กัญชาเข้าตลาดหุ้น ?

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*จริง ๆ “โมนิก้า” ไม่ค่อยสันทัดเรื่องสมุนไพรไทยสักเท่าไหร่ เพราะถนัดแต่หาหมอแผนปัจจุบันมากกว่า เลยไม่ประสีประสาเรื่องตำรับยาแผนไทย แต่เผอิญบรรดาเพื่อนสนิทมิตรสหายดันเข้าไปเกี่ยวข้องกับวงจรดังกล่าวมากมาย รวมทั้งพวกสายดำก็เดินเกมเพ่นพ่านยั้วเยี้ยเต็มไปหมด เดี๊ยนเลยเกิดความรู้สึกขึ้นมาในทันทีว่า เรื่องนี้ชักมีกลิ่นตุ ๆ โชยมาแต่ไกลเสียแล้วพะยะค่ะ

*ที่แย่ไปกว่าอยู่ตรงที่บรรดาผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นต่างรู้สึกตื่นเต้นกับการปลูกกัญชาเสรีอย่างออกหน้าออกตา จนเริ่มมีการเข้าไปร่ำเรียนในคอร์สต่าง ๆ  ที่เปิดโดยกูรูสายเขียวกันอย่างหนาตา แถมกูรูแต่ละคนที่พวกอีแอบเอ่ยชื่อขึ้นมาอ้าง ก็มีมากหน้าหลายตาเสียด้วย “โมนิก้า” เลยไม่สามารถจะปักใจเชื่อว่าคนไหนของแท้ ? คนไหนของเทียม ? จึงต้องนั่งฟังแบบเงียบ ๆ โดยไม่สามารถโต้เถียงอะไรได้สักอย่างเจ้าค่ะ

*ผนวกกับสัปดาห์ที่ผ่านมามีการอ้างอิงถึงกลุ่มทุนใหญ่ 3 กลุ่ม ซึ่งมีบทบาทเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจในประเทศ กระโดดเข้ามาแจมในธุรกิจสีเขียวอย่างเต็มตัว เท่ากับเป็นตัวกระตุ้นให้พวก 18 มงกุฎเร่งเดินเกมหาเครือข่ายเพื่อเข้ามาร่วมลงทุนธุรกิจนี้มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “โมนิก้า” เลยรู้สึกได้ทันทีว่า เรื่องนี้เกินความเหมาะสมไปหน่อย และถ้าปล่อยไปเรื่อย ๆ คงได้เห็นกัญชาลูกโซ่แหง ๆ นะตัวเอง

*สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” เชื่อเช่นนั้นไม่ได้มาจากหน่วยงานทางการมาเล่าให้ฟัง แต่เป็นผลมาจากกลุ่มคนในตลาดหุ้นเริ่มรวมตัวเพื่อจัดตั้งบริษัททำกัญชาในหลากหลายรูปแบบ พร้อมกับมีการนำเสนอพรีเซนเตชั่นแบบเลิศหรูอลังการงานสร้างอย่างที่เดี๊ยนไม่เคยเห็นมาก่อน (ก.ล.ต. กับ ตลท. ก็คงไม่มีบุญได้เห็น) มันทำให้ความคิดของเดี๊ยนนึกถึงมหากาฬบิตคอยน์ขึ้นมาในทันทีพะยะค่ะ

*ประกอบกับพรายกระซิบเล่าไทม์ไลน์ของวงประชุมเสวนาต่าง ๆ มีการระดมทุนได้แต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ย่อมเป็นสัญญาณอันตรายสำหรับตลาดหุ้นไทยอย่างแน่นอน เพราะโมเดลของทุกกลุ่มที่วางไว้ในเที่ยวนี้มีวัตถุประสงค์หลักคือการเข้าตลาดหุ้น พร้อมกับมีการอ้างอิงประเทศที่เจริญแล้ว ก็เดินมาทางนี้เหมือนกันหมดทุกที่ (กล้าพูดได้ไง และมีคนเชื่อเสียด้วย) นะจะบอกให้

*หลายคนอาจเกิดอาการงงเป็นไก่ตาแตกว่า มันจะเข้าตลาดหุ้นได้อย่างไร ? เดี๊ยนขอตอบตามที่เขาเม้าท์กันว่า พวกตัวแสบจะเอาเข้าด้วยรูปแบบของบริษัทที่ผลิตยา พร้อมกับยกตัวอย่างในต่างประเทศก็ทำกันอย่างแพร่หลาย ประเทศไทยไม่สามารถหนีเรื่องแบบนี้ไปได้หรอก ! และทันทีที่สิ้นสุดเสียงคำอธิบาย “โมนิก้า” ถึงกับมีอาการอึ้งกิมกี่ไม่นึกไม่ฝันว่าคนในตลาดหุ้นไทยสามารถวางพล็อตเรื่องมาได้ไกลขนาดนี้เจ้าค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวเลยกลายเป็นเรื่อง “ทอล์กออฟเดอะทาวน์” เพราะคนที่ได้ยินเรื่องราวดังกล่าวเกิดอาการตาลุกวาวกันเป็นแถว เพราะเป็นการฉายภาพให้เห็นว่าประเทศไทยกำลังจะมีธุรกิจที่เป็น new economy ซึ่งเหมือนกับเหตุการณ์เมื่อครั้งธุรกิจเงินทุนหลักทรัพย์บูมก่อนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 ต่อจากนั้นก็เป็นยุคของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ที่มาแรงกว่าใครเพื่อน ก่อนจะต้องหลีกทางให้กับธุรกิจไฟฟ้าทางเลือกที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในทุกภาคส่วนพะยะค่ะ

*ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่มีการพูดถึงทีไร มักทำให้ผู้คนเกิดอารมณ์คล้อยตามด้วยเป็นประจำ “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่พวกไก่อ่อนยอมควักเงินซื้ออนาคตไปกับพวกดาร์กไซด์ที่มีอยู่เกลื่อนตลาดหุ้น เพราะมันเป็นเรื่องที่ฟังดูแล้วกระตุ้นอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ยิ่งตอนนี้ถูกโหมกระแสด้วยงาน “บุรีพันรำ” อุ๊ย..ไม่ใช่ ชื่อที่ถูกต้องคือ “พันธุ์บุรีรัมย์” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 19-21 เม.ย. ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ยิ่งทำให้ผู้คนมากมายหลั่งไหลไปดูงานดังกล่าวเป็นจำนวนมากนะจะบอกให้

*ว่ากันว่า งานนี้เหมือนเป็นการชุมนุมย่อยของผู้คนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็ว่าได้ เพราะคนโน้นก็บอกจะไปงานดังกล่าว และคนนี้ก็บอกจะไปงานดังกล่าวด้วยเช่นกัน “โมนิก้า” ถึงมองสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวโยงกันมาตั้งแต่ต้นเป็นเรื่องของการกอบโกยผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม และอย่าได้หลงเข้าไปเล่นเกมของคนอื่นเป็นอันขาด เพราะเที่ยวนี้มีแต่บรรดา “เสือ สิงห์ กระทิง แรด” เต็มไปหมด..สมันน้อยควรอยู่นิ่ง ๆ ไปก่อนเจ้าค่ะ

*ขณะเดียวกันหน่วยงานกำกับดูแลตลาดหุ้นอย่าง ก.ล.ต. กับ ตลท. ควรออกมาชี้ขาดให้ทุกคนเห็นไปเลยว่า อันไหนทำได้..อันไหนทำไม่ได้ เพื่อป้องกันการสวมรอยแบบหน้าด้าน ๆ ของพวกดาร์กไซด์ ขณะเดียวกันยังเป็นการปกป้องแมงเม่าไม่ให้หลงเหลี่ยมบรรดาเสือโหย “โมนิก้า” ย่อมมองเป็นเรื่องเร่งด่วนที่หน่วยงานดังกล่าวควรทำการ “ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม” ด้วยความปรารถนาดี..น้องโมคนสวยค่ะ