงทุนสถาบันเล่นสั้นกันเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้การขึ้นเที่ยวนี้ออกจะเป๋ ๆ ไปสักหน่อย แถมทิศทางที่ชัดเจนยังไม่เกิดขึ้นอย่างบูรณาการ มันเหนื่อยใจนะเนี่ย !
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ในเมื่อวอลุ่มเทรดไม่มา กระแสหลักยังไม่เกิด ข่าวทีเด็ดไม่เห็นมี ทุกอย่างมีแต่คำว่า “ไม่” บวกกับคนห่วงเล่นน้ำสงกรานต์ บรรยากาศการลงทุนถึงออกลูกแทงกั๊กต่อไปอีกหนึ่งวัน หุ้นบลูชิพถึงจมปลักอยู่ที่เดิม บวกกับท่าทีของนักลงทุนสถาบันเล่นสั้นกันเป็นส่วนใหญ่ ส่งผลให้การขึ้นเที่ยวนี้ออกจะเป๋ ๆ ไปสักหน่อย แถมทิศทางที่ชัดเจนยังไม่เกิดขึ้นอย่างบูรณาการ มันเหนื่อยใจนะเนี่ย !
*งานนี้ไม่ต้องไปถามใจคนอื่นให้เสียเวลา แค่ถามใจตัวเองว่า คิดอย่างไรกับการเล่นหุ้นในวันนี้ ถ้าคิดว่าใช่..ก็ใส่ไปเลย ถ้าคิดว่าไม่ใช่..ก็ถอย การเล่นเที่ยวนี้ไม่มีอะไรต้องมายด์ คอนเซ็ปต์เดิม ๆ ที่เคยใช้ก่อนหน้านี้ เก็บเข้ากรุไปได้เลย เพราะมันไม่มีรูปแบบตายตัว หุ้นหน้าตาแปลก ๆ กลายเป็นทีเด็ดที่นักเล่นไขว่คว้า เพราะแค่เห็นการเคาะนำไม้ใหญ่ ๆ ก็กรูเข้าใส่ไม่ยั้งแล้วเจ้าค่ะ
*ด้วยเหตุนี้ถึงไม่ต้องถามว่า เกมหุ้นเดินด้วยเรื่องอะไร ? เพราะคำตอบที่ทุกคนรู้ดีก็คือ หน้าตักใครเยอะกว่ากัน คนนั้นก็เป็นคนคุมเกมอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด “โมนิก้า” ถึงมองการขยับของหุ้นแต่ละตัวมีสไตล์เป็นของตัวเอง และมีเหตุผลที่ซัพพอร์ตแตกต่างกันไปอย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับ “ข่าวหุ้น” ลองศึกษาข้อมูลในส่วนนี้อีกสักนิดว่า มันช่วยดันหุ้นได้จริงไหมเจ้าค่ะ
*ขนาดหุ้นชั้นนำอย่าง SCC ยังโดนถล่มเทขายอย่างหนักหน่วงต่ออีกหนึ่งวัน จนสุดท้ายลงมาปิดที่ 454 บาท ลบไป 12 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.19 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่น่าคิดสุด ๆ เพราะวันนี้จะทำอะไรก็โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ซึ่งเหมือนรายการทุบเอาของที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ พอเรื่องทุกอย่างเคลียร์จนเป็นที่เข้าใจกับทุกฝ่าย หุ้นก็เด้งกลับขึ้นมายืนที่เดิมไงล่ะคะ
*ส่วนรายที่น่ารักน่าลุ้น “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดู GULF เป็นที่ตั้งก่อนใครเพื่อน หลังหุ้นขึ้นมายืนเหนือระดับ 100 บาท ก็มีการปรับเป้าหมายถัดไปในทันที พร้อมกับมีการประเมินโอกาสเห็นหุ้นขึ้นไปยืนแถว 108 บาท หลังกองทุนเดินหน้าเข้าเก็บหุ้นอย่างช้า ๆ แม้ในบางจังหวะจะปล่อยให้หุ้นรูดลงมาบ้าง แต่ยังเป็นโอกาสของการทยอยเก็บเข้าพอร์ต เดี๊ยนถึงมองราคาปิดที่ 100.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 580 ล้านบาทน่าสนใจไม่ใช่น้อยนะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ GPSC หากมองถึงข่าวสารที่เม้าท์กันปากต่อปาก พอเข้าใจได้ว่า มันเป็นคิวที่หุ้นต้องทะยานในเมื่อมีการชงหวานให้ถึงที่ขนาดนี้ ! คนที่รับไม้ต่อก็จำเป็นต้องโหมโรงให้มันคึกคักไปอีก “โมนิก้า” ถึงเห็นหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 61.25 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 2.95% วอลุ่มอยู่ในระดับ 543 ล้านบาท หากวันนี้ขึ้นต่อไหว เท่ากับเป็นการยืนยันโอกาสไปต่อยังเปิดกว้าง เลยมีสิทธิมองยอดด้านบนแถว 65 บาทนะจ๊ะ
*กรณีนี้เทียบได้กับหุ้นเทิร์นอะราวด์อย่าง BEC ก่อนหน้านี้เคลื่อนตัวในรูปแบบไซด์เวย์อัพมาระยะหนึ่ง วันนี้ก็ยังมีรูปแบบการเคลื่อนตัวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จึงไม่ต้องแปลกใจที่วานนี้หุ้นขึ้นมายืนที่ 8 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 9.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 572 ล้านบาท ถือเป็นภาพสะท้อนของนักโหนกระแสได้เป็นอย่างดี เพราะตอนนี้กลายเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์มากสุดจากการเยียวยาทีวีดิจิทัลนะซี
*เรื่องนี้เทียบได้กับ TRUE มองในมุมของจังหวะจะโคน “โมนิก้า” ถือเป็นจุดวัดใจนักเล่นอย่างแท้จริง เพราะผลของการยืดเวลาในการชำระหนี้ค่าใบอนุญาต น่าจะทำให้บริษัทสามารถเบ่งกำไรได้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหุ้นขึ้นไปยืนเหนือยอดเก่าบริเวณ 5.65 บาทได้อย่างมั่นคง เดี๊ยนถึงมองการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 5.25 บาท บวกไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.25 พันล้านบาท มันเป็นเรื่องที่นักเล่นต้องไปคิดเองว่า จะเอาอย่างไร ?
*ส่วนในรายของ IRPC นั้นพอเข้าใจได้บางส่วนว่า หุ้นเคลื่อนตัวในรูปแบบ W-Shape บนกรอบราคา 5.60-6.10 บาทเป็นเวลานานถึง 4 เดือนครึ่ง “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจสาเหตุการอ่อนตัวลงมาปิดที่ 5.75 บาท ลบไป 0.15 บาท หรือลงไป 2.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.06 พันล้านบาท มันมาจากตลาดหุ้นไม่ให้แวลูเหมือนเมื่อก่อน เดี๊ยนถึงมองการยืนประคองตัวอยู่บริเวณนี้ได้ ก็ถือว่าสุดยอดแล้วพะยะค่ะ
*ส่วนม้านอกสายตาที่ “โมนิก้า” รู้สึกสนใจเป็นพิเศษในรอบนี้กลายเป็น CKP หลังราคาหุ้นพยายามกระดกหัวขึ้นอย่างช้า ๆ ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 5.05 บาท ลบไป 0.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 36 ล้านบาท มันชวนให้เชื่อว่า หุ้นกำลังพยายามขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 5.50 บาทในไม่ช้า แต่มีข้อแม้ว่า หุ้นต้องย่ำฐานแนวรับบริเวณ 5 บาทให้แน่นเสียก่อน หุ้นถึงจะมีสิทธิไปได้ฉิวเหมือนรอบก่อนหน้านี้นะคะ
*ป.ล. บรรยากาศช่วงนี้เป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ จึงไม่ค่อยจะมีใครอยากไล่ราคาหุ้นแบบสุดซอย ส่งผลให้ดัชนียังวนเวียนอยู่กับที่ ก่อนจะมาปิดที่ 1,659.09 จุด ลบไป 3.04 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.07 หมื่นล้านบาท มันเป็นเหตุกาณ์ขายก่อนหยุดยาว ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีนะจะบอกให้