หุ้นเด่น ราคาพุ่งแรงช่วงไตรมาสแรก!

ข่าวหุ้นธุรกิจรวบรวมข้อมูลราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วง Q1/62 เพื่อเป็นแนวทางต่อการลงทุนช่วงต่อไปโดยมีการเก็งกำไรราคาหุ้น ซึ่งส่วนใหญ่เข้าเขต Oversold


เส้นทางนักลงทุน

ดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงไตรมาส 1/2562 ที่ผ่านมา เคลื่อนไหวผันผวน…แต่ภาพรวมยังบวก เนื่องจากดัชนีปิด ณ วันที่ 29 มี.ค.62 อยู่ที่ 1,638.65 จุด เมื่อเทียบกับวันที่ 28 ธ.ค.61 อยู่ที่ 1,563.88 จุด ปรับตัวขึ้น 74.77 จุด หรือขึ้นไป 4.78%

การปรับตัวขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงไตรมาส 1/2562 ที่ผ่านมา เกิดจากแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่ และขนาดกลาง  หลังจากราคาหุ้นมีการปรับตัวลงไปช่วงก่อนหน้าที่ต่ำ (ต่างเข้าเขต Oversold)  ประกอบกับการเข้าเก็งกำไรในหุ้นที่ราคาหุ้นยังไม่เหวี่ยงเยอะ พร้อมกับมีข่าวดีเข้ามาสนับสนุน

ทางหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจจึงทำการรวบรวมราคาหุ้นที่ปรับตัวพุ่งแรงในช่วงไตรมาสแรก (สามารถปรับขึ้นกว่า 20%) อาทิ TCMC, CPT, CBG, JMART, DDD, DIGI, RPC, STPI, AQ, FN, NER, ACC, BEC, NVD, GRAMMY, TQM, MAJOR, SAPPE, LRH, PRM, TSI, ALLA, RS, TNR, JMT, TEAM, AQUA, FPT, TC, GL, EPCO, III, MFEC, RAM, TSR, VNT, ASIA, PAF, AMANAH, TAE, DTAC, VPO, LOXLEY, JAS, INTUCH, ICHI และ PTL เป็นต้น

สำหรับ บริษัท ทีซีเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TCMC โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค.61 ที่ระดับ 1.66 บาท ขณะที่ราคาปิด ณ วันที่ 29 มี.ค. ที่ระดับ 3.18 บาท ปรับขึ้น 1.52  บาท หรือขึ้นไป 91.57% ซึ่งการปรับตัวขึ้นเป็นการขานรับผลการดำเนินงานปี 2561 ที่กำไรเติบโตแข็งแกร่ง รวมถึงมีการจ่ายเงินปันผล

ประกอบกับปี 2562 ลุ้นทำ New high ต่อ หลังผ่านพ้นช่วงการสร้างแบรนด์ ปรับโครงสร้างองค์กร มีการขยายธุรกิจไปในญี่ปุ่น และเพิ่มสำนักงานขายในต่างประเทศ ทำให้รายได้และกำไรปีนี้จะเติบโตต่อ โดยคาดกำไรปี 2562 ที่ 343 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 26% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) ปี 2561 เป็นปีแรกของการควบรวม น่าจะทำให้นักลงทุนเข้าใจความเป็น Seasonal ของ TCMC ได้ดีขึ้นและปรับกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นให้เหมาะสมได้ในปี 2562

บริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPT โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค.61 ที่ระดับ 0.65 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 29 มี.ค. ที่ระดับ 1.17 บาท ปรับขึ้น 0.52  บาท หรือขึ้นไป 80% เป็นการขานรับว่าด้วยบริษัทจะกลับมาเติบโตเด่น ซึ่งมีการตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ราว 1,100 ล้านบาท หรือเติบโต 10% จาก 963 ล้านบาทในปีก่อน พร้อมคาดว่าอัตรากำไรสุทธิจะกลับมาสู่ระดับปกติที่ใกล้เคียงกับปี 2560 ที่ทำได้ระดับ 11.35% โดยปัจจุบันมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) ราว 400 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ในปีนี้ทั้งหมด

นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ของการประปาประมาณ 6-7 โครงการ มูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท โดยการเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ บริษัทคาดหวังว่าจะชนะการประมูลในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ในช่วงไตรมาส 3/2562 เป็นต้นไป

บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CBG โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค.61 ที่ระดับ 30.75 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 29 มี.ค. ที่ระดับ 54.25 บาท ปรับขึ้น 23.50  บาท หรือขึ้นไป 76.42% ขานรับงบการเงินในไตรมาส 4/2561 โตเกินคาด หนุนโดยรายได้จากการขายที่เติบโตโดดเด่นจากตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศที่ขยายตัว รวมถึงจากต้นทุนวัตถุดิบหลักอย่างราคาน้ำตาลและเศษแก้วที่ปรับตัวลดลง อีกทั้งประสิทธิภาพในการผลิตเพิ่มขึ้นส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลง

บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค.61 ที่ระดับ 4.74 บาท ขณะที่ราคาปิด ณ วันที่ 29 มี.ค. ที่ระดับ 8.05 บาท ปรับขึ้น 3.31 บาท หรือขึ้นไป 69.83% เป็นการเก็งกำไรจากการคาดผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2562 จะเริ่มกลับมามีกำไรสุทธิ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้าที่มีผลขาดทุนสุทธิ ซึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างธุรกิจในทุกธุรกิจให้มีการเติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (J Mobile), ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด (J Fintech) และธุรกิจให้เช่าและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ บมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) และบมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) สามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ ส่วน บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ยังคงเติบโตต่อเนื่อง  ขณะเดียวกันบริษัทมีการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ดังนั้น บริษัทจึงมั่นใจว่าผลประกอบการทั้งปี 2562 กำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุดใหม่

ข้อมูลข้างต้นเป็นการหยิบยกหุ้นที่ราคาหุ้นปรับตัวพุ่งแรงในช่วงไตรมาส 1/2562 เพื่อเป็นแนวทางต่อการลงทุนช่วงต่อๆ ไป

Back to top button