เจอแรงขาย!
*หากย้อนกลับไปถึงประเด็นเก่า ๆ ที่เคยพูดถึงมาก่อนหน้านี้ จะเห็นว่าสิ่งที่ “โมนิก้า” ให้ความสำคัญมาอันดับแรกเป็นเรื่องพื้นฐานที่จะเป็นตัวหนุนให้ราคาวิ่งไปอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น หุ้นก่อนหน้านี้ถูกเฮโลซื้อจนวิ่งเกินพื้นฐานไปถึงจุด Overbought เป็นเป้าหมายการถูกขายทำกำไรเป็นอันดับแรกในช่วงที่ดัชนียังไม่มีปัจจัยบวก การเล่นในรอบนี้ต้องรับมือกับแรงขายและบริหารพอร์ตให้เข้ากับสถานการณ์ตลอดเวลาจึงจะอยู่รอดเจ้าค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*หากย้อนกลับไปถึงประเด็นเก่า ๆ ที่เคยพูดถึงมาก่อนหน้านี้ จะเห็นว่าสิ่งที่ “โมนิก้า” ให้ความสำคัญมาอันดับแรกเป็นเรื่องพื้นฐานที่จะเป็นตัวหนุนให้ราคาวิ่งไปอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น หุ้นก่อนหน้านี้ถูกเฮโลซื้อจนวิ่งเกินพื้นฐานไปถึงจุด Overbought เป็นเป้าหมายการถูกขายทำกำไรเป็นอันดับแรกในช่วงที่ดัชนียังไม่มีปัจจัยบวก การเล่นในรอบนี้ต้องรับมือกับแรงขายและบริหารพอร์ตให้เข้ากับสถานการณ์ตลอดเวลาจึงจะอยู่รอดเจ้าค่ะ
*เห็นได้จากการเคลื่อนไหวของดัชนียังอยู่ในรูปแบบขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นการเคลื่อนไหวตามน้ำที่ยังไม่มีจุดแน่นอน เมื่อหุ้นลงก็เข้าซื้อ และมาขายทำกำไรในระยะเวลาสั้น ๆ ดัชนีวานนี้ถึงได้ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,683.79 จุด บวกไปถึง 9.69 จุด ก่อนพลิกกลับมาปิดที่ระดับ 1,673.48 จุด ลบไป 0.62 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.17 หมื่นล้านบาท ดังนั้นหุ้นที่มิตรรักแฟนคลับควรให้ความสนใจเป็นหุ้นที่พื้นฐานดีและยังปรับตัวต่ำกว่าตลาด เพราะหุ้นเหล่านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นมากกว่าตัวอื่น ๆ
*เมื่อทุกอย่างกลับลงมาเป็นไปตามที่ควรจะเป็นแล้ว ประเด็นที่น่าติดตามต่อเดี๊ยนมองว่าเป็นเรื่องของผลงานบริษัทจดทะเบียนในงวดถัดไป เพราะมันเป็นสเต็ปที่จะบ่งบอกได้ว่าหุ้นควรจะไปต่อ หรือพอแค่นี้ หากชั่งน้ำหนักดูแล้วยังไม่มีอะไรในกอไผ่ ตลาดหุ้นคงมีรูปแบบเคลื่อนไหวแบบจับทางไม่ได้ไปอีกยาว การเลือกเคาะหุ้นให้ถูกตัวถูกเวลาจึงถือเป็นแนวทางการเล่นหุ้นให้ได้กำไรในจังหวะแบบนี้นะจะบอกให้ !
*เห็นได้ชัดจากหุ้นแบงก์อย่าง KKP หลังประกาศงบไตรมาส 1 ออกมาไม่ประทับใจนัก ส่งผลให้หุ้นเหลือปิดเพียง 69.50 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลบไป 2.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.12 พันล้านบาท เป็นการออกของของพวกที่ไหวตัวทัน เพราะการเคลื่อนไหวลักษณะนี้ทำให้หุ้นดูมีภาวะกดดันหนักหน่วง ด้านสัญญาณเทคนิคกลับหัวลงอย่างชัดเจนทำให้การเคลื่อนไหวเที่ยวนี้ยังเป็นขาลงไปอีกพักใหญ่ ๆ นั่นแหละเจ้าค่ะ
*ส่วน RS แรลลี่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 20.10 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 337.95 ล้านบาท นับตั้งแต่มีข่าวดีมาตรการเยียวยาดิจิทัล บรรยากาศของหุ้นถึงดูมีแต่เรื่องหวานหอมและช่างเป็นอกเป็นใจเสียเหลือเกิน นักลงทุนถึงได้ลงขันกระโจนเข้าใส่ไม่ยั้ง “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตมีลุ้นให้หุ้นวิ่งไปต่อถึงเป้า 22 บาทที่วางเอาไว้ เพราะหากทะลุได้ไฮเดิมที่ 33 บาทก็คงไม่ไกลเกินฝันนะเจ้าค่ะ
*ฟากหุ้น ESSO กลับมาเล่นกันอีกครั้งจนหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 11.90 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 242.62 ล้านบาท ด้วยปัจจัยสัญญาณเทคนิคมีทิศทางเป็นขาขึ้น ทำให้รูปแบบการเคลื่อนไหวครั้งนี้ดูดึงดูดขึ้นมาทันที เพราะหากราคาไต่ทะลุ 12 บาทได้อีกครั้ง จะเป็นตำแหน่งที่หนุนให้หุ้นขึ้นไปแตะยอดเดิม หากได้เห็นหุ้นวิ่งขึ้นไปได้ถึงแถว ๆ 14 บาทจึงไม่ใช่เรื่องยากเจ้าค่ะ
*ในรายของ KOOL ที่อากาศจะร้อนแค่ไหนก็ยิ่งวิ่งแรงเท่านั้น ! จากพฤติกรรมของหุ้นที่มักจะวิ่งขึ้นมาในช่วงหน้าร้อน เพราะถือเป็นจังหวะกอบโกยยอดขายพัดลมแอร์ที่หวังให้ไปกระตุ้นผลงานให้ดูดีกับเขาขึ้นมาได้บ้าง จึงไม่แปลกใจที่ล่าสุดเห็นราคาหุ้นลอยละลิ่วขึ้นมาปิดที่ 1.50 บาท บวก 0.04 บาท หรือบวกไป 2.74% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 61.12 ล้านบาท แต่จะทำให้ผลงานกลับมาเทิร์นอะราวด์หรือเปล่า อันนี้คงต้องลุ้นกันเอาเองนะเจ้าค่ะ…อิอิ
*อีกตัวที่ได้รับอานิสงส์กับเขาด้วยคือ ICHI “โมนิก้า” มองเป็นการเล่นโหนกระแสความคาดหวังว่ายอดขายจะกระเตื้องขึ้นตามไฮซีซั่น หนุนกันด้วยแผนเตรียมส่งสินค้าโกอินเตอร์เมืองมังกรยิ่งเพิ่มสตอรี่ให้ดูดีขึ้นมาเป็นลำดับ จึงส่งผลให้ราคาหุ้นไต่ขึ้นมาปิดที่ระดับ 3.88 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 4.86% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 42.80 ล้านบาท ทำนิวไฮในรอบ 5 เดือนยังไงล่ะจ๊ะ
*ในรายของ BCPG ถือเป็นอีกหนึ่งหุ้นน้ำดีที่มีความน่าสนใจอย่างมาก เพราะนอกจากพื้นฐานจะแข็งแกร่งแล้ว ยังขยันป้อนข่าวดีต่อเนื่อง ล่าสุดบริษัทลูกอย่าง บมจ.ลมลิกอร์ ได้เดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าให้ กฟภ. อายุสัญญายาว 25 ปี มาช่วยหนุนผลงานด้วยอีกแรง การที่หุ้นไต่ขึ้นมาปิดที่ระดับ 17.90 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3.47% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 398.02 ล้านบาท จึงถือว่ายังไม่แพงเกินไปเจ้าค่ะ
*ปิดท้ายที่หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ช่วงนี้คึกคักรอรับข่าวดีภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งเพิ่มลดหย่อนภาษีดอกเบี้ยผ่อนบ้าน ลดค่าฟรี การโอน จดจำนอง วานนี้หุ้นจึงบวกยกแผง นำโดย QH วิ่งมาปิดที่ระดับ 3.12 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 0.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 242.70 ล้านบาท ถือเป็นการวิ่งทิ้งทวนก่อนจะขึ้นเครื่องหมาย XD 24 เม.ย.นี้ จ่ายปันผลหุ้นละ 0.14 บาทเจ้าค่ะ